กทม. 16 มี.ค. – กสม. เผยผลตรวจสอบเหตุยิงโจมตีป้อม ชรบ. ยะลา 5 พ.ย. 62 เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน แนะมหาดไทย-ศอ.บต.-สมช. ร่วมกันปรับปรุงนโยบาย มาตรการและแนวปฏิบัติ
นายสมณ์ พรหมรส กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ในฐานะผู้ดูแลและตรวจสอบงานด้านสิทธิมนุษยชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยรายงานผลการตรวจสอบของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งได้หยิบยกเพื่อตรวจสอบกรณีการก่อเหตุยิงโจมตีป้อมยามของชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านในพื้นที่หมู่ที่ 5 ตำบลลำพะยา อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2562 อันเป็นเหตุให้อาสาสมัคร ชรบ.และประชาชนเสียชีวิต จำนวน 15 คน และได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง โดยผู้ก่อเหตุยังได้นำอาวุธปืนไปจากที่เกิดเหตุ ลอบวางระเบิดเสาไฟฟ้า เผายางรถยนต์บริเวณใกล้เคียง และโปรยตะปูเรือใบเพื่อสกัดกั้นการเข้าช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่
นายสมณ์ กล่าวอีกว่า กสม. ได้พิจารณาข้อเท็จจริงเห็นว่า การก่อเหตุดังกล่าวเป็นการกระทำโดยกลุ่มบุคคลที่มีการวางแผน การตระเตรียมการและใช้อาวุธสงครามจนทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บซึ่งมุ่งประสงค์ให้เกิดสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ การกระทำดังกล่าวจึงเป็นการละเมิดต่อชีวิตและร่างกายของบุคคลอันเป็นสิทธิและเสรีภาพ ทั้งนี้ภายหลังเหตุการณ์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนโดยสามารถจับกุมตัวผู้ถูกกล่าวหานำเข้าสู่การพิจารณาของศาลแล้ว และได้ร่วมกันวางแผนเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย รวมทั้งให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและญาติของผู้ที่เสียชีวิตในทันที เพื่อป้องกันปัญหาลักษณะคล้ายคลึงกันซึ่งอาจเกิดขึ้นในอนาคต กสม. จึงมีข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงมหาดไทยควรปรับปรุงนโยบายเกี่ยวกับการจัดตั้ง ชรบ. โดยให้ประชาชนในพื้นที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมตัดสินใจในการจัดตั้ง ซึ่งอาจดำเนินการจัดตั้งเฉพาะบางพื้นที่ที่มีความจำเป็น สามารถเลือกรูปแบบการจัดตั้งให้เหมาะสมกับการบริหารจัดการและการดูแลสมาชิก
นายสมณ์ กล่าวว่าศอ.บต.ควรร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และภาคประชาสังคมที่ทำงานในพื้นที่แก้ไขปัญหาเด็กที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ตกอยู่ในสถานะเด็กกำพร้า เด็กที่อยู่ในสภาพยากลำบากและเด็กที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด นายสมณ์ ยังระบุว่า สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ควรนำข้อเท็จจริงและปัญหาของ ชรบ. ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งข้อเสนอแนะของหน่วยงานและองค์กรภาคประชาสังคม พิจารณาประกอบการจัดทำนโยบายการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ในประเด็น เช่น การเพิ่มมาตรการคุ้มครองสวัสดิภาพและความปลอดภัยให้ภาคประชาชนและสร้างความเชื่อถือของประชาชนในกระบวนการยุติธรรมตามกฎหมายความมั่นคง.-สำนักข่าวไทย