ศบค.ย้ำถึงผ่อนคลายก็ต้องระวังโควิดแพร่อีก

ทำเนียบรัฐบาล 8 มี.ค.-ศบค.ย้ำทุกสถานศึกษาคุมเข้มการสอบทุกระดับ ป้องกันโควิดระบาด ย้ำแม้ผ่อนคลายแล้ว ประชาชนต้องระวังแพร่ระบาดใหม่


พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด 19 วันนี้ (8 มี.ค.) เพิ่มขึ้น 71 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 26,441 ราย หายป่วยแล้ว 25,777 ราย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 579 ราย ผู้เสียชีวิตสะสมรวม 85 คน ผู้ป่วยยืนยันสะสมรอกใหม่ ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2563 – 8 มีนาคม 2564 จำนวน 22,204 ราย โดยผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น 71 ราย เป็นผู้ที่ติดเชื้อในประเทศ 48 ราย เป็นผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและบริการ 41 ราย จากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 7 ราย

“เป็นผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศ 23 ราย เดินทางมาจากเดนมาร์ก 1 ราย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 10 ราย อิตาลี 1 ราย ปากีสถาน 1 ราย เลบานอน 1 ราย สหราชอาณาจักร 4 ราย สหรัฐอเมริกา 2 ราย บาห์เรน 2 ราย และสาธารณรัฐแซมเบีย 1 ราย ซึ่งผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศหลายคนไม่แสดงอาการ และพบการติดเชื้อเมื่อเข้าอยู่ใน state quarantine แล้ว 4-5 วัน แสดงให้เห็นถึงมาตรการคัดกรองเชิงรุกของประเทศไทยที่มีมาตรฐานและเข้มงวด” ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าว


พญ.อภิสมัย กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ที่จังหวัดสมุทรสาคร มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 40 ราย เป็นผู้ติดเชื้อจากระบบบริการ 34 ราย จัดการคัดกรองเชิงรุก 6 ราย ทั้งนี้ สถานการณ์ผู้ติดเชื้อทั่วประเทศเริ่มลดลงแล้วมี 7 จังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อ

ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวว่า ขณะที่สถานการณ์ผู้ที่ติดเชื้อทั่วโลก 118 ล้านราย เสียชีวิตสะสมทั่วโลก 2.6 ล้านคน ประเทศที่จํานวนผู้ติดเชื้อมากที่สุด ได้แก่ สหรัฐอเมริกา 29.6 ล้านราย ตามด้วยอินเดีย 11.2 ล้านราย บราซิล 11 ล้านราย รัสเซีย 4.3 ล้านราย สหราชอาณาจักร 4.2 ล้านราย ส่วนประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 115

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคมเป็นต้นไป จะเป็นช่วงการสอบของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่จะสอบ GAT/ PAT จำนวน 157,274 คน และวิชาสามัญ 175,003 คน ONET 387,139 คน ซึ่งจะต้องทบทวนมาตรการที่สอดคล้องกับสถานการณ์โควิด19 โดยประสานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เพื่อบริหารจัดการสนามสอบให้มีมาตรฐานเดียวกัน ทั้งขั้นตอน กระบวนการอย่างละเอียด รองรับพ่อแม่ผู้ปกครองที่มารอบุตรหลานระหว่างสอบด้วย เพราะสนามสอบแต่ละแห่งหากมีผู้เข้าสอบหลักร้อยถึง 1,000 คน โดยกระทรวงศึกษาธิการได้หารือกับกระทรวงสาธารณสุขดำเนินการให้มีมาตรฐาน ไม่ให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อ เช่น การจัดห้องสอบต้องมีนักเรียนเข้าสอบห้องละไม่เกิน 30 คน


ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าวว่า ที่ประชุมศบค.ชุดเล็กหารือการกำหนดมาตรการผ่อนคลายในภาคส่วนอื่น ๆ ด้วย โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานศบค.เน้นย้ำให้ศบค.ชุดเล็กเตรียมเสนอมาตรการผ่อนคลายให้มากขึ้นในวันที่ 15 มีนาคมที่จะถึงนี้ โดยกำหนดเป็น 3 ระยะ คือ ระยะแรก 1 เม.ย. การนับจำนวนผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนทั้งประเทศ โดยอาจเสนอปรับพื้นที่ปรับสีในแต่ละจังหวัด เพื่อให้สอดคล้องกับจำนวนผู้ที่ฉีดวัคซีน ส่วนชาวต่างประเทศที่จะเดินทางเข้ามาประเทศไทย จะผ่อนคลายกระบวนการที่จะเดินทางเข้าสู่ราชอาณาจักร รวมถึงกำหนดมาตรการกักตัว (quarantine)

“อาจเสนอให้ใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินถึงวันที่ 31 พ.ค. แต่จะยังคงพ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 โดยอาจเสนอใช้ในระยะที่ 2 คือ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนเป็นต้นไป ส่วนการผ่อนคลายระยะที่ 3 น่าจะช่วงวันที่ 1 ตุลาคม อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขย้ำว่าจะต้องรอวัคซีนพาสปอร์ตที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลกที่ออกโดยองค์การอนามัยโลกก่อน แต่ขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศกำลังดำเนินการเกี่ยวกับการออกใบรับรองสำหรับผู้ได้รับวัคซีนแล้ว สามารถเสนอดำเนินการได้ทันที หากมีวัคซีนพาสปอร์ตที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลกแล้ว จะได้ปรับเปลี่ยนให้ตรงกับมาตรฐานโลกได้ทันที ทั้งนี้ มาตรการผ่อนคลายต่าง ๆ จะต้องสอดคล้องกับการเตรียมวัคซีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ” พญ.อภิสมัย กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับเทศกาลสงกรานต์ปีนี้หลายพื้นที่เริ่มผ่อนคลายแล้ว หวังว่าเทศกาลสงกรานต์จะผ่านไป โดยที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อไม่เพิ่มขึ้น ซึ่งทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันไม่ให้ตัวเลขเพิ่มขึ้น หลังช่วงเทศกาลสงกรานต์ผ่านพ้นไปแล้ว โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากำลังทำงานอย่างหนัก ขอให้ประชาชนวางแผนเดินทางท่องเที่ยวอย่างไรให้ปลอดภัย ปลอดโรค เพราะเราจะต้องอยู่กับโรคโควิด19 ไปอีกระยะ ซึ่งศบค.ยังอยากเห็นตัวเลขแบบนี้ ดังนั้น สิ่งสำคัญจะต้องร่วมมือกัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริง ต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ […]

“บิ๊กเต่า” เผยพบเส้นเงินหลักพันล้าน โยงคนใกล้ชิดอดีตพระอลงกต 30 คน

กรุงเทพฯ 27 ส.ค. – รอง ผบช.ก. เผยพบเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ หลักพันล้านบาท โยงคนใกล้ชิดอดีตพระอลงกต 30 คน เร่งสอบสวนเอาผิดเพิ่มฐานฟอกเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) กล่าวว่า หลักฐานที่ตรวจยึดได้เมื่อวานนี้ ขณะนี้กำลังคัดแยกหลักฐาน เพราะมีข้อมูลเยอะมาก ในเรื่องของพยานหลักฐานที่ได้ตรวจยึดมาจึงต้องคัดแยกเป็นหมวดหมู่และดำเนินการเพื่อตรวจสอบต่อไป ทั้งนี้หมอบีมีคนใกล้ชิดที่พบ 3 คน และคนใกล้ชิดห่างๆ 1 คน โดยในวันที่เข้าตรวจค้นบ้าน มีคนที่อยู่ด้วยกัน 3 คน อีกคนเป็นเลขาฯ และน่าจะมีปัญหาขัดแย้งกันภายใน จึงมีการออกมาพูดถึงเรื่องความผิดปกติต่างๆ ซึ่งตำรวจได้มีการสอบปากคำคนใกล้ชิดเป็นผู้หญิงไว้เป็นพยาน การบริหารงานของหมอบี ยังไม่ดีเท่าวัดเท่าไหร่ ส่วนเน็ตไอดอลขอไม่ลงลึกในรายละเอียด พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า หมอบีเป็นเส้นเลือดใหญ่ กระจายบางส่วนออกไปสู่คนใกล้ชิด เมื่อถามถึงกรณีนักร้อง อินฟลูเอนเซอร์ พล.ต.ต.จรูญเกียรติบอกว่า เป็นคำบ่นของอดีตพระอลงกต ว่ากลุ่มนักร้องที่มาแสดงดนตรี โกงอดีตพระอลงกตเรื่องค่าใช้จ่ายไม่ตรง สมมติขายบัตรได้เท่าไหร่ และจะต้องหักค่าใช้จ่ายให้วัดเท่าไหร่ ส่วนกรณีบ้านดำโอนกลับไปเป็นชื่อของอดีตพระอลงกตแล้วก่อนจะมีเรื่อง โดยบ้านหลังนี้มีการโอนผ่านไปยังอดีตพระอลงกตแล้ว แต่เนื่องจากตำรวจอยากได้เส้นทางการเงินที่ชัดเจน และเป็นเส้นทางการเงินที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ […]

พลทหารเหยียบกับระเบิดพื้นที่ปราสาทตาควาย

สุรินทร์ 27 ส.ค.-พลทหารเหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย ขาขวาท่อนล่างขาด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 15.45 น. เกิดเหตุ พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว รายละเอียดอื่นๆ จะรายงานให้ทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ย้ำปฏิบัติตามเงื่อนไขหยุดยิงเคร่งครัด

ศรีสะเกษ 27 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ที่ด่านศุลกากรช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ย้ำให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ไม่ขยายขอบเขตความขัดแย้ง ไม่เผยแพร่ข่าวปลอม รวมถึงเห็นชอบให้ความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คำแถลงข่าวร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองทัพภาคที่ 2 ราชอาณาจักรไทย และภูมิภาคทหารที่ 4 ราชอาณาจักรกัมพูชา วันที่ 27 สิงหาคม 2568 จังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ จัดขึ้นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ในจังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย โดยมี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และพลโท […]