รัฐสภา 24 ก.พ.- ประชุมร่วมรัฐสภารับหลักการร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ตั้ง กมธ.พิจารณาวาระ 2 ภูมิใจไทยปัดส่งคนร่วม หลังโหวตแพ้ดันให้พิจารณาร่างแก้ รธน.ก่อน
การประชุมร่วมกันของรัฐสภา วันนี้ (24 ก.พ.) มีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. ….. ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ ซึ่งเป็นการพิจารณาต่อจากการประชุมครั้งที่ผ่านมา โดย พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร สมาชิกรัฐสภา อภิปรายว่า การปฏิรูปตำรวจจะประสบความสำเร็จ ต้องเกิดจากการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจที่เป็นธรรม หากมีการทุจริตต้องได้รับโทษปรับและโทษทางอาญา พร้อมขอให้ปรับกระบวนการสอบสวนการทุจริตการแต่งตั้งโยกย้าย โดยกันตำรวจที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมไว้เป็นพยาน อีกทั้งการแต่งตั้งผู้กำกับสถานีตำรวจ ต้องเป็นผู้มีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริง เพื่อป้องกันการสั่งดำเนินคดีเกิดความผิดพลาด ขณะเดียวกัน ยังขอให้การจัดสรรงบประมาณที่ต้องกระจายอำนาจให้หน่วยงานระดับกองบัญชาการมีอำนาจพิจารณา
นายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ สมาชิกรัฐสภา อภิปรายว่า การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจมีการทุจริตอย่างกว้างขวาง มีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง การบริหารงานบุคคลถูกแทรกแซง พร้อมเสนอให้การโยกย้ายข้าราชการตำรวจไปช่วยราชการ ต้องไม่ได้รับค่าตอบแทนในตำแหน่งเดิม เพราะถือว่าไม่ได้ปฏิบัติงานตรงตามสายงานจริง ขณะเดียวกัน การแต่งตั้งโยกย้ายผู้กำกับสถานีตำรวจ ต้องไม่ข้ามหน่วยงาน และให้นำความรู้ความสามารถเป็นหลักเกณฑ์ในการแต่งตั้ง
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ชี้แจงกรณีความเท่าเทียมระหว่างเพศชายและเพศหญิง ในการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจเป็นพนักงานสอบสวน ยืนยันไม่สามารถเลือกปฏิบัติได้ ขึ้นอยู่กับความรู้ความสามารถ หากกำหนดลักษณะเพศไว้ในกฎหมาย อาจจะทำให้ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นการเลือกปฏิบัติ ซึ่งผู้ที่จะดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะเป็นเพศหญิงก็ได้ ขึ้นอยู่ที่นโยบายและการปฏิบัติ เช่นเดียวกับการแต่งตั้งข้าราชการกระทรวงอื่น ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีเป็นประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) และไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ที่ประชุมจะคัดเลือกกรรมการขึ้นมาปฏิบัติหน้าที่แทน แต่จะไม่มอบหมายให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานในที่ประชุมแทน เนื่องจากเกรงว่าจะทำให้เกิดปัญหาและข้อขัดแย้ง
จากนั้นที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. … ด้วยคะแนนเสียง 565 เสียง ไม่เห็นด้วย 2 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการ 49 คน กำหนดเวลาแปรญัตติ 15 วัน อย่างไรก็ตาม พรรคภูมิใจไทยประกาศไม่ร่วมส่งเป็นคณะกรรมาธิการฯ ครั้งนี้ หลังจากไม่เห็นด้วยกับการที่สภาฯ ไม่เลื่อนวาระการแก้รัฐธรรมนูญขึ้นมาพิจารณาก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ คือ การโอนภารกิจเฉพาะทางให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับภารกิจโดยตรงเป็นผู้ดำเนินการ โดยเบื้องต้นจะกำหนดหน้าที่และอำนาจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ไว้เช่นเดิม แต่กำหนดบทเฉพาะกาลเพื่อโอนภารกิจที่ไม่ใช่ภารกิจหลักของ ตร. อาทิ ตำรวจรถไฟ ตำรวจป่าไม้ หรือจราจร ไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับภารกิจนั้นรับผิดชอบโดยตรง จัดสรรเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เหมาะสมกับจำนวนประชาชนในพื้นที่
กำหนดระดับของสถานีตำรวจออกเป็น 3 ระดับ คือ สถานีตำรวจที่มีผู้บังคับการ สถานีตำรวจที่มีรองผู้บังคับการ และสถานีตำรวจที่มีผู้มีตำแหน่งเทียบเท่า โดยการกำหนดจะคำนึงถึงปริมาณความจำเป็นของแต่ละพื้นที่เป็นหลัก เพื่อให้สถานีตำรวจในแต่ละท้องถิ่นมีจำนวนข้าราชการตำรวจในปริมาณที่เหมาะสม กำหนดเกณฑ์การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจชัดเจนยิ่งขึ้น เพื่อขจัดการใช้เส้นสาย โดยแบ่งสายงานออกเป็น 5 กลุ่ม เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ตรงกับความความเชี่ยวชาญตามสายงานอย่างแท้จริง กำหนดหลักเกณฑ์การแต่งตั้งและเลื่อนตำแหน่งอย่างชัดเจนว่า การจะขึ้นดำรงตำแหน่งใดต้องผ่านการดำรงตำแหน่งใดมาก่อน รวมถึงมีประสบการณ์มาแล้วกี่ปี และการแต่งตั้งใด ๆ ต้องคำนึงถึงความอาวุโสในการดำรงตำแหน่งเป็นหลัก เพื่อลดอคติและลดการใช้ดุลพินิจส่วนตัวของผู้บังคับบัญชา.-สำนักข่าวไทย