กทม. 9 เม.ย. – พิชัย ห่วง โควิดระบาดรอบใหม่ทำลายความหวังเศรษฐกิจฟื้น ชี้ ล้มเหลว เรียกร้องจริยธรรมและความเหมาะสม แนะนายกฯพิจารณาตัวเอง
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า การระบาดของไวรัสโควิดระลอกใหม่นี้เป็นความล้มเหลวและน่าละอายของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งจะต้องรับผิดชอบเต็มๆ ที่ปล่อยให้เกิดมีการระบาดรอบ 3 ขึ้นซึ่งได้เริ่มส่งผลการระบาดไปในวงกว้างแล้ว โดยเฉพาะการที่มีคณะรัฐมนตรี ติดโควิดและ ยังมี ครม. ที่ต้องควบคุมตัวเองอีก 10 กว่าคน รวมถึง ส.ส.ฝั่งรัฐบาลอีกเป็นจำนวนมากรวมแล้วร่วมร้อยคน สร้างความเสียหายและเป็นข่าวกระจายไปทั่วโลก
“ข่าวคราวที่มี ครม. สงสัยว่าจะติดไวรัสโควิดจากสถานบันเทิงในพื้นที่ทองหล่อ ได้สร้างความอับอายและเสื่อมเสียให้กับรัฐบาลพลเอกประยุทธ์อย่างมาก เพราะมีการเปิดเผยว่าสถานที่ดังกล่าวไม่ใช่ผับธรรมดา แต่เป็นสถานบันเทิงที่เป็นแหล่งอโคจรมีหญิงสาวเอนเตอร์เทนจำนวนมาก และก็มีการแพร่เชื้อไวรัสติดกันเป็นจำนวนมาก ทำให้มีข้อสงสัยถึงจริยธรรมและความเหมาะสมที่ ครม. จะไปสถานที่เหล่านี้ และควรจะต้องเปิดเผยไทม์ไลน์ และชี้แจงว่ามีใครไปบ้างถ้าหากไปจริง และผู้ที่ร่วมไปทั้งหมดก็ควรต้องเปิดเผยไทม์ไลน์ด้วยเช่นกัน”นายพิชัย กล่าว
นายพิชัย ยังแสดงความเป็นห่วงว่าการระบาดของไวรัสโควิดครั้งนี้จะทำลายโอกาสในการฟื้นเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างหมดสิ้น ทั้งที่ประเทศไทยกำลังจะเตรียมเปิดประเทศเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว และเปิดรับการค้าการลงทุนกันแล้ว แต่ต้องมาหยุดชะงักอีกครั้งจากการระบาดครั้งนี้ โรงแรมและสถานที่ท่องเที่ยวที่คาดหวังว่าจะมีรายได้ในช่วงสงกรานต์ต้องสิ้นหวัง และยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่รัฐบาลจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดครั้งนี้ได้ที่ทำท่าจะรุนแรงกว่าทุกครั้ง และตามที่รัฐบาลโม้ว่าเศรษฐกิจปีนี้จะขยายตัวได้ถึง 4% ในปีนี้ หลังจากปีที่แล้วทรุดหนักติดลบถึง – 6.1% ก็คงเป็นไปไม่ได้แล้ว และอาจจะทรุดหนักลงอีกมาก ซึ่งทำให้ความหวังของคนไทยที่จะลืมตาอ้าปาก ฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ต้องพลอยสิ้นหวังและฝันสลายไปด้วย โดยประชาชนจะทนกันไม่ไหว และรัฐบาลคงไม่สามารถเยียวยาประชาชนได้มากแล้วเพราะหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นสูงมากแล้ว 5 เดือนแรกก่อหนี้เพิ่มแล้ว 6 แสนล้านบาท
นายพิชัย กล่าวอีกว่าการระบาดครั้งนี้สะท้อนความล้มเหลวของรัฐบาลในการจัดการเรื่องวัคซีน เพราะหากมีการกระจายการฉีดวัคซีนเป็นจำนวนมากได้ก่อนหน้านี้เหมือนหลายๆประเทศที่มีการกระจายการฉีดวัคให้ประชาชนเป็นสัดส่วนที่มากแล้ว การระบาดก็จะไม่มากเท่านี้ ซึ่งแม้กระทั่งปัจจุบันประชาชนยังไม่ทราบเลยว่าจะได้รับการฉีดวัคซีนกันเมื่อใด และจะมีหลายยี่ห้อให้เลือกไหม อีกทั้งจะมีการจัดอันดับการฉีดให้กับกลุ่มเสี่ยงในรูปแบบใด ซึ่งแสดงถึงความล้มเหลวในการบริหารจัดการเรื่องวัคซีน เห็นได้ชัดเจนว่ามีการบริหารจัดการที่มั่วมากเพราะเมื่อมีการระบาดที่พื้นที่ทองหล่อ ก็มีการแห่กันนำวัคซีนไปฉีดให้เป็นจำนวนมาก ทั้งที่ควรมีแผนงานก่อนหน้านี้แล้ว
นายพิชัย ยังเห็นว่าการที่ ครม. และ ส.ส. จำนวนมากต้องกักตัวเอง ทำให้การบริหารราชการต้องหยุดชะงัก ซึ่งจะทำให้การดูแลช่วยเหลือประชาชนที่กำลังเดือดร้อนต้องพลอยหยุดชะงักไปด้วย และ การที่ ส.ส. ต้องกักตัวเองจำนวนมากทำให้การพิจารณา ร่างพ.ร.บ. ประชามติ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่เป็นปัญหาหลักของประเทศต้องหยุดชะงักไปด้วยเช่นกัน เหมือนกับการบริหารประเทศต้องหยุดกันหมดจากปัญหาการแพร่ระบาดครั้งนี้ ดังนั้นการระบาดของไวรัสโควิดครั้งนี้ แสดงถึงความล้มเหลวซ้ำซ้อนของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ทั้งการจัดการวัคซีน การจัดการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด และ การบริหารเศรษฐกิจที่จะยิ่งล้มเหลว จึงถึงเวลาแล้วที่พลเอกประยุทธ์ต้องพิจารณาตัวเองว่าที่ผ่านมาการบริหารของพลเอกประยุทธ์ได้สร้างความเสียหายให้กับประเทศขนาดไหน และควรจะต้องพิจารณาลาออกไปได้แล้ว ก่อนที่ประชาชนจะแห่กันออกมาไล่เพิ่มมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย