“จุรินทร์” ยันการแก้ รธน. เป็นนโยบายรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา

ภูเก็ต 27 มี.ค. – “จุรินทร์” ยันการแก้ รธน. เป็นนโยบายรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา ผูกพันทั้งรัฐสภาและคนไทยทั้งประเทศ พรรคร่วมทุกพรรคควรได้เดินหน้าตามนโยบายของรัฐบาล


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นกฎหมายรัฐธรรมมนูญและกฎหมายประชามติ ต่อกรณีล่าสุด กฤษฎีกาจะส่งเรื่องมาที่ กมธ. และจะนำเข้าสู่การพิจารณาในการประชุมร่วมรัฐสภา สมัยวิสามัญครั้งที่ 2 ในวันที่ 7-8 เม.ย.นี้ว่า เท่าที่ตรวจสอบเบื้องต้นจาก กมธ. ในส่วนพรรคประชาธิปัตย์ คิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร สำหรับการที่ กมธ.จะไปปรับแก้ให้สอดคล้องกับมติของที่ประชุมรัฐสภาที่ผ่านมา และสามารถที่นำเข้าสู่การพิจารณาในวันที่ 7-8 เม.ย. ได้ เพราะฉะนั้นคิดว่าทุกอย่างก็คงเดินหน้าต่อไปได้ และสภาก็สามารถพิจารณามาตราต่อๆ ไปได้จนจบถึงวาระ 3 ซึ่งเมื่อเข้าวาระ 3 พรรคประชาธิปัตย์ก็จะให้การสนับสนุน เพราะต้องการให้มีกฎหมายประชามติเกิดขึ้นโดยเร็ว ถือเป็นส่วนหนึ่งที่จะสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไป เพราะการแก้รัฐธรรมนูญในหลายมาตราจะระบุว่าต้องนำไปทำประชามติด้วย ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย เพราะฉะนั้นกฎหมายประชามติจึงเป็นกฎหมายที่มีความจำเป็นและสำคัญ

ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงปัจจัยในส่วนของเสียง ส.ว. หวั่นใจหรือไม่ว่าจะซ้ำรอยการลงมติวาระ 3 เหมือนการแก้รัฐธรรมนูญ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ตอบว่า ไม่สามารถตอบล่วงหน้าได้ แต่พรรคประชาธิปัตย์ก็พร้อมให้การสนับสนุน และโดยเหตุที่ได้คุยกันมาในวิปรัฐบาลตั้งแต่เบื้องต้น อย่างน้อยในส่วนรัฐบาลก็ควรให้การสนับสนุนทุกพรรค เท่าที่ทราบเบื้องต้นพรรคการเมืองอื่นๆ ก็พร้อมให้การสนับสนุน แต่ทั้งหมดตนก็ไม่ควรไปตอบแทนคนอื่น อย่างน้อยประชาธิปัตย์ยืนยันว่าให้การสนับสนุนแน่นอน


ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า ในเบื้องต้นวิปพรรคร่วมมีแนวทางในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างไร หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า 1. การแก้ไขรัฐธรรมนูญไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้นเป็นนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา ผูกพันทั้งรัฐสภาและคนไทยทั้งประเทศแล้ว เพราะฉะนั้นก็ชอบที่พรรคร่วมรัฐบาลควรจะได้เดินหน้าตามนโยบายของรัฐบาล และที่ขอยืนยันชัดเจนคือ พรรคประชาธิปัตย์อย่างน้อยก็เป็นพรรคหนึ่งที่ยืนยันมาตั้งแต่ต้นว่าพร้อมที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อนำประเทศไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น ซึ่งจะมีผลดีต่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจตามมาด้วย การเมืองกับเศรษฐกิจต้องเดินหน้าไปด้วยกัน ถ้าการเมืองมีปัญหา การแก้รัฐธรรมนูญซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปัญหาทางการเมืองประสบปัญหาอุปสรรคก็จะกระทบต่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจโดยไม่จำเป็น เพราะฉะนั้นการแก้เศรษฐกิจกับการเมืองเป็นเรื่องที่ตนยืนยันหลายครั้ง และขอยืนยันอีกรอบว่ามีความจำเป็นที่จะต้องทำควบคู่กันไป และสามารถทำควบคู่กันไปได้ รัฐบาลมีหน้าที่ทั้ง 2 ข้ออยู่แล้ว เพราะเป็นนโยบายทั้ง 2 เรื่อง ทั้งการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ การแก้ปัญหาโควิด ที่ต้องทำด้วยกัน และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นนโยบายรัฐบาล

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพรรคประชาธิปัตย์มีจุดยืนการแก้รัฐธรรมนูญเพียงพรรคเดียว ขณะที่พรรคร่วมอื่นๆ โดยเฉพาะพรรคแกนนำรัฐบาลไม่เอาด้วยจะทำอย่างไร หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า วิปจะเป็นผู้ไปคุยกัน และตนก็ได้มอบแนวทางสำหรับวิปพรรคประชาธิปัตย์แล้วว่า ต้องไปหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน เพื่อให้สามารถเดินหน้าตามนโยบายรัฐบาลได้ ซึ่งทุกพรรคน่าจะทราบดีว่ามันเป็นนโยบายตั้งแต่ต้น และที่สำคัญเราก็ต้องไม่ทิ้งฝ่ายค้าน และไม่ทิ้งวุฒิสมาชิกด้วย เพราะว่าจะแก้รัฐธรรมนูญสำเร็จได้ 3 ส่วนนี้มีความจำเป็นจะต้องร่วมมือกันจะขาดส่วนใดส่วนหนึ่งไม่ได้ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้กำหนดเงื่อนไขไว้เยอะเลยว่า การจะแก้รัฐธรรมนูญได้จะต้องใช้เสียงข้างมากของที่ประชุมร่วมทั้งฝ่ายค้าน รัฐบาลและวุฒิสมาชิกเกินกว่ากึ่งหนึ่ง และในจำนวนนั้นต้องมีเสียงวุฒิสภาไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 และต้องประกอบด้วยฝ่ายค้านไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 เพราะฉะนั้นขาดองค์ประกอบใดองค์ประกอบหนึ่งการแก้รัฐธรรมนูญก็ทำไม่ได้ ทั้ง 3 ฝ่ายจึงเป็นเรื่องสำคัญ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของพรรคร่วมได้มีการพูดคุยกันหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ความจริงก็มีได้พูดกันชัดเจนแล้ว นายกรัฐมนตรีได้ย้ำว่าท่านก็สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นนโยบายของรัฐบาล ในส่วนของประชาธิปัตย์ ตนก็ยืนยันหลายรอบ และวันนี้ก็ขอยืนยันอีกครั้ง มีหลายท่านสอบถามว่าทำไมยุ่งแต่เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ ไม่สนใจปัญหาปากท้อง ตนก็ตอบว่า เรามีหน้าที่ต้องทำทั้ง 2 เรื่องควบคู่กันไป เพื่อไม่ให้เรื่องการเมืองเป็นอุปสรรคในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และไม่ให้การแก้รัฐธรรมนูญทำให้การแก้ปัญหาการเมืองชะงัก และส่งผลต่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจด้วย


ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการประเมินหรือไม่ว่า อายุรัฐบาลเหลือเวลาเพียง 2 ปี การเดินหน้าแก้ปัญหารัฐธรรมนูญจะสามารถทำได้มากน้อยแค่ไหน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวตอบว่า เชื่อว่าเดินหน้าได้ ถ้าทุกฝ่ายร่วมมือกัน ช่วงเวลา 2 ปี ไม่ได้เป็นอุปสรรคเลย ถ้าเรานับหนึ่งตั้งแต่เดี๋ยวนี้ และในส่วนประชาธิปัตย์ก็ชัดเจนแล้วว่า เมื่อการแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับติดอุปสรรค และความไม่ชัดเจนว่าสุดท้ายแล้วทำได้หรือไม่ได้ จะต้องทำประชามติตอนไหน เราก็เดินหน้าแก้รายมาตราไป ซึ่งก็มีความชัดเจนแล้ว ขณะนี้สั่งให้ยกร่างแล้ว และเชื่อว่าจะไปหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลถัดจากนี้ไป ก็เท่ากับการเดินหน้าตามนโยบาย. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ทีมทนายวัดพระบาทน้ำพุแจงปม “หลวงพ่ออลงกต” สวมบัตร ปชช. คนตาย

ลพบุรี 24 ส.ค. – วัดพระบาทน้ำพุ ตั้งโต๊ะแถลง ยืนยันเลขบัตรประชาชนของ “หลวงพ่ออลงกต” ไม่ซ้ำกับ “อลงกต พลมุข” ปัดตอบปมเลขบัตรประชาชนผู้เสียชีวิต ผูกพร้อมเพย์บัญชีมูลนิธิฯ ขอไปตรวจสอบก่อน ส่วนทางคดี จับตาสัปดาห์หน้า จะมีผู้ถูกดำเนินคดีมากกว่า 1 คน วันนี้ ที่วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี นายศุภชัย สิงคาลวานิช หัวหน้าทีมทนายความของวัดพระบาทน้ำพุ พร้อมตัวแทนมูลนิธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุ ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นครั้งแรก โดยบอกว่าวันนี้ หลวงพ่ออลงกตไม่ได้หลีกเลี่ยงที่จะมาให้สัมภาษณ์ แต่ครั้งนี้มีข้อมูลมาก มีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายและปัญหาที่ซับซ้อนหลายอย่าง หากตอบไปอาจกระทบต่อคดี และยืนยันว่า หลวงพ่อมีเจตนาบริสุทธิ์ในการช่วยเหลือผู้ป่วย เด็กกำพร้า ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบางในสังคม ซึ่งขณะนี้สังคมเข้าใจผิดในหลายเรื่อง เพราะเกิดการชี้นำของหลายเพจ กลุ่มผู้มีอิทธิพลในบางสื่อ นำเรื่องมาปะติดปะต่อจนสร้างความเสียหาย ส่วนประเด็นที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องที่หลวงพ่ออลงกต สวมชื่อและเลขบัตรประชาชน “อลงกล พลมุข” ข้าราชการที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น ทีมทนาย เปิดเผยว่า หลวงพ่ออลงกต มีบัตรประชาชนของท่านเอง และนามสกุลของท่าน […]

สกัดจับขบวนการค้ามนุษย์ ลอบขนคนไทยไปเขมร

สระแก้ว 24 ส.ค. – ทหารพรานลาดตระเวนชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านกุดหิน ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สกัดจับคนไทย 10 คน ขณะลักลอบเข้ากัมพูชา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะเจ้าหน้าที่กำลังลาดตระเวนตามแนวชาย เพื่อสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายที่จะแอบลักลอบขนข้ามแดน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว (ไม่ทราบทะเบียน) และ รถยนต์เก๋ง สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ซึ่งทั้งขับผ่านเข้ามาในพื้นที่ล่อแหลม โดยรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว ได้จอดให้คนเดินลงมาจากรถ และเดินเข้าป่าไป จำนวน 6 คน ประกอบด้วย คนนำพา 1 คน และผู้ลักลอบ 5 คน โดยทั้งหมดเป็นคนไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ ส่วนรถยนต์เก๋งสีดำที่ขับตามมา เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ จึงขับหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับไว้ได้ (ห่างจากจุดแรกประมาณ 200 เมตร) จากการตรวจสอบภายในรถพบคนไทย 4 คน […]

พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใกล้ศูนย์เด็กเล็ก

อุบลราชธานี 24 ส.ค. – พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี อยู่ริมสระน้ำใกล้ศูนย์เด็กเล็ก เพียง 100 เมตร จากกรณีที่กัมพูชา ยิงจรวด BM–21 เข้าใส่ชุมชน บ้านเรือนประชาชน ในฝั่งไทย จนนำไปสู่การสูญเสียชีวิต และทรัพย์สิน ของประชาชนคนไทย เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันผลกระทบจากจรวด BM–21 ต่อประชาชน คนไทย ยังคงมีอยู่ ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้จากบ้านหลังหนึ่ง ในอำเภอน้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นกัมพูชาได้ยิงจรวด BM-21 เข้ามาตกในเขตชุมชนฝั่งไทย โดยเหตุการณ์ครั้งนั้น มีจรวด BM-21 ตกมาทั้งหมด 11 ลูก 2 ใน 11 ลูก ตกใส่บ้านประชาชน จนบ้านพังเสียหายทั้งหมด 2 หลัง และมี 1 […]

“มาริษ” จ่อบินเจนีวา แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี

สวีเดน 24 ส.ค.-“มาริษ” เตรียมบินเจนีวาต่อ แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี-องค์การสิทธิมนุษยชน-กาชาด ย้ำไทยรักสันติ ทำตามกฎหมายระหว่างประเทศ ฟ้องเขมรใช้ทุ่นระเบิด-โจมตีพลเรือนไทย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่าหลังการเยือนสวีเดนอย่างเป็นทางการแล้วจะเดินทางไปเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ โดยมีเป้าหมายหลัก 3 ประการคือ ไปชี้แจงให้กับประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคีให้เข้าใจสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ซึ่งกัมพูชาใช้ยุทธศาสตรฺของการใช้ วัตถุระเบิดสังหารบุคคน ที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ และอนุสัญญาออตตาวาและในโอกาสนี้จะพบกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่สืทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้ทุ่นระเบิดสังหาร การละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยการโจมตีเป้าหมายพลเรือน ของกัมพูชา รวมทั้งการใช้โซเชียลมีเดีย ซึ่งเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (icrc )ก็ได้ออกมาพูดชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยอย่างมาก และไม่สนับสนุนให้มีการใช้สงครามข่าวสารในการต่อสู้ โดยใช้พลเรือนเป็นตัวกระทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างกัน ซึ่งในโอกาสนี้ตนจะได้พบปะกับประธาน crc พอดี ซึ่งเคยพบกันที่กรุงเทพมหานครแล้ว และทางประธานทราบว่าตนจะมาเจนีวาก็สามารถมาพูดคุยกันต่อได้ ซึ่งจะได้อธิบายทั้ง 2 ประการเหล่านี้เพราะ icrc เป็นองค์กรหลักที่ดูกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งทั้งสามองค์กรที่เราวางกลยุทธ์ จะเข้ามาพูดคุย ชี้แจงก็เพื่อยืนยัน ใน ท่าทีบทบาท ของประเทศไทยที่ชัดเจนว่าเราเป็นประเทศ ที่รักสันติ เราต้องการ แก้ไขปัญหาระหว่างกันอย่างสันติวิธี แต่ต้องมีความจริงใจ […]