ศบค.ปรับระดับพื้นที่เฝ้าระวังใหม่

ทำเนียบรัฐบาล 18 ก.พ.-ศบค.พบติดเชื้อใหม่ 150 ราย ปรับระดับพื้นที่เฝ้าระวังหลังสถานการณ์ดีขึ้น พร้อมฉีดวัคซีนทั้งคนไทยและต่างชาติ ชี้ฉีดวัคซีน เตรียมเสนอผ่อนคลายเพิ่ม 22 ก.พ.นี้


พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก เพิ่มขึ้น 392,293 ราย โดยยอดผู้ติดเชื้อรวม 110,429,980 ราย และเสียชีวิต 2,440,928 ราย ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 114 สำหรับยอดผู้ติดเชื้อของสหรัฐอเมริกาลดลงจากเคยพบการติดเชื้อวันละ 3-4 แสนรายเหลือเพียงวันละกว่า 7 หมื่นราย ซึ่งมีข้อสังเกตว่าเกิดจากการฉีดวัคซีนในสหรัฐ อย่างไรก็ตาม นักวิชาการสหรัฐระบุว่า การฉีดวัคซีนไม่มีผลต่อการติดเชื้อ เพราะการฉีดวัคซีนต้องฉีดต่อเนื่องกัน 2 โดส และต้องฉีดให้ได้ 70% ของประเทศจึงจะถือได้ว่าเป็นการป้องกันหมู่

“ส่วนยอดผู้ติดเชื้อภายในประเทศ พบติดเชื้อรายใหม่ 150 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 38 ราย จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชม 104 ราย และจากต่างประเทศเข้าสถานกักกันจากรัฐจัดให้ 8 ราย ประกอบด้วย ผู้ที่เดินทางมาจาก แอฟริกาใต้ 2 ราย บาห์เรน 2 ราย ปากีสถาน บังกลาเทศ สาธารณรัฐยูกันดา และไนจีเรีย ประเทศละ 1 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 25,111 ราย วันนี้ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 82 รายคงเดิม ส่วนผู้ติดเชื้อระลอกใหม่ ที่จังหวัดสมุทรสาคร 26 ราย กรุงเทพมหานคร 5 ราย ปทุมธานี 3 ราย มหาสารคาม 1 ราย พระนครศรีอยุธยา 1 ราย ตาก 1 ราย นครปฐม 1 ราย” ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าว


พญ.อภิสมัย กล่าวถึงยอดรวมผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศรายใหม่และยอดสะสมพบว่า กรุงเทพมหานคร ผู้ติดเชื้อ 5 ราย ตลอดสัปดาห์ยังพบผู้ติดเชื้อต่อเนื่อง ขณะที่ปทุมธานีพบผู้ติดเชื้อ 45 ราย ลดลงจากเมื่อวานนี้(17 ก.พ.) ที่มีจำนวน 82 ราย ส่วนสมุทรปราการ ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อมา 2 วัน และจังหวัดระยอง จันทบุรี นนทบุรี ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อมา 4 วันแล้ว ส่วนการพบผู้ติดเชื้อในประเทศรายสัปดาห์จะพบว่า ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมกราคม (24-30 ม.ค.) พบผู้ติดเชื้อ 17 จังหวัด ต้นเดือนกุมภาพันธ์ (31 ม.ค. – 6 ก.พ.) พบผู้ติดเชื้อ 16 จังหวัด ช่วงวันที่ 7 -13 กุมภาพันธ์ พบผู้ติดเชื้อ 11 จังหวัด และในสัปดาห์นี้ คือ 14-18 ก.พ. 19 จังหวัด ช่วง 7 วันที่ผ่านมา ระหว่างวันที่ 9-18 กุมภาพันธ์ มีจังหวัดที่ไม่พบผู้ติดเชื้อติดต่อกัน 7 วัน 44 จังหวัด จังหวัดที่ไม่พบผู้ติดเชื้อ 3-4 วัน 6 จังหวัด และจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อ 1-3 วัน 13 จังหวัด ส่วนจังหวัดที่ไม่เคยพบผู้ติดเชื้อเลย 14 วัน

ผู้ช่วยโฆษ กศบค. กล่าวถึงการตรวจสอบในพื้นที่ปทุมธานีว่า พบผู้ติดเชื้อเชื่อมโยงตลาดพรพัฒน์ 359 ราย และทีมควบคุมโรคได้กระจายไปตรวจในพื้นที่ตลาดสุชาติ ตลาดรังสิต และพื้นที่ใกล้เคียงชุมชน โดยสุ่มตรวจกว่า 4,000 ตัวอย่าง พบผู้เชื้อ 437 ราย เชื่อมโยงไปอีก 9 จังหวัด คือนครนายก 7 ราย กรุงเทพมหานคร 4 ราย เพชรบุรี 4 ราย สมุทรปราการ 3 ราย สระบุรี 3 ราย พระนครศรีอยุธยา 2 ราย อ่างทอง 2 ราย นครราชสีมา 1 ราย และนนทบุรี 1 ราย ซึ่งการจะปิดตลาดเพื่อไม่ให้ดำเนินชีวิตนั้นเป็นไปไม่ได้ แต่ตลาดต้องมีมาตรการคัดกรองและรายงานอย่างรวดเร็ว ขณะที่ประชาชนที่ไปตลาดควรใช้เวลาอย่างรวดเร็วและวางแผนการไปตลาดก่อน

พญ.อภิสมัย กล่าวถึงการคัดกรองผู้เดินทางจากต่างประเทศว่า จากที่ตรวจคัดกรองพบว่าผู้ติดเชื้อแต่ละคนจะตรวจพบเชื้อไม่เท่ากัน บางคนจะตรวจพบเชื้อในวันที่ 3 วันที่ 4 และวันที่ 5 ของการอยู่ในสถานกักกันของรัฐ ทั้งนี้ เมื่อเข้าสู่สถานกักกันจะตรวจคัดกรอง 3 ช่วง คือตั้งแต่วันแรก วันที่ 3 ถึงวันที่ 5 และก่อนออกจากสถานกักกัน ยืนยันว่าผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศจำเป็นต้องเข้าสถานที่กักตัวที่รัฐกำหนด แม้บุคคลเหล่านี้จะผ่านการตรวจมาจากประเทศต้นทางแล้ว เนื่องจากเมื่อเดินทางมาถึงพบว่า บางคนตรวจพบในครั้งแรก จึงยังจำเป็นต้องกักตัว 14 วัน


ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวถึงการประชุมของคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ว่า ได้พิจารณาปรับการกำหนดเขตพื้นที่สถานการณ์ โดยกำหนดพื้นที่เฝ้าระวังจาก 35 จังหวัดเป็น 54 จังหวัด พื้นที่เฝ้าระวังสูง 17 จังหวัดเป็น 14 จังหวัด พื้นที่ควบคุม 24 จังหวัดเป็น 8 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ สมุทรสงคราม นนทบุรี นครปฐม ปทุมธานี ตาก และราชบุรี ส่วนพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 1 จังหวัด คือ สมุทรสาคร

“คณะกรรมการฉุกเฉินฯ หารือเรื่องการฉีดวัคซีน โดยห็นตรงกันว่าจะต้องกระจายวัคซีนให้ทุกคนในประเทศ เข้าถึงวัคซีนคุณภาพ ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ ซึ่งไม่เฉพาะคนไทย แต่รวมถึงชาวต่างชาติที่ต้องดูแลในมาตรฐานเดียวกัน ทั้งนี้ เมื่อวัคซีนล็อตแรกมาถึงประเทศในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ จะถือว่าเป็นระยะที่ 1 ที่จะฉีดคือช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคมในกลุ่มเสี่ยงสูง จากนั้นจะฉีดในระยะที่สอง ซึ่งจะมีวัคซีนมากขึ้น ที่จะฉีดให้ภาคเศรษฐกิจ ท่องเที่ยวและบริการ ขอยืนยันว่าการฉีดวัคซีน เป็นเพียงการป้องกันตัวเอง ไม่ใช่การลดการแพร่เชื้อ ดังนั้น ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว ไม่ใช่ว่าจะไปไหนมาไหนได้หมดโดยไม่ป้องกัน แต่ต้องคงมาตรการป้องกันเช่นเดิม รวมทั้งจะพิจารณาการกระจายวัคซีนในระดับจังหวัด และมาตรฐานของสถานที่ฉีดให้เหมือนกันทั้งประเทศ” พญ.อภิสมัย กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีเอกชนจะนำเข้าวัคซีนมาฉีดเองได้หรือไม่ พญ.อภิสมัย กล่าวว่า มีข้อเสนอจำนวนมาก โดยเฉพาะจังหวัดที่เป็นพื้นที่ท่องเที่ยว ซึ่งศบค.เห็นด้วยให้ภาคเอกชนจัดหาวัคซีนได้ แต่ควรเป็นไปตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข ที่ควรเป็นสถานพยาบาลหรือโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน เพราะหากเกิดการแพ้วัคซีน อาจจะต้องกู้ชีพ ส่วนวัคซีนจะต้องขึ้นทะเบียนอย.ว่ามีความปลอดภัย

ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าวว่า มาตรการต่าง ๆ ที่หารือในที่ประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจ จะเสนอให้ที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่พิจารณาในวันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์นี้ ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนมีความหวังและกำลังใจ หากมีมาตรการผ่อนคลายแล้ว จะเปิดร้านอาหารได้ การแสดงดนตรีสามารถทำได้ ขอให้ดูแลสุขภาพอนามัยของตนเอง สำหรับการดำเนินการขององค์กรหรือร้านค้าต่าง ๆ ขอความร่วมมือผู้ค้าขายและผู้บริการดำเนินตามมาตรการให้ดีที่สุด เพื่อให้กลับมาใช้ชีวิตปกติได้ทั้งประเทศ

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขได้รายงานให้ศบค.ทราบแล้วเรื่องแพทย์เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 และจะแถลงเวลา 15.00 น. วันนี้ (18 ก.พ.).-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]