ทำเนียบรัฐบาล 23 ก.พ.-นายกฯย้ำรัฐบาลจัดหาวัคซีนเพื่อคนไทยทั้งประเทศ ยึดหลักความปลอดภัย ระบุอนาคตถ้ามีใบรับรองว่าฉีดแล้วเข้าไทย อาจไม่ต้องกักตัว หวังเป็นช่องทางหนุนท่องเที่ยว
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงวัคซีนโควิด-19 ที่รัฐบาลจัดหามา ว่า เป็นวัคซีนของประชาชนทั้งประเทศ ไม่ใช่วัคซีนของนายกรัฐมนตรี เป็นการอนุมัติร่วมกันของคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อจัดหาวัคซีนให้กับคนไทยทุกคน ซึ่งขณะนี้ได้รับวัคซีนจาก 2 บริษัท คือ ซิโนแวคและแอสต้าเซเนก้า ส่วนบริษัทอื่น ๆ กำลังตามมา ซึ่งทั้งหมดต้องยื่นขอขึ้นทะเบียนจากองค์การอาหารและยา(อย.) ของไทยก่อน
“ภาคเอกชนที่ต้องการนำเข้าวัคซีน ต้องดำเนินการให้ถูกต้อง ยืนยันรัฐบาลไม่เคยปิดกั้น และถือเป็นข้อดี เนื่องจากคนไทยจะได้มีวัคซีนมากกว่า 65 ล้านโดสที่รัฐบาลจัดหาไว้” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อมีวัคซีนแล้ว ถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยให้การท่องเที่ยวและการประกอบธุรกิจต่าง ๆ ดีขึ้น เพราะอาจกำหนดได้ว่าหากใครฉีดวัคซีนแล้วและมีใบรับรองการเดินทางเข้าประเทศไทยอาจไม่ต้องกักตัว แต่ต้องมีระบบติดตาม เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลจะพิจารณาอย่างรอบคอบอีกครั้ง
“ผมจะฉีดวัคซีนเป็นคนแรกหรือไม่ ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะการจะฉีดให้กับใครบ้างเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการพิจารณา และขึ้นอยู่กับความสมัครใจของผู้รับการฉีด ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้เปิดช่องทางลงทะเบียนสำหรับผู้ที่สนใจฉีดแล้ว ทราบว่ามีทั้งผู้ที่สมัครใจและมีความกังวล แต่สิ่งสำคัญคือรัฐบาลต้องเตรียมวัคซีนไว้ให้พร้อมสำหรับคนทั้งประเทศ ทั้งภาครัฐและเอกชนจะทยอยนำเข้าวัคซีน โดยคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก” นายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย