ทำเนียบ 18 มี.ค.-อนุทิน ยัน ไม่หลอกประชาชน พร้อมแก้รัฐธรรมนูญ แต่ต้องเป็นไปตามกรอบกฎหมาย ไม่ขอเสี่ยง เกรงพรรคถูกยุบ ชี้ส่วนตัวไม่เห็นด้วยที่มา ส.ว. แต่ต้องทน เชื่ออีก 5 ปี สูญพันธุ์ไปเอง
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงที่ประชุมรัฐสภามีการโหวตคว่ำร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ในวาระ3 โดยพรรคภูมิใจไทยวอร์คเอ้าท์ออกจากห้องประชุม ว่าท่าทีที่นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พูดกลางที่ประชุมไม่ร่วมสังฆกรรมกับการโหวตนั้น เป็นเรื่องของอารมณ์ เนื่องจากผ่านมา 2 วาระแล้ว ทำไมไม่ผลักดันให้ครบกระบวนความ แต่ก็มองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของสภาฯ โดยตนยังไม่ได้พูดคุยกับนายชาดา และยังไม่มีการพูดคุยกับพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพราะเป็นเรื่องของฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่ใช่ฝ่ายบริหาร และยืนยันได้ว่าพรรคภูมิใจไทยพยายามจะรักษากระบวนการแก้รัฐธรรมนูญเอาไว้โดยไม่ผิดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้นจะให้ร่วมโหวตก็คงไม่ได้ เพราะจะมีผลตามมา และทราบว่ามีหลายคนไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นายอนุทิน ระบุว่า การเดินออกจากห้องประชุมของนายชาดาและลูกพรรค ไม่ได้เป็นการวอล์เอ้าท์ แต่นายชาดามีความอาวุโสสูงสุดในเวลานั้น ส.ส.คนอื่นจึงเดินตามมา ซึ่งพรรคยืนยันตามเจตนารมณ์ที่ให้กับประชาชนใน 2 วาระแรกแล้ว เพราะถ้าตีความกันผิด เมื่อมีผู้ร้องเรียนอาจนำไปสู่การยุบพรรคได้ ซึ่งพรรคภูมิใจไทย มีเจตนารมณ์แต่แรกว่าจะไม่โหวตเพราะจะขัดต่อคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ และการวอล์คเอ้าท์เป็นวิธีที่แสดงออกว่าจะไม่แสดงความคิดเห็น
เมื่อถามว่าจากนี้ภูมิใจไทยจะเสนอแก้ไขเป็นรายมาตราหรือไม่นั้น นายอนุทินยืนยันว่าจะต้องปฏิบัติตามศาลรัฐธรรมนูญ หากจะแก้ต้องทำประชามติ ถามประชาชนก่อน ทั้งนี้การแก้ไขต้องอยู่ในกรอบกฎหมายและกติกา
นายอนุทิน ย้ำว่า พรรคภูมิใจต้องรักษาระบบ ไม่ได้หลอกลวงประชาชน ยินดีหากต้องแก้รัฐธรรมนูญ แต่ต้องเป็นไปตามกระบวนการที่ประชาชนจะเป็นผู้กำหนดพร้อมกับพูดว่าศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่ศาลไคฟง พรรคภูมิใจไทยทำตามศาลรัฐธรรมนูญ ยืนยันทำตามกระบวนการไม่มีการหลอกประชาชน
ส่วนการคว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจะนำไปสู่การยุบสภาและเลือกตั้งใหม่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่าจะต้องถาม พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยส่วนตัวไม่ขอประเมินสถานการณ์ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของหัวหน้ารัฐบาล ส่วนพรรคภูมิใจจะถอนตัวจากพรรคร่วมหรือไม่ เป็นคนละเรื่องกัน ระหว่างการยุบสภากับร่วมรัฐบาล ไม่ใช่เรื่องการไม่เห็นด้วยกับการบริหารประเทศ แต่เป็นเรื่องเอกสิทธิ์ของ ส.ส. ในสภาฯ หรือหากจะยุบก็ยุบ ก็ไปเลือกตั้ง เพราะเรามาจากพี่น้องประชาชนอยู่แล้วและจากนี้ให้ประชาชนเป็นคนตัดสิน ชีวิต ส.ส.ก็มีแค่นี้
ส่วนกรณีที่นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล กล่าวหาพรรคภูมิใจไทย ไม่ทำตามที่หาเสียงไว้ในเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ นายอนุทินถามกลับว่าตอนเลือกตั้งโหวตให้ภูมิใจไทยหรือไม่ ถ้าไม่รู้เรื่องก็อย่ามายุ่ง เป็นเรื่องของแต่ละพรรค ไม่ก้าวก่ายกัน ส่วนการจะวิพากษ์วิจารณ์บุคคลก็ทำได้ แต่ขออย่าวิจารณ์องค์กร เมื่อถามว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าภูมิใจไทยจะหาเสียงเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่นายอนุทินกล่าวว่า แก้ในส่วนที่เห็นสมควรแก้ แต่จะไม่มีทางแตะต้องในหมวดพระมหากษัตริย์ และเห็นด้วยกับความเข้มข้นในเรื่องการแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นแต่ประเด็นที่มา ส.ว. 250 คนนั้น ส่วนตัวไม่เห็นด้วย แต่ทุกวันนี้ต้องอดทนไปก่อน เพราะเป็นบทเฉพาะกาลที่มีระยะเวลา 5 ปี และจะไปชักใบให้เรือเสียทำไม เดี๋ยวไดโนเสาร์ก็ไปเอง ไม่มีใครไปทำร้ายได้ เมื่อถามว่าใครคือไดโดเสาร์ นายอนุทิน กล่าวว่าไม่ทราบ ให้เดาเอาเอง จากนั้นนายอนุทิน ได้เดินไปยังตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อประชุม ศบค.ชุดเล็กกับนายกรัฐมนตรี .-สำนักข่าวไทย