พรรคเพื่อไทย 12 มี.ค. – “วิโรจน์ ก้าวไกล” ระบุ นายกฯเลื่อนฉีดวัคซีนเป็นเรื่องเหมาะสม ถามรัฐบาลเหตุใดไม่กระจายความเสี่ยงให้ประชาชนมีทางเลือกวัคซีนบริษัทอื่น เรียกร้องเปิดสัญญาจัดซื้อ – เปิดแผนสำรอง หากมีปัญหา
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะรัฐมนตรี (ครม.)เลื่อนการฉีดวัคซีนของบริษัท แอสตร้าเซเนก้า ออกไป ว่า เป็นการสอดรับกับกระแสข่าวที่ประเทศเดนมาร์กและ 6 ชาติอียู ชะลอการใช้วัคซีนออกไป เนื่องจากพบผู้รับวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า มีผลข้างเคียงลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ ซึ่งตนมองว่า วัคซีนใหม่ที่เพิ่งผลิตและวิจัยออกมาในปริมาณมากๆ และยังไม่มีประวัติการใช้งานมาก่อน ก็จะพบผลข้างเคียง จึงเป็นเหตุผล ที่ตนและพรรคก้าวไกลย้ำมาโดยตลอดว่า รัฐบาลควรมีการกระจายความเสี่ยง ในการจัดหาวัคซีนจากหลายแหล่งผลิตและหลายยี่ห้อ เพื่อให้ประชาชนได้มีทางเลือก และได้รับวัคซีนอย่างต่อเนื่อง ไม่สะดุด ทำให้การฟื้นฟูเศรษฐกิจภายใต้การฉีดวัคซีนสามารถดำเนินการต่อไปได้ ซึ่งหาก ครม.ไม่กังวลคงฉีดวัคซีนดังกล่าวไปแล้ว
นายวิโรจน์ มองว่า การชะลอการฉีดวัคซีนวันนี้ เป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่ปัญหาไม่ได้อยู่ที่การชะลอหรือการหยุดฉีดวัคซีน แต่ปัญหา คือรัฐบาลยังกระจุกความเสี่ยงในการจัดซื้อวัคซีนจากบริษัทเดียว แม้จะระบุว่าวัคซีนจากบริษัทดังกล่าวมีแหล่งผลิตคนละพื้นที่กับวัคซีนที่มีปัญหา แต่ต้องตั้งคำถามว่า บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ได้รับลิขสิทธิ์ในการผลิตวัคซีนจากบริษัทแอสตราเซเนกา จะไม่มีผลข้างเคียงหรือไม่ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลจะมีการปรับนโยบายในการจัดหาวัคซีนหรือไม่ เพื่อให้ประชาชนได้มีทางเลือกในการรับวัคซีน รวมไปถึง การนำเข้าวัคซีนจากบริษัท แอสตร้าเซเนก้า ในล็อตหลังอีก 35 ล้านโดส สามารถระงับได้หรือไม่ และควรรับวัคซีนจากยี่ห้ออื่นหรือไม่
นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดสัญญาการสั่งซื้อ ให้ประชาชนสามารถตรวจสอบ และหากรัฐบาลยังคงยืนยัน ที่จะทำวัคซีนจากบริษัทเดียว รัฐบาลจะมีแผนอื่นในการรับมืออย่างไร จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเผยแผนการรับมอบวัคซีนจาก จากบริษัทสยามไบโอเซนเอนซ์ ที่จะต้องส่งมอบวัคซีนให้กับกระทรวงสาธารณสุข ว่าสอดรับกับการฉีดวัคซีนกับแผนการฉีดวัคซีน 10 ล้านโดสต่อเดือนหรือไม่ หากมีการคลาดเคลื่อนจะทำให้แผนการฉีดวัคซีนนั้นล่าช้าออกไป นายวิโรจน์ ยืนยันว่า นี่ไม่ใช่เป็นการซ้ำเติมกับปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ แต่เป็นการตั้งข้อสังเกตตั้งแต่ต้นถึงการจัดหาวัคซีนที่ไม่มีการกระจายความเสี่ยง และจะไม่ให้ประชาชนตั้งคำถามถึงความรับผิดชอบของรัฐบาลได้อย่างไร.-สำนักข่าวไทย