fbpx

กต.ยันไม่มีนโยบายผลักดันผู้หนีภัยเมียนมา

กระทรวงการต่างประเทศ 1 มี.ค.- กระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันไทยไม่มีนโยบายผลักดันผู้อพยพเมียนมา พร้อมดูแลตามหลักสิทธิมนุษยชน เตรียมพร้อมอพยพคนไทยกลับประเทศหากสถานการณ์รุนแรงขึ้น

นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงท่าทีของไทยต่อสถานการณ์ในเมียนมา ว่า ประเทศไทยไม่สบายใจต่อการเสียชีวิตและการบาดเจ็บของประชาชนเมียนมา จึงขอให้ทางการเมียนมาใช้ความอดทนในการดำเนินการและคลี่คลายสถานการณ์ พร้อมทั้งให้ปล่อยตัวผู้ที่ถูกจับกุม และให้ทุกฝ่ายหาทางออกร่วมกัน อย่างสันติวิธีผ่านการพูดคุย ตามช่องทางที่สร้างสรรค์โดยเร็ว ซึ่งในส่วนของไทยกำลังทำงานอย่างใกล้ชิดกับ ประเทศสมาชิกอาเซียน รวมถึงประเทศเมียนมา เพื่อให้ได้สันติภาพที่ยั่งยืนสำหรับประชาชนชาวเมียนมา และเพื่อให้เมียนมากลับคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด ซึ่งเมียนมาที่มีสันติมีเสถียรภาพ ความเป็นปึกแผ่น ความเจริญรุ่งเรือง จะเป็นประโยชน์ไม่เฉพาะต่อเมียนมาแต่จะส่งผลต่อเมียนมาและส่งผลต่อนานาประเทศด้วย


สำหรับกรณีที่มีผู้หนีภัยความไม่สงบเข้ามาในประเทศไทยในช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมานั้น โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันว่า ไทยได้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมขอให้มั่นใจว่าไทยมีประสบการณ์ในการรับมือ รวมทั้งบริหารจัดการให้เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน ตลอดจนเตรียมพื้นที่ในการอพยพ และนำผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเข้ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาล ซึ่งขณะนี้มีผู้อพยพเข้ามาในประเทศไทยทั้งสิ้น 2,788 คน มีผู้แสดงความจำนงขอกลับประเทศแล้ว 2,572 ยังเหลือเพียงกลุ่มเด็ก สตรี และคนชรา จำนวน 216 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564) และไทยไม่มีนโยบายในการผลักดันผู้อพยพอย่างแน่นอน โดยจะต้องดูแลตามหลักสิทธิมนุษยธรรม พร้อมย้ำว่า ผู้ที่เดินทางกลับไปเป็นการเดินทางด้วยความสมัครใจ ไม่ใช่การผลักดัน

นายธานี กล่าวว่า ขณะนี้หน่วยงานด้านความมั่นคงไทยติดตามสถานการณ์ในเมียนมาอย่างใกล้ชิด และมีมาตรการรองรับอยู่แล้ว ส่วนการดูแลตามหลักมนุษยธรรม นั้น ประเทศไทยไม่มีนโยบายเรื่องการผลักดันผู้ลี้ภัยกลับประเทศ และเมื่อเข้ามาจะดูแลตามหลักมนุษยธรรม แม้ว่าไทยไม่ได้เป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยสถานะผู้ลี้ภัย ซึ่งหากเป็นภาคีจะมีพันธะกรณีที่จะต้องรับและให้สิทธิ์ในการจ้างงานด้านการศึกษาภายใต้อนุสัญญา ทั้งนี้ในช่วงหลาย 10 ปีไทยได้รับผู้ลี้ภัยต่างๆ จากประเทศเพื่อนบ้านและพื้นที่ตามแนวชายแดนก็มีศูนย์พักพิง ซึ่งบางส่วนก็ได้เดินทางกลับเมียนมาหรือไปตั้งถิ่นฐานในประเทศที่ 3 ซึ่งผู้ที่ลี้ภัยเข้ามาจะต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบของไทยอย่างเข้มงวด อีกทั้งพื้นที่ตามแนวชายแดนก็มีการควบคุมอย่างเข้มงวดตามหลักปฏิบัติของฝ่ายความมั่นคง


ส่วนกรณีที่มิสแกรนด์เมียนมาขอทำนักอยู่ในประเทศไทยต่อ นั้น นายธานีระบุว่า เป็นการขอขยายอายุการตรวจลงตราเท่านั้น เรื่องนี้ไม่มีความกังวล เพราะประเทศไทยสามารถ เดินทางเข้าออกได้ตามปกติแล้ว และขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากสถานทูตเมียนมาในประเทศไทย 

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยังกล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือคนไทยในเมียนมาว่า กระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงย่างกุ้ง ว่า สถานการณ์ยังมีการประท้วงเป็นบางพื้นที่ แต่ยังไม่ส่งผลกระทบต่อการจัดหาอาหารสิ่งของไม่ขาดแคล โดยทางการไทยได้มีการจัดทำแผนการเตรียมพร้อมอพยพคนไทย และประชุมประเมินสถานการณ์ทุกวัน อย่างต่อเนื่อง และจากการประเมินสถานการณ์ขณะนี้ยังไม่ถึงขันต้องอพยพคนไทยกลับประเทศ แต่หากสถานการณ์รุนแรงขึ้นทางการไทยก็พร้อมที่จะอพยพคนไทยกลับ ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตไทย ได้มีการอำนวยความสะดวกในการเดินทางกลับไทยทางอากาศในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งได้ประสานเที่ยวบินไว้ 3 เที่ยวบิน คือ วันที่ 6 เมษายน 2564 2 เที่ยวบิน และวันที่ 9 เมษายน 2564 1 เที่ยวบิน หากผู้ที่ประสงค์จะกลับไทยสามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง ผ่านช่องทางต่างๆ ทั้ง Facebook : Royal Thai Embassy,Yangon // โทรศัพท์ (+951) 222 784 และ (+951) 226 728 ในเวลาราชการ // และโทรศัพท์ +95 9797002801 นอกเวลาราชการ. สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

ข่าวแนะนำ

คุมเพลิงไหม้ “วิน โพรเสส” ได้แล้ว 95%

เหตุไฟไหม้โรงงานเก็บขยะเคมีอันตราย วินโพรเสส อ.บ้านค่าย จ.ระยอง วันนี้ เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงได้แล้ว 95% เหลือเพียงจุดความร้อนที่อยู่ใต้ซากกองเพลิง ซึ่งยังต้องใช้สาร F500 ฉีดลดความร้อน แต่ยังมีกลิ่นฉุนแอมโมเนีย ด้านกรมโรงงานอุตสาหกรรมเช็กกล้องวงจรปิดตรวจสอบว่าเป็นการวางเพลิงเพื่อทำลายหลักฐานเช่นเดียวกับเหตุที่เกิดขึ้นใน อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา หรือไม่

นายกฯ แจงเรียก “สุชาติ-รัฐมนตรี” เข้าพบ แค่ตามงาน

นายกฯ อารมณ์ดี เดินลงตึกไทยฯ พบสื่อ แจงเรียก “สุชาติ-รมต.” มีชื่อหลุด ครม.เข้าพบแค่ตามงาน ย้ำปรับ ครม.เสร็จเมื่อไหร่เดี๋ยวก็รู้ ยันกินข่าวเที่ยงวานนี้ไม่มี ”ทักษิณ“

รวบ 2 ใน 4 อุ้มฆ่าหนุ่มไทใหญ่ทิ้งป่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

รวบแล้ว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “จ๋อมวัน” หนุ่มไทใหญ่ ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าที่ จ.เชียงใหม่ ปมสังหารอ้างไม่พอใจถูกแซวเรื่องหญิงคนสนิท

ดวงอาทิตย์ตั้งฉาก กทม.ครั้งแรกของปี

วันนี้เป็นครั้งแรกของปีที่ดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับพื้นที่ กทม. ส่งผลให้ดวงอาทิตย์เคลื่อนผ่านใกล้จุดเหนือศีรษะ หรือตั้งฉากกับพื้นที่บริเวณต่างๆ ของไทย 2 ครั้งต่อปี คือช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. และเดือน ก.ค.-ก.ย.