กต.ยันไม่มีนโยบายผลักดันผู้หนีภัยเมียนมา

กระทรวงการต่างประเทศ 1 มี.ค.- กระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันไทยไม่มีนโยบายผลักดันผู้อพยพเมียนมา พร้อมดูแลตามหลักสิทธิมนุษยชน เตรียมพร้อมอพยพคนไทยกลับประเทศหากสถานการณ์รุนแรงขึ้น

นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงท่าทีของไทยต่อสถานการณ์ในเมียนมา ว่า ประเทศไทยไม่สบายใจต่อการเสียชีวิตและการบาดเจ็บของประชาชนเมียนมา จึงขอให้ทางการเมียนมาใช้ความอดทนในการดำเนินการและคลี่คลายสถานการณ์ พร้อมทั้งให้ปล่อยตัวผู้ที่ถูกจับกุม และให้ทุกฝ่ายหาทางออกร่วมกัน อย่างสันติวิธีผ่านการพูดคุย ตามช่องทางที่สร้างสรรค์โดยเร็ว ซึ่งในส่วนของไทยกำลังทำงานอย่างใกล้ชิดกับ ประเทศสมาชิกอาเซียน รวมถึงประเทศเมียนมา เพื่อให้ได้สันติภาพที่ยั่งยืนสำหรับประชาชนชาวเมียนมา และเพื่อให้เมียนมากลับคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด ซึ่งเมียนมาที่มีสันติมีเสถียรภาพ ความเป็นปึกแผ่น ความเจริญรุ่งเรือง จะเป็นประโยชน์ไม่เฉพาะต่อเมียนมาแต่จะส่งผลต่อเมียนมาและส่งผลต่อนานาประเทศด้วย


สำหรับกรณีที่มีผู้หนีภัยความไม่สงบเข้ามาในประเทศไทยในช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมานั้น โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันว่า ไทยได้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมขอให้มั่นใจว่าไทยมีประสบการณ์ในการรับมือ รวมทั้งบริหารจัดการให้เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน ตลอดจนเตรียมพื้นที่ในการอพยพ และนำผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเข้ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาล ซึ่งขณะนี้มีผู้อพยพเข้ามาในประเทศไทยทั้งสิ้น 2,788 คน มีผู้แสดงความจำนงขอกลับประเทศแล้ว 2,572 ยังเหลือเพียงกลุ่มเด็ก สตรี และคนชรา จำนวน 216 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564) และไทยไม่มีนโยบายในการผลักดันผู้อพยพอย่างแน่นอน โดยจะต้องดูแลตามหลักสิทธิมนุษยธรรม พร้อมย้ำว่า ผู้ที่เดินทางกลับไปเป็นการเดินทางด้วยความสมัครใจ ไม่ใช่การผลักดัน

นายธานี กล่าวว่า ขณะนี้หน่วยงานด้านความมั่นคงไทยติดตามสถานการณ์ในเมียนมาอย่างใกล้ชิด และมีมาตรการรองรับอยู่แล้ว ส่วนการดูแลตามหลักมนุษยธรรม นั้น ประเทศไทยไม่มีนโยบายเรื่องการผลักดันผู้ลี้ภัยกลับประเทศ และเมื่อเข้ามาจะดูแลตามหลักมนุษยธรรม แม้ว่าไทยไม่ได้เป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยสถานะผู้ลี้ภัย ซึ่งหากเป็นภาคีจะมีพันธะกรณีที่จะต้องรับและให้สิทธิ์ในการจ้างงานด้านการศึกษาภายใต้อนุสัญญา ทั้งนี้ในช่วงหลาย 10 ปีไทยได้รับผู้ลี้ภัยต่างๆ จากประเทศเพื่อนบ้านและพื้นที่ตามแนวชายแดนก็มีศูนย์พักพิง ซึ่งบางส่วนก็ได้เดินทางกลับเมียนมาหรือไปตั้งถิ่นฐานในประเทศที่ 3 ซึ่งผู้ที่ลี้ภัยเข้ามาจะต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบของไทยอย่างเข้มงวด อีกทั้งพื้นที่ตามแนวชายแดนก็มีการควบคุมอย่างเข้มงวดตามหลักปฏิบัติของฝ่ายความมั่นคง


ส่วนกรณีที่มิสแกรนด์เมียนมาขอทำนักอยู่ในประเทศไทยต่อ นั้น นายธานีระบุว่า เป็นการขอขยายอายุการตรวจลงตราเท่านั้น เรื่องนี้ไม่มีความกังวล เพราะประเทศไทยสามารถ เดินทางเข้าออกได้ตามปกติแล้ว และขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากสถานทูตเมียนมาในประเทศไทย 

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยังกล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือคนไทยในเมียนมาว่า กระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงย่างกุ้ง ว่า สถานการณ์ยังมีการประท้วงเป็นบางพื้นที่ แต่ยังไม่ส่งผลกระทบต่อการจัดหาอาหารสิ่งของไม่ขาดแคล โดยทางการไทยได้มีการจัดทำแผนการเตรียมพร้อมอพยพคนไทย และประชุมประเมินสถานการณ์ทุกวัน อย่างต่อเนื่อง และจากการประเมินสถานการณ์ขณะนี้ยังไม่ถึงขันต้องอพยพคนไทยกลับประเทศ แต่หากสถานการณ์รุนแรงขึ้นทางการไทยก็พร้อมที่จะอพยพคนไทยกลับ ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตไทย ได้มีการอำนวยความสะดวกในการเดินทางกลับไทยทางอากาศในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งได้ประสานเที่ยวบินไว้ 3 เที่ยวบิน คือ วันที่ 6 เมษายน 2564 2 เที่ยวบิน และวันที่ 9 เมษายน 2564 1 เที่ยวบิน หากผู้ที่ประสงค์จะกลับไทยสามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง ผ่านช่องทางต่างๆ ทั้ง Facebook : Royal Thai Embassy,Yangon // โทรศัพท์ (+951) 222 784 และ (+951) 226 728 ในเวลาราชการ // และโทรศัพท์ +95 9797002801 นอกเวลาราชการ. สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร