ทำเนียบรัฐบาล 25 ก.พ.-“สมศักดิ์ -สุชาติ-อนุชา” กินข้าวกลางวันร่วมกัน ปัดคุยเรื่องปรับ ครม. เป็นอำนาจ “หน.พปชร-นายกฯ” ติงคนไม่เกี่ยวอย่าวิ่งเต้น ย้ำพอใจนั่งเก้าอี้เดิม เผยดูแลอดีต รมต.กปปส.ในเรือนจำมาตรฐานเดียวกับนักโทษทั่วไป
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวภายหลังรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ว่า ไม่ได้หารือประเด็นใดเป็นพิเศษ ส่วนเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) ยังไม่ได้รับการประสานจากพลงอ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
“พรรคพลังประชารัฐจะเสนอใครเป็นรัฐมนตรีในตำแหน่งที่ว่างลงนั้น ผมไม่มีอำนาจตัดสินใจ ต้องขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีและพล.อ.ประวิตร วงษ์สวุรรณ หัวหน้าพรรค ส่วนตัวผมยังพอใจในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยืนยันว่าข่าวที่ว่าวิ่งกันฝุ่นตลบภายในพรรคไม่เป็นความจริง” นายสมศักดิ์ กล่าว
เมื่อถามถึงกระแสข่าวรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง บางคนของพรรคพลังประชารัฐต้องการขึ้นดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวง นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ ทุกคนฟังหัวหน้าพรรคเป็นหลักและพรรคเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ข่าวก็เป็นเรื่องของข่าว เรื่องรัฐมนตรีช่วยจะนั่งรัฐมนตรีว่าการ เป็นเรื่องที่คาดการณ์กันไม่ได้ เป็นอำนาจของหัวหน้าพรรคเป็นผู้พิจารณา
เมื่อถามย้ำว่าหากการปรับครม.ครั้งนี้เกลี่ยตำแหน่งกันไม่ลงตัวจะเกิดแรงกระเพื่อมในพรรคพลังประชารัฐและพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา เพราะดูแลทุกคนอยู่ในกรอบ ไม่มีใครมีความประสงค์อะไร ทุกคนยังคงอยู่ในความสงบ ยืงยืนยันความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของพรรค
ส่วนการปรับครม.ครั้งนี้จำเป็นต้องวางรากฐานสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ ปรับครม.เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี
เมื่อถามว่าพยายามจะยืนยันว่าการปรับครั้งนี้เป็นเรื่องของมารยาท การตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคการเมือง คนอื่นไม่ควรวิ่งเต้นใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า “ถูกต้องเลยครับ”
ส่วนควรปรับเล็กหรือปรับใหญ่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ผลงานของครม.ชุดนี้ยังไปได้ เราก็มองว่าเราทำงานได้ดี แต่คนที่จะให้ความเห็นต้องเป็นสื่อมวลชน ซึ่งมีทั้งคนพอใจและไม่พอใจ ยินดีรับฟัง
เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ของกระแสข่าวนายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) มานั่งตำแหน่งรัฐมนตรีแทนโควต้ารัฐมนตรีกลุ่มกปปส. นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่ชื่อที่ถูกเสนอและคาดเดาตามสื่อล้วนเป็นบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ ซึ่งขึ้นอยู่กับเวลา สถานการณ์และความเหมาะสม ที่สำคัญหัวหน้าพรรคและนายกรัฐมนตรีเท่านั้นที่จะเป็นผู้พิจารณา
เมื่อถามถึงการดูแลอดีตรัฐมนตรีที่เป็นแกนนำและแนวร่วมกปปส.ในเรือนจำ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ว่า ปฏิบัติเหมือนนักโทษทั่วไป ดูแลตามมาตรฐานเดียวกัน โดยเฉพาะมาตรการป้องกันโควิด-19 ที่นักโทษทุกคนต้องเข้าสู่กระบวนการกักตัว 14 วันก่อนเข้าไปอยู่ในเขตเรือนจำ ไม่มีใครได้สิทธิพิเศษ เชื่อว่าเวลานี้ทุกคนรอการประกันตัว
เมื่อถามว่าได้เข้าไปให้กำลังใจหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไว้รอแสดงความยินดีเมื่อได้รับการประกันตัวแล้วน่าจะสะดวกกว่า เพราะใครเข้าไปในเรือนจำ ต้องถูกกักตัว 14 วัน และว่า “ผมไม่กล้าไปเพราะเป็นช่วงห้ามเข้าเยี่ยม เว้นแต่ทนาย” .-สำนักข่าวไทย