กรุงเทพฯ 25 มี.ค. –ทนาย “ปารีณา” ยอมรับหนักใจหลังศาลฎีการับคำร้อง ป.ป.ช.คดี “ปารีณา” ผิดจริยธรรม ชี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่ยังมั่นใจในตัวลูกความเพราะเชื่อไม่ได้ทำผิดอาญา วอนขอความเป็นธรรม
นายทศพล เพ็งส้ม ทีมกฎหมายพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะทนายความของน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ศาลฎีการับคำร้องของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช.)ที่ขอให้ศาลวินิจฉัยการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงของ น.ส.ปารีณา กรณีบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนในจังหวัดราชบุรี ว่า ได้ทราบเรื่องแล้วและกำลังรอคำร้องจากศาลที่จะส่งให้น.ส.ปารีณา และจากนั้นจะได้ทำคำร้องคัดค้านภายใน 14 วัน โดยขณะนี้มีข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเข้ามาว่ามีแค่กรณีที่น.ส.ปารีณาเข้าไปทำกินในที่ดินสปก. ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนว่าน.ส.ปารีณาเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวตั้งแต่เมื่อไหร่ และขณะนี้ยังมีปัญหาระหว่างกรมป่าไม้กับสปก.ว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของสปก.หรือป่าไม้ และทางฝ่ายกฎหมายกำลังพิจารณาในส่วนนี้อยู่ อย่างไรก็ตามได้พูดคุยกับน.ส.ปารีณาแล้ว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเดินทางไปต่างจังหวัด และยอมรับว่ารู้สึกเป็นกังกลในคดีนี้ เพราะถือเป็นเรื่องใหม่และแนวทางเรื่องจริยธรรมเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก แต่จนถึงขณะนี้ยังมั่นใจในตัวของน.ส.ปารีณา ในความบริสุทธิ์ และเห็นว่าต้องให้ความเป็นธรรมกับน.ส.ปารีณา ด้วย เพราะตอนที่เข้าไปทำกินในพื้นที่ดังกล่าว ไม่มีใครมาชี้ว่าผิดหรือถูก แต่เมื่อมีคนมาบอกว่าไม่ถูกต้อง ก็คืนที่ดินไปแล้ว “ก็กังวลครับ คือมันเป็นเรื่องใหม่ และแนวทางจริยธรรมเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก เป็นมุมมอง คือบางคนบอกว่าอันนี้ผิดจริยธรรม บางคนก็บอกว่าไม่น่าผิดจริยธรรม เพราะเราไม่ได้ทำผิดคดีอาญา เป็นเรื่องการกระทำของบุคคลว่าการกระทำของส.ส.ปารีณาเหมาะสมหรือไม่ แล้วถ้าส.ส.ปารีณาไม่บุกรุกจะผิดไหม ถ้าผิด จะผิดอะไร จะถึงขั้นว่าต้องผิดจริยธรรมด้วยหรือไม่ หรือผิดจริยธรรมอยู่ ต้องตีโจทย์ให้แตก ว่าหลังได้รับเลือกตั้ง เข้าไปดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องที่ดินนั้น ทำในฐานะส.ส.หรือไม่ ตรงนี้ข้ามเกี่ยวกัน เพราะส.ส.ปารีณาก็ทำกินในฐานะเกษตรกรมาก่อน จนกระทั่งมาเป็นส.ส.ก็ยังทำกินต่อ ช่วงที่เป็นส.ส.และทำกินต่อ ถึงขั้นผิดจริยธรรมหรือไม่ ก็ต้องสู้คดีกันต่อในข้อเท็จจริงว่าที่มาที่ไปอย่างไร มีความชอบธรรมด้วยกฎหมายหรือไม่ในการเข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินสปก.”นายทศพล กล่าว. สำนักข่าวไทย