ผบ.ทบ.สั่งห้ามอาวุธ-ยุทโธปกรณ์เข้าออกชายแดน

บก.ทบ. 5 เม.ย.- ผู้บัญชาการทหารบก สั่งห้ามอาวุธ-ยุทโธปกรณ์เข้าออกชายแดน เชื่อไทยไม่โดนลูกหลง หลังเมียนมาสงบศึกชั่วคราว หยุดยิง 1 เดือน มั่นใจกองกำลังชายแดนตะวันตกดูแลสถานการณ์ได้


พล.ท.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ โฆษกกองทัพบก แถลงภายหลังการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก (นขต.ทบ.) ถึงการดูแลชายแดนไทย-เมียนมาว่า ช่วงวันที่ 26 – 27 มี.ค. 64 เกิดการสู้รบในประเทศเมียนมาใกล้ชายแดนไทยตรงข้าม อ.แม่สะเรียง และอ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งมีสภาพภูมิประเทศเป็นป่าภูเขา มีแม่น้ำสาละวินเป็นเส้นเขตแดนเป็นระยะทางประมาณ 118 กิโลเมตร สามารถใช้เรือโดยสารสัญจรข้ามไปมาได้ จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ประชาชนชาวเมียนมา ซึ่งเป็นผู้หนีภัยความไม่สงบ ชาวเมียนมาตามแนวชายแดนเดินทางข้ามแม่น้ำสาละวินมายังฝั่งประเทศไทยรวมกันเป็นกลุ่มบริเวณพื้นที่ริมแม่น้ำสาละวินฝั่งไทยใน ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง จำนวน 2,788 คน ทางกองกำลังป้องกันชายแดน กองกำลังนเรศวร โดยหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 36 ได้ดำเนินการอำนวยความสะดวก เพื่อมนุษยธรรม ในพื้นที่พักรอ ภายใต้มาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่อาจจะมีผลกระทบต่อประเทศไทยด้วยมาตรการสูงสุด และการชี้แจงให้เข้าใจสถานการณ์ ต่อมาตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค. ที่ผ่านมา มีประชาชนชาวเมียนมาได้เริ่มเดินทางกลับ หลังรับทราบสถานการณ์ จากการทำความเข้าใจกันและเดินทางกลับโดยสมัครใจ

พล.ท.สันติพงศ์ กล่าวว่า ทั้งนี้พื้นที่สู้รบที่อยู่ในความดูแลของไทยช่วง 40 กว่าปีที่ผ่านมา ไทยได้ดูแลประชาชนชาวเมียนมาตลอด โดยมีพื้นที่พักพิงชั่วคราวสำหรับผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมาจำนวน 9 จุด ตั้งแต่จ.ตาก แม่ฮ่องสอน กาญจนบุรี และจ.ราชบุรี มีประชาชนเมียนมา 78,126 คน หรือ 21,221 ครัวเรือน บางเป็นที่เป็นผู้หนีภัยจากการสู้รบ 38,856 คน ผู้อาศัย 39,270 คน ในสถานการณ์ปัจจุบันพื้นที่ที่เกิดการสู้รบระหว่างเมียนมากับชนกลุ่มน้อยที่เป็นพื้นที่ที่มีเขาสูงทั้งฝั่งไทยและเมียนมา สถานการณ์ที่เกิดขึ้นตามที่เป็นข่าวหากจากชายแดนประมาณ 20-30 กิโลเมตร และห่างจากพื้นที่ที่มีประชาชนของทั้งสองประเทศข้ามไปมาประมาณ 35-40 กิโลเมตร ลักษณะภูมิประเทศเป็นพื้นที่สูงและเป็นแนวชายแดนในปกติกำลังทางทหารในประเทศใดก็ตาม หากจะใช้กำลังในพื้นที่ที่ติดกันประเทศนั้นๆจะต้องระมัดระวังในการใช้ยุทโธปกรณ์ โดยเฉพาะการใช้เครื่องบินหรืออากาศยานโจมตีต้องอยู่ให้ห่างจากชายแดน จะใช้อาวุธยิงก็ต้องระมัดระวังเพื่อไม่ให้ล้ำเขตแดนกัน โดยเฉพาะพื้นที่เขาสูง เชื่อได้ว่าตลอดแนวชายแดนแม่น้ำสาละวินค่อนข้างปลอดภัยทั้งฝั่งไทยและเมียนมา ส่วนสถานการณ์ที่มีประชาชนของเพื่อนบ้านบาดเจ็บ เราก็ทำหน้าที่ตามมนุษยธรรม โดยรับมาดูแลและส่งไปที่โรงพยาบาล


“นี่คือสิ่งที่กองกำลังชายแดนดำเนินการอยู่ ส่วนกรณีการค้าขายอาวุธยุทโธปกรณ์ตามแนวชายแดนถือเป็นหลักการที่เราไม่ให้เกิดขึ้น ซึ่งเราไม่ยอมอยู่แล้วในทุกเรื่อง ผบ.ทบ.ได้กำชับไม่ให้มียุทโธปกรณ์ผ่านเข้าออกตามแนวชายแดนอย่างเด็ดขาด แต่ที่ผ่านมามีการตรวจสอบการส่งกระสุนวัตถุระเบิดทางบริษัทของเอกชน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมได้และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป” พล.ท.สันติพงศ์ กล่าว

พล.ท.สันติพงศ์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ผบ.ทบ.มีความเป็นห่วงชายแดนไทยเมียนมา โดยจะเห็นว่าเมื่อสองเดือนที่ผ่านมาผบ.ทบ.ให้ความสำคัญกับพื้นที่ภาคตะวันตกที่ติดกับฝั่งเมียนมา ห่วงใยความปลอดภัยของคนไทยเป็นที่สุด อีกทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านและทิศใต้มีการแพร่ระบาดอย่างหนัก จึงให้ความสำคัญกับกองกำลังแนวชายแดนในการตรวจ และสกัดรวมทั้งสร้างมาตรการอื่นๆให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด จึงให้ความมั่นใจได้ว่ากองกำลังป้องกันชายแดน โดยเฉพาะฝั่งตะวันตกมีประสิทธิภาพในการทำงาน

เมื่อถามว่า การใช้อากาศยานโจมตีต้องมีระยะห่างจากชายแดนฝั่งประเทศไทยเท่าไหร่ พล.ท.สันติพงศ์ กล่าวว่า ตนไม่ขอตอบ แต่ทุกประเทศต้องระมัดระวังในการปฏิบัติการตามแนวชายแดน เพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนต่อเส้นเขตแดน ทั้งในส่วนด้านตะวันตกที่เป็นแม่น้ำสาละวินและแม่น้ำเมย ซึ่งตามสนธิสัญญาถือเป็นแม่น้ำกลาง สองประเทศสามารถใช้ร่วมกันได้ แต่ถ้าข้ามไปฝั่งใดก็ถือเป็นสิทธิและอธิปไตยของประเทศนั้นที่ไม่ก้าวล่วงกัน ทหารฝั่งไทยหรือฝั่งของเมียนมาจะไม่ข้ามไปอีกฝั่งของลำน้ำ เราเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน


เมื่อถามว่า โอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุการใช้อากาศยานของเมียนมาข้ามมาฝั่งไทยจนเกิดผลกระทบจะไม่เกิดขึ้นใช่หรือไม่ พล.ท.สันติพงศ์ กล่าวว่า เป็นข้อระมัดระวังของกองกำลังป้องกันชายแดนของทุกประเทศอยู่แล้ว ที่จะพยายามไม่ให้เกิดสิ่งนี้
เมื่อถามว่า ผบ.ทบ.ได้ให้แนวทางกับกองกำลังชายแดนอย่างไร หากการใช้อาวุธในฝั่งเมียนมาข้ามเข้ามาฝั่งไทย พล.ท.สันติพงศ์ กล่าวว่า เชื่อว่าสถานการณ์น่าจะยังอีกไกล เพราะทางรัฐบาลเมียนมาประกาศหยุดยิง 1 เดือน สถานการณ์ในเมียนมาคงจะมีความเรียบร้อย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจ ลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร ด้านบริษัท 9PK นำเอกสารชี้แจง พร้อมขอให้บริษัทจีนช่วยอนุมัติเงินมาจ่ายให้กลุ่มผู้รับเหมาก่อน

จับแล้วโจรบุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่

จับแล้วโจรมาเลย์บุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่ จนมุมสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ เผยมาหาลูกชายที่ จ.นนทบุรี แต่ลูกไม่ให้เข้าบ้าน

ปิดล้อมจับชายวัย 43 ยิงเพื่อนบ้าน-ตร.เจ็บ 4

ตำรวจปิดล้อมนานถึง 11 ชั่วโมง จับชายวัย 43 ปี ใช้ปืนยิงเพื่อนบ้านและตำรวจที่เข้าระงับเหตุ บาดเจ็บรวม 4 ราย หลังโมโหเพื่อนบ้านติดกล้องวงจรปิดหันส่องไปทางบ้านผู้ก่อเหตุ ยิงแก๊สน้ำตา-ญาติเกลี้ยกล่อม ยังไม่เป็นผล

แผ่นดินไหวขนาด 5.8 ในไต้หวัน-ไม่มีรายงานความเสียหาย

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาไต้หวันรายงานวันนี้ว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาดด 5.8 ที่เทศมณฑลอี้หลาน (Yilan) ซึ่งเป็นพื้นที่ชนบทห่างไกลทางตจะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ปล่อยแถวเจ้าหน้า​ที่​รักษาความสงบเรียบร้อยช่วงสงกรานต์

นายกฯ ปล่อยแถวเจ้าหน้า​ที่​ป้องกันอาชญากรรม รักษาความสงบเรียบร้อยช่วงสงกรานต์​ ขอบคุณเสียสละช่วงวันหยุดดูแลประชาชน​ ฝากอย่าให้เกิดสิ่งผิดกฎหมาย​ สร้างความเชื่อมั่นให้ประเทศ​ หลังมีข่าวลือเยอะ​

ปชช.ทยอยกลับภูมิลำเนา จราจรมุ่งหน้าเหนือ-อีสาน เริ่มหนาแน่น

ประชาชนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปริมาณรถมุ่งหน้าสู่ภาคเหนือและอีสาน เริ่มหนาแน่น แต่ยังเคลื่อนตัวตามกันได้ ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ดูแลและอำนวยความสะดวกการเดินทาง

นายกฯ ระดมทีมสร้างความเชื่อมั่น ดึงนักท่องเที่ยวเข้าไทย

“นายกฯ แพทองธาร” ระดมทีมท่องเที่ยว ทำความเข้าใจ สร้างภาพลักษณ์ไทยไม่อันตราย หลังแผ่นดินไหว ตั้งเป้าเพิ่มนักท่องเที่ยวแทนยอดที่หาย ดึงชาติอื่นแทนจีน