รัฐสภา 17 มี.ค. – รัฐสภาตัดสินใจโหวตร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 ขณะที่ “ชาดา ไทยเศรษฐ์” ฉุนถูกหลอก ประกาศไม่ร่วมสังฆกรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังพักการประชุมรัฐสภา ประมาณ 20 นาที นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวว่า ได้สอบถามกรณีสัญญาณเตือนภัยรายงานเบื้องต้นแจ้งมาว่า จากการตรวจสอบระบบรักษาความปลอดภัย พบมีคนไปกดปุ่มเตือนภัย บริเวณหน้าห้องน้ำ ด้านแม่น้ำเจ้าพระยา ชั้น 3 ฝั่งวุฒิสภา เนื่องจากจุดนั้นไม่มีกล้อง CCTV จึงไม่สามารถหาคนกดได้ แต่ได้สั่งเลขาธิการไปตรวจสอบแล้วว่า ใครเป็นผู้ไปกดปุ่มนั้น
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ย้ำว่า ญัตติที่เสนอเป็นการดำเนินการโดยชอบแล้วตามข้อบังคับทุกประการ มีผู้ให้การรับรองถูกต้องไม่น้อยกว่า 40 คน และเป็นญัตติที่ประธานรัฐสภาได้อนุญาตตามสมควรแล้ว และหากที่ประชุมเห็นชอบให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ก็จะมีผลให้เป็นการเลื่อนการพิจารณาลงมติในวาระที่ 3 เป็นการอัตโนมัติอยู่แล้ว ส่วนเนื้อหาที่จะส่งศาลรัฐธรรมนูญนั้น สามารถปรับปรุงแก้ไขยกร่างข้อมูลในรายละเอียด เพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่วมกันต่อไปได้
ด้านนายชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย เสนอให้ปรับถ้อยคำว่า ให้ชะลอการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในวาระ 3 ออกไปก่อน
ขณะที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เสนอญัตติให้ที่ประชุมทำตามระเบียบวาระการประชุม คือ เดินหน้าลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 ในที่สุดที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามญัตติที่นายไพบูลย์เสนอ ด้วยคะแนน 473 ต่อ 127 เสียง งดออกเสียง 39 เสียง ไม่ลงคะแนน 5 เสียง ทำให้ญัตติที่มีการอภิปรายและเสนอมาทั้งวัน ทั้ง 3 แนวทาง ต้องตกไป จากนั้นเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม คือ การลงมติร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ในวาระที่ 3 ด้วยการขานชื่อ
ด้านนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ประกาศกลางห้องประชุม ไม่ร่วมสังฆกรรมในการลงมติครั้งนี้ โดยระบุว่า “ผมคงไม่ร่วมสังฆกรรมด้วยกับพวกฉ้อฉล ศรีธนญชัย โกหกปลิ้นปล้อน และไร้สาระสิ้นดี นี่คือสภาโจ๊ก”
จากนั้นเป็นการลงมติโดยการขานชื่อ ขณะที่ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย วอล์กเอาต์ เดินออกจากห้องประชุมไป
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีสมาชิกรัฐสภา 737 คน เป็น ส.ส. 487 คน ส.ว. 250 คน ซึ่งในการลงมติจะต้องใช้เสียงกึ่งหนึ่ง คือ ต้องเกิน 369 เสียง และในเสียงที่ให้ความเห็นชอบจะต้องมีเสียงของ ส.ส.จากพรรคการเมืองที่ไม่ใช่รัฐบาล ร้อยละ 20 และต้องมีเสียง ส.ว.ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 คือ 84 เสียง ซึ่งจากการลงมติในเบื้องต้น ส.ว.ส่วนใหญ่งดออกเสียง มีแนวโน้มว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 ไม่น่าจะผ่าน
ล่าสุดเมื่อเวลา 21.15 น. ประธานรัฐสภา คาดใช้เวลาไม่เกิน 4 ชั่วโมง ในการลงมติเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ ในวาระ 3 ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม โดยการขานชื่อเป็นรายบุคคล. – สำนักข่าวไทย