เรือเกยคลองซูเอซ คาดไม่กระทบระยะยาว

กรุงเทพฯ 28 มี.ค.-นายกฯ ตรวจความพร้อมแก้ปัญหาเรือเกยคลองซูเอซ คาดไม่กระทบระยะยาว พลังงานไม่กังวล

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์เมื่อ 23 มี.ค. ที่เรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ Ever Given เกยตื้นขวางคลองซูเอส ซึ่งเป็นเส้นทางการขนส่งทางเรือที่สำคัญของโลก เสมือนทางลัดเชื่อมเอเซียกับยุโรปที่เป็นตลาดใหญ่ของสินค้าไทย ทำให้มีเรือบรรทุกสินค้าลำอื่น ติดอยู่กว่า 300 ลำ


ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ติดตามสถานการณ์เพื่อเตรียมการรองรับผลกระทบและหามาตรการทางออกให้แก่ผู้ประกอบการไทย โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รายงานว่า ได้สั่งการให้สำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศเตรียมพร้อมการประสานงานกับผู้นำเข้าและส่งออกเรื่องขอขยายเวลาการส่งสินค้า รวมถึงดูแลผู้ส่งออกหากพิจารณาเปลี่ยนเส้นทางการขนส่งไปเป็นเส้นแหลมกู๊ดโฮป ทวีปแอฟริกาสู่ยุโรปแทน เพื่อให้สามารถส่งสินค้าไปได้ ซึ่งจะมีต้นทุนเพิ่มและใช้เวลานานขึ้นโดยประมาณ10 วัน อีกทั้ง มอบหมายกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเป็นศูนย์กลางในการประสานงานเรื่องที่จะต้องมีการหารือในข้อกังวลต่างๆของภาคเอกชนต่อไป

ในด้านพลังงาน สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ประเมินว่าจะไม่กระทบต่ออุปทานพลังงานของประเทศไทยทั้งน้ำมันก๊าซหุงต้ม (LPG) และก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เนื่องจากสัดส่วนการนำเข้าก๊าซธรรมชาติที่ต้องขนส่งผ่านเส้นทางนี้มีไม่สูงนัก และผู้ประกอบการได้บริหารจัดการปรับเส้นทางการขนส่งทางเรือไปใช้เส้นทางอื่น และเช่นเดียวกัน ไม่ต้องวิตกกังวลปัญหาขาดแคลนน้ำมัน เพราะมีการนำเข้าจากหลายแหล่งผลิต อีกทั้งผู้ประกอบการมีการสต๊อกน้ำมันไว้เพียงพอ เป็นไปตามปริมาณที่กฎหมายกำหนด


นางสาวรัชดา กล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรีไม่นิ่งนอนใจต่อความกังวลของผู้ประกอบการทั้งนำเข้าและส่งออกที่จะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไม่คาดคิดนี้ แต่จากการติดตามข้อมูล คาดว่าจะไม่กระทบในระยะยาวเพราะทางบริษัทเจ้าของเรือและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ระดมกำลังเพื่อแก้ปัญหาอยู่ทั้งการเคลื่อนเรือและลดน้ำหนักเรือด้วยการยกตู้คอนเทนเนอร์ออก หากภาคเอกชนมีข้อติดขัดในเรื่องใด รัฐบาลก็พร้อมที่จะให้การช่วยเหลือ ดังเช่นที่ผ่านมาเรื่องการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งนายกฯได้เร่งรัดให้ดำเนินการปรับปรุงกฎระเบียบ อำนวยความสะดวกแก้ผู้ประกอบการ จนปัญหาคลี่คลายแล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

5 แรงงานไทยปลอดภัยดี พูดคุยปกติ หลังฮามาสปล่อยตัว

“พิพัฒน์” เผย 5 แรงงานไทยปลอดภัยดี พูดคุยปกติ หลังได้รับการปล่อยตัว มอบปลัดแรงงาน ดูแลสิทธิประโยชน์กองทุนฯ ต่างประเทศ และประกันสังคม

นายกฯ ยินดีหลังได้รับยืนยัน 5 คนไทยได้รับการปล่อยตัวจากกาซาแล้ว

“นายกฯ แพทองธาร” ยินดีหลังได้รับการยืนยัน 5 คนไทยได้รับการปล่อยตัวจากกาซาแล้ว สั่ง รมต.ต่างประเทศ เดินทางไปรับตัวกลับสู่อ้อมกอดประเทศไทย พร้อมขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องสำหรับการช่วยเหลือ หวังคนไทยที่เหลือจะได้รับการปล่อยตัวกลับบ้านอย่างปลอดภัย

ฮามาสปล่อย 5 ตัวประกันคนไทยแล้ว

อิสราเอลยืนยัน 5 ตัวประกันคนไทย อยู่กับสภากาชาดสากลแล้ว กำลังเดินทางข้ามแดนเข้าอิสราเอล หลังถูกกลุ่มฮามาสจับกุมไปตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค.66

ศาลธัญบุรีให้ประกัน “ต้า โอริโอ้” กับพวก

ศาลธัญบุรีให้ประกัน “ต้า โอริโอ้” กับพวก คนละ 1 เเสนบาทคดีร่วมกันทำร้ายโดยใช้อาวุธ ออกคำสั่งห้ามเข้าใกล้ผู้เสียหาย นัดรายงานตัว 24 เม.ย.นี้