กรุงเทพฯ 23 มี.ค. – ศาลฎีกานัดฟังคำสั่งคดีที่ ป.ป.ช.ยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัย “ปารีณา” ฝ่าฝืนจริยธรรม รุกที่ป่าสงวนหรือไม่ 25 มี.ค.นี้ หากศาลรับคำร้องต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ขณะที่เจ้าตัวยื่นคำร้องขอศาลมีคำสั่งไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่
วันนี้ (23 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลฎีกาได้นัดฟังคำสั่งในคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ กรณีบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนใน จ.ราชบุรี อันเป็นการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวและส่วนรวม ในวันที่ 25 มีนาคมนี้
โดยขั้นตอนหากองค์คณะพิจารณาพิพากษามีคำสั่งในชั้นรับคำร้องแล้วให้รับคำร้อง จึงจะส่งสำนวนคำร้องของ ป.ป.ช.ให้ผู้คัดค้านทราบ รวมทั้งทำหนังสือแจ้งคำสั่งรับคำร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ และกำหนดวันนัดพิจารณาครั้งแรกเพื่อสอบถามผู้คัดค้าน โดยจะต้องกำหนดวันนัดพิจารณาครั้งแรกให้คู่ความทราบไม่น้อยกว่า 5 วัน ก่อนจะมีการนัดพร้อมเพื่อตรวจพยานหลักฐาน จากนั้นจึงจะกำหนดนัดวันไต่สวน
โดยข้อ 12 วรรคสอง ของระเบียบที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ว่าด้วยการพิจารณาพิพากษาคดีเกี่ยวกับการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง พ.ศ. 2561 บัญญัติไว้ด้วยว่า เมื่อศาลมีคำสั่งรับคำร้องแล้ว ผู้คัดค้านจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำพิพากษา เว้นแต่ศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น และให้ศาลแจ้งคำสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ
มีรายงานว่า น.ส.ปารีณา ผู้คัดค้าน ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณามีคำสั่งให้ผู้คัดค้านไม่ต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งคาดว่าศาลฎีกาจะมีคำสั่งในคำร้อง ในวันที่ 25 มีนาคมนี้ ซึ่งเป็นวันอ่านคำสั่งในชั้นรับคำร้องของ ป.ป.ช.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้ ป.ป.ช.มีมติชี้มูล 9 เสียง เห็นชอบตามความเห็นของคณะกรรมการไต่สวน ว่าการกระทำของผู้คัดค้านเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง โดยกระทำการอันเป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตนกับประโยชน์ส่วนรวม ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม อันถือว่ามีลักษณะร้ายแรงและกระทำการที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่ง อันถือว่ามีลักษณะร้ายแรงตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 ข้อ 11 และข้อ 17 ประกอบข้อ 3 และข้อ 27 วรรคสอง. – สำนักข่าวไทย