เสวนา ชำแหละค่ารถไฟฟ้าที่เหมาะสม

พรรคภูมิใจไทย 4 มี. ค. – ภูมิใจไทยจัดเสวนา ชำแหละค่ารถไฟฟ้า ที่เหมาะสม ชี้แพงเป็นภาระประชาชน สิริพงษ์ ยันหากขึ้นราคาอีก จะไปร้องศาลปกครอง ด้านสารี จี้ชะลอต่อสัมปทานจนกว่าจะมีผู้ว่า กทม. คนใหม่


พรรคภูมิใจไทย จัดเสวนา “ชำแหละค่ารถไฟฟ้า ที่เหมาะสม” โดยมีนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย

พร้อมด้วย นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.จังหวัดศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย, นายกิตติพันธ์ ปานจันทร์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง, นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย, นายคงศักดิ์ ชื่นไกรลาศ ผู้ประสานงานโครงการขนส่งมวลชน มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค, นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสภาองค์กรผู้บริโภค และ นายสุเมธ องกิตติกุล ผู้อำนวยการวิจัยนโยบายด้านการขนส่ง และโลจิสติกส์ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย เข้าร่วม


นายสิริพงศ์ กล่าวว่า การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าไม่ได้ส่งผลกระทบแค่คนกรุงเทพฯ แต่รวมถึงประชาชนจากต่างจังหวัดที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ซึ่งเมื่อค่าโดยสารมีราคาแพงขึ้น จึงกลายเป็นระบบขนส่งมวลชนที่คนมีฐานะจึงจะขึ้นได้ เรื่องนี้จึงถือเป็นเรื่องสำคัญนอกเหนือจากปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตร เพราะถือเป็นปัญหาค่าครองชีพของประชาชน ดังนั้น ส.ส.พรรคภูมิใจไทย จึงได้ยื่นร้องต่อศาลปกครอง เพื่อยับยั้งการขึ้นราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวในราคา 104 บาทตลอดสาย ซึ่งการขึ้นราคาดังกล่าวขัดกับมติคณะรัฐมนตรีที่ระบุว่า ราคาค่าโดยสารต้องไม่เป็นภาระกับประชาชน ซึ่งศาลปกครองก็ขอให้ยกคำร้องเรื่องการจัดเก็บค่าโดยสารออกไปก่อน เนื่องจากมีประกาศของกรุงเทพมหานครในการเลื่อนขึ้นราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวออกไปก่อน จากเดิมที่จะเก็บในอัตรา 104 บาทตลอดสาย ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา

“ในอนาคตยังมีโอกาสที่ค่าโดยสารจะขึ้นราคา เพราะตามประกาศของ กทม. เป็นการประกาศเลื่อนการขึ้นราคาค่าโดยสาร แต่ไม่ใช่การประกาศยกเลิก ซึ่งหาก กทม. มีการประกาศขึ้นราคา ทางพรรคภูมิใจไทยก็จะไปร้องต่อศาลปกครองอีก” นายสิริพงศ์ กล่าว

ด้านนายกิตติพันธ์ ปานจันทร์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง กล่าวว่า ราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าไม่ควรสูงจนเกินไป เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงได้ ซึ่งวัตถุประสงค์ของรถไฟฟ้า คือต้องการจูงใจให้ประชาชนนำรถออกมาจากบ้านน้อยที่สุด หรือนำรถมาจอดที่สถานีรถไฟฟ้าเพื่อเดินทางต่อด้วยระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ ขณะเดียวกัน ต้องมีการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีรถไฟฟ้าให้มีร้านค้าเพิ่มขึ้น เพื่อนำมารายได้มาชดเชยค่าโดยสาร แต่ประเทศไทยยังมีการพัฒนาตรงจุดนี้น้อยเมื่อเทียบกับต่างประเทศ


นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ประเทศไทยใช้วิธีคำนวณอัตราค่าโดยสารตามระยะทางที่มีค่าแรกเข้า โดยการคำนวณอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวในปี 2544 ในอัตรา 10 บาท เป็นการคิดคำนวณโดยเทียบเคียงกับอัตราค่าโดยสารเริ่มต้นของรถโดยสารประจำทางปรับอากาศ ซึ่งอยู่ที่ 8 บาท ซึ่งถือเป็นอัตราที่ประชาชนสามารถจ่ายได้  รวมกับค่าแรกเข้าและระยะทาง แต่หากจะคำนวณค่าโดยสารในปีที่จะเปิดให้บริการ ก็จะต้องนำมาเงินเฟ้อในปัจจุบัน มาคิดคำนวณเทียบเคียงกับระยะทางด้วย

ด้านนางสาวสารี เรียกร้องให้กรุงเทพมหานครแก้ปัญหาเรื่องค่าโดยสารรถไฟฟ้าเนื่องจากไม่เป็นธรรมมีราคาที่สูง โดยควรกำหนดเพดานราคาขั้นต่ำ ของรถไฟฟ้าทั้งระบบและควรชะลอการต่อสัมปทานออกไปจนกว่าจะมีผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่เข้ามาทำหน้าที่ เพราะเห็นควรปรับสัญญาสัมปทาน ลดค่าโดยสารที่ไม่เป็นภาระค่าครองชีพของประชาชนก่อน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจ ลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร ด้านบริษัท 9PK นำเอกสารชี้แจง พร้อมขอให้บริษัทจีนช่วยอนุมัติเงินมาจ่ายให้กลุ่มผู้รับเหมาก่อน

จับแล้วโจรบุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่

จับแล้วโจรมาเลย์บุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่ จนมุมสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ เผยมาหาลูกชายที่ จ.นนทบุรี แต่ลูกไม่ให้เข้าบ้าน

ปิดล้อมจับชายวัย 43 ยิงเพื่อนบ้าน-ตร.เจ็บ 4

ตำรวจปิดล้อมนานถึง 11 ชั่วโมง จับชายวัย 43 ปี ใช้ปืนยิงเพื่อนบ้านและตำรวจที่เข้าระงับเหตุ บาดเจ็บรวม 4 ราย หลังโมโหเพื่อนบ้านติดกล้องวงจรปิดหันส่องไปทางบ้านผู้ก่อเหตุ ยิงแก๊สน้ำตา-ญาติเกลี้ยกล่อม ยังไม่เป็นผล

แผ่นดินไหวขนาด 5.8 ในไต้หวัน-ไม่มีรายงานความเสียหาย

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาไต้หวันรายงานวันนี้ว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาดด 5.8 ที่เทศมณฑลอี้หลาน (Yilan) ซึ่งเป็นพื้นที่ชนบทห่างไกลทางตจะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

ข่าวแนะนำ

สงกรานต์เชียงใหม่ชุ่มฉ่ำทั้งเมือง

ประเพณีปี๋ใหม่เมือง หรือสงกรานต์ล้านนา วันนี้เรียกว่าเต็มไปด้วยสีสันวัฒนธรรมและเหล่าสาวงาม ขณะที่การเล่นน้ำสงกรานต์ก็ชุ่มฉ่ำไปทั้งเมือง โดยเฉพาะรอบคูเมือง และอุโมงค์น้ำแห่งแสงสีเสียง ที่ถนนท่าแพ ยิ่งค่ำยิ่งคึกคัก

สงกรานต์ภูเก็ตคึกคัก คาดสร้างเม็ดเงินสะพัดกว่า 8,200 ล้าน

บรรยากาศสงกรานต์ที่ จ.ภูเก็ต ปีนี้สุดคึกคัก นักท่องเที่ยวสนุกกันสุดเหวี่ยงตั้งแต่เช้าเป็นต้นมา และคาดว่าบรรยากาศแห่งความสนุกสนานนี้จะยังคงดำเนินต่อเนื่องไปแบบข้ามวันข้ามคืน