ปภ.รายงานวาตภัย 46 จังหวัด คลี่คลายแล้ว

กทม. 13 เม.ย.-ปภ.รายงานเกิดวาตภัยในพื้นที่ 46 จังหวัด คลี่คลายแล้วทุกจังหวัด เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค.64 ถึงปัจจุบัน เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 46 จังหวัด รวม 166 อำเภอ 398 ตำบล 1,028 หมู่บ้าน 2 เทศบาลเมือง บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 5,407 หลัง วัด 2 แห่ง รวมถึง กทม. 1 เขต 1 แขวง ผู้เสียชีวิต 1 ราย ผู้บาดเจ็บ 7 ราย ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้วทุกจังหวัด ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว


กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวเบงกอลตอนล่างเคลื่อนเข้าสู่บริเวณทะเลอันดามัน ประกอบกับลมตะวันตกเฉียงใต้ ที่พัดปกคลุมภาคใต้ฝั่งตะวันตกและทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น ทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักบางพื้นที่ ในห้วงวันที่ 31 มีนาคม 2564 – ปัจจุบัน (13 เมษายน 2564 เวลา 06.00 น.) ส่งผลให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตกและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 46 จังหวัด รวม 166 อำเภอ 398 ตำบล 1,028 หมู่บ้าน 2 เทศบาลเมือง บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 5,407 หลัง วัด 2 แห่ง รวมถึงกรุงเทพมหานคร 1 เขต 1 แขวง ผู้เสียชีวิต 1 ราย (น่าน) ผู้บาดเจ็บ 7 ราย (น่าน 1 ราย สุรินทร์ 4 ราย พิจิตร 1 ราย เชียงราย 1 ราย) แยกเป็น

ภาคเหนือ 14 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ อุตรดิตถ์ พะเยา แพร่ น่าน ลำปาง ลำพูน ตาก สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์ รวม 60 อำเภอ 180 ตำบล 592 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 3,686 หลัง ผู้เสียชีวิต 1 ราย ผู้บาดเจ็บ 3 ราย 


ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 15 จังหวัด ได้แก่ นครพนม เลย อุดรธานี สกลนคร หนองบัวลำภู ขอนแก่น ชัยภูมิ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร สุรินทร์ มุกดาหาร อุบลราชธานี ศรีสะเกษ และนครราชสีมา รวม 56 อำเภอ 108 ตำบล 196 หมู่บ้าน 1 เทศบาลเมือง บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 971 หลัง ผู้บาดเจ็บ 4 ราย 

ภาคกลาง 10 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี สระบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร รวม 36 อำเภอ 80 ตำบล 165 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 570 หลัง วัด 2 แห่ง ภาค

ตะวันออก 6 จังหวัด ได้แก่ ระยอง จันทบุรี สระแก้ว ชลบุรี ปราจีนบุรี และฉะเชิงเทรา รวม 13 อำเภอ 30 ตำบล 75 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 150 หลัง 


ภาคใต้ 1 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต รวม 1 อำเภอ 1 เขตเทศบาล บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 30 หลัง ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้วทุกจังหวัด 

ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยสำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง ทั้งการชดเชยความเสียหายของบ้านเรือนเป็นวัสดุก่อสร้างหรือจ่ายเงินช่วยเหลือตามความเหมาะสม ท้ายนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร