กรุงเทพฯ 5 มี.ค.-“มาดามเดียร์” เผย ส.ส.กลุ่มดาวฤกษ์ชี้แจงกรรมการ พปชร. เรียบร้อยดี พร้อมรับผล แต่มั่นใจคนสุจริต ชอบธรรม จะได้รับความคุ้มครองจาก รธน.
น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการพรรคพลังประชารัฐ กรณีงดออกเสียงให้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พรรคภูมิใจไทย ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า ส.ส.กลุ่มดาวฤกษ์ได้ชี้แจงเหตุผลกับคณะกรรมการแล้ว บรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยชี้แจงตามข้อเท็จจริงในฐานะส.ส.กทม.
“อย่างวันนี้เรามาในเขต วังทองหลาง ก็เป็นพื้นที่หนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ประชาชนได้รับผลกระทบ การงดออกเสียงถือเป็นมารยาททางการเมืองแล้ว จึงอยากให้รมว.คมนาคมทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และนำเสียงสะท้อนไปแก้ไขในการดำเนินการ ทั้งนี้ ในช่วงรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ความสำคัญต่อการ ขยายขนส่งสาธารณะ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความสะดวกในการเดินทางแก่พี่น้องประชาชน ซึ่งถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ จึงอยากให้รมว.คมนาคมให้ความสำคัญ” น.ส.วทันยา กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีคณะกรรมการให้บทบาทนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ มองว่าเป็นเกมในการผลักดันช่วงปรับครม.หรือไม่ น.ส.วทันยา กล่าวว่า ไม่น่าจะเป็นแบบนั้น เพราะผู้ที่เป็นประธานคือนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งเป็นหลักในการซักถาม แต่ที่เห็นว่าเข้าไปชี้แจงนาน เพราะเป็นการเรียกคุยรายบุคคล แต่ละคนใช้เวลาคนละ 10 นาที ทุกอย่างเรียบร้อยดี
“มั่นใจว่าสิ่งที่เราทำอยู่บนความสุจริต ชอบธรรม จึงหวังว่าคณะกรรมการจะให้ความเป็นธรรม ส่วนมติจะออกมาเป็นอย่างไรพวกเราพร้อมน้อมรับ แต่เชื่อว่าผู้ที่ทำด้วยความสุจริตรัฐธรรมนูญจะคุ้มครอง” น.ส.วทันยา กล่าว
เมื่อถามถึงความเห็นต่อรายชื่อครม.ที่ปรากฎเป็นข่าวในขณะนี้ น.ส.วทันยา กล่าวว่า ที่ผ่านมาคงเป็นความเห็นหลากหลายของพรรค วันนี้คงต้องรอฟังจากพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นผู้คัดเลือก รายชื่อที่ออกมาอาจเป็นการคุยกันทั่วไป ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นใคร สิ่งสำคัญในฐานะส.ส. อยากเห็นผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี เป็นคนมีประสบการณ์ มีความรู้ ความสามารถ มีวิสัยทัศน์ ในการทำงานบริหารประเทศและช่วยเหลือประชาชนที่กำลังเดือดร้อนทั้งจากโควิด-19และภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ เพราะไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรีกระทรวงใด สามารถช่วยแก้ไขและวางรากฐานประเทศได้ทั้งสิ้น.-สำนักข่าวไทย