ศบค.ปรับระดับพื้นที่เฝ้าระวังใหม่

ทำเนียบรัฐบาล 18 ก.พ.-ศบค.พบติดเชื้อใหม่ 150 ราย ปรับระดับพื้นที่เฝ้าระวังหลังสถานการณ์ดีขึ้น พร้อมฉีดวัคซีนทั้งคนไทยและต่างชาติ ชี้ฉีดวัคซีน เตรียมเสนอผ่อนคลายเพิ่ม 22 ก.พ.นี้


พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก เพิ่มขึ้น 392,293 ราย โดยยอดผู้ติดเชื้อรวม 110,429,980 ราย และเสียชีวิต 2,440,928 ราย ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 114 สำหรับยอดผู้ติดเชื้อของสหรัฐอเมริกาลดลงจากเคยพบการติดเชื้อวันละ 3-4 แสนรายเหลือเพียงวันละกว่า 7 หมื่นราย ซึ่งมีข้อสังเกตว่าเกิดจากการฉีดวัคซีนในสหรัฐ อย่างไรก็ตาม นักวิชาการสหรัฐระบุว่า การฉีดวัคซีนไม่มีผลต่อการติดเชื้อ เพราะการฉีดวัคซีนต้องฉีดต่อเนื่องกัน 2 โดส และต้องฉีดให้ได้ 70% ของประเทศจึงจะถือได้ว่าเป็นการป้องกันหมู่

“ส่วนยอดผู้ติดเชื้อภายในประเทศ พบติดเชื้อรายใหม่ 150 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 38 ราย จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชม 104 ราย และจากต่างประเทศเข้าสถานกักกันจากรัฐจัดให้ 8 ราย ประกอบด้วย ผู้ที่เดินทางมาจาก แอฟริกาใต้ 2 ราย บาห์เรน 2 ราย ปากีสถาน บังกลาเทศ สาธารณรัฐยูกันดา และไนจีเรีย ประเทศละ 1 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 25,111 ราย วันนี้ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 82 รายคงเดิม ส่วนผู้ติดเชื้อระลอกใหม่ ที่จังหวัดสมุทรสาคร 26 ราย กรุงเทพมหานคร 5 ราย ปทุมธานี 3 ราย มหาสารคาม 1 ราย พระนครศรีอยุธยา 1 ราย ตาก 1 ราย นครปฐม 1 ราย” ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าว


พญ.อภิสมัย กล่าวถึงยอดรวมผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศรายใหม่และยอดสะสมพบว่า กรุงเทพมหานคร ผู้ติดเชื้อ 5 ราย ตลอดสัปดาห์ยังพบผู้ติดเชื้อต่อเนื่อง ขณะที่ปทุมธานีพบผู้ติดเชื้อ 45 ราย ลดลงจากเมื่อวานนี้(17 ก.พ.) ที่มีจำนวน 82 ราย ส่วนสมุทรปราการ ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อมา 2 วัน และจังหวัดระยอง จันทบุรี นนทบุรี ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อมา 4 วันแล้ว ส่วนการพบผู้ติดเชื้อในประเทศรายสัปดาห์จะพบว่า ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมกราคม (24-30 ม.ค.) พบผู้ติดเชื้อ 17 จังหวัด ต้นเดือนกุมภาพันธ์ (31 ม.ค. – 6 ก.พ.) พบผู้ติดเชื้อ 16 จังหวัด ช่วงวันที่ 7 -13 กุมภาพันธ์ พบผู้ติดเชื้อ 11 จังหวัด และในสัปดาห์นี้ คือ 14-18 ก.พ. 19 จังหวัด ช่วง 7 วันที่ผ่านมา ระหว่างวันที่ 9-18 กุมภาพันธ์ มีจังหวัดที่ไม่พบผู้ติดเชื้อติดต่อกัน 7 วัน 44 จังหวัด จังหวัดที่ไม่พบผู้ติดเชื้อ 3-4 วัน 6 จังหวัด และจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อ 1-3 วัน 13 จังหวัด ส่วนจังหวัดที่ไม่เคยพบผู้ติดเชื้อเลย 14 วัน

ผู้ช่วยโฆษ กศบค. กล่าวถึงการตรวจสอบในพื้นที่ปทุมธานีว่า พบผู้ติดเชื้อเชื่อมโยงตลาดพรพัฒน์ 359 ราย และทีมควบคุมโรคได้กระจายไปตรวจในพื้นที่ตลาดสุชาติ ตลาดรังสิต และพื้นที่ใกล้เคียงชุมชน โดยสุ่มตรวจกว่า 4,000 ตัวอย่าง พบผู้เชื้อ 437 ราย เชื่อมโยงไปอีก 9 จังหวัด คือนครนายก 7 ราย กรุงเทพมหานคร 4 ราย เพชรบุรี 4 ราย สมุทรปราการ 3 ราย สระบุรี 3 ราย พระนครศรีอยุธยา 2 ราย อ่างทอง 2 ราย นครราชสีมา 1 ราย และนนทบุรี 1 ราย ซึ่งการจะปิดตลาดเพื่อไม่ให้ดำเนินชีวิตนั้นเป็นไปไม่ได้ แต่ตลาดต้องมีมาตรการคัดกรองและรายงานอย่างรวดเร็ว ขณะที่ประชาชนที่ไปตลาดควรใช้เวลาอย่างรวดเร็วและวางแผนการไปตลาดก่อน

พญ.อภิสมัย กล่าวถึงการคัดกรองผู้เดินทางจากต่างประเทศว่า จากที่ตรวจคัดกรองพบว่าผู้ติดเชื้อแต่ละคนจะตรวจพบเชื้อไม่เท่ากัน บางคนจะตรวจพบเชื้อในวันที่ 3 วันที่ 4 และวันที่ 5 ของการอยู่ในสถานกักกันของรัฐ ทั้งนี้ เมื่อเข้าสู่สถานกักกันจะตรวจคัดกรอง 3 ช่วง คือตั้งแต่วันแรก วันที่ 3 ถึงวันที่ 5 และก่อนออกจากสถานกักกัน ยืนยันว่าผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศจำเป็นต้องเข้าสถานที่กักตัวที่รัฐกำหนด แม้บุคคลเหล่านี้จะผ่านการตรวจมาจากประเทศต้นทางแล้ว เนื่องจากเมื่อเดินทางมาถึงพบว่า บางคนตรวจพบในครั้งแรก จึงยังจำเป็นต้องกักตัว 14 วัน


ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวถึงการประชุมของคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ว่า ได้พิจารณาปรับการกำหนดเขตพื้นที่สถานการณ์ โดยกำหนดพื้นที่เฝ้าระวังจาก 35 จังหวัดเป็น 54 จังหวัด พื้นที่เฝ้าระวังสูง 17 จังหวัดเป็น 14 จังหวัด พื้นที่ควบคุม 24 จังหวัดเป็น 8 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ สมุทรสงคราม นนทบุรี นครปฐม ปทุมธานี ตาก และราชบุรี ส่วนพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 1 จังหวัด คือ สมุทรสาคร

“คณะกรรมการฉุกเฉินฯ หารือเรื่องการฉีดวัคซีน โดยห็นตรงกันว่าจะต้องกระจายวัคซีนให้ทุกคนในประเทศ เข้าถึงวัคซีนคุณภาพ ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ ซึ่งไม่เฉพาะคนไทย แต่รวมถึงชาวต่างชาติที่ต้องดูแลในมาตรฐานเดียวกัน ทั้งนี้ เมื่อวัคซีนล็อตแรกมาถึงประเทศในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ จะถือว่าเป็นระยะที่ 1 ที่จะฉีดคือช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคมในกลุ่มเสี่ยงสูง จากนั้นจะฉีดในระยะที่สอง ซึ่งจะมีวัคซีนมากขึ้น ที่จะฉีดให้ภาคเศรษฐกิจ ท่องเที่ยวและบริการ ขอยืนยันว่าการฉีดวัคซีน เป็นเพียงการป้องกันตัวเอง ไม่ใช่การลดการแพร่เชื้อ ดังนั้น ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว ไม่ใช่ว่าจะไปไหนมาไหนได้หมดโดยไม่ป้องกัน แต่ต้องคงมาตรการป้องกันเช่นเดิม รวมทั้งจะพิจารณาการกระจายวัคซีนในระดับจังหวัด และมาตรฐานของสถานที่ฉีดให้เหมือนกันทั้งประเทศ” พญ.อภิสมัย กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีเอกชนจะนำเข้าวัคซีนมาฉีดเองได้หรือไม่ พญ.อภิสมัย กล่าวว่า มีข้อเสนอจำนวนมาก โดยเฉพาะจังหวัดที่เป็นพื้นที่ท่องเที่ยว ซึ่งศบค.เห็นด้วยให้ภาคเอกชนจัดหาวัคซีนได้ แต่ควรเป็นไปตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข ที่ควรเป็นสถานพยาบาลหรือโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน เพราะหากเกิดการแพ้วัคซีน อาจจะต้องกู้ชีพ ส่วนวัคซีนจะต้องขึ้นทะเบียนอย.ว่ามีความปลอดภัย

ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าวว่า มาตรการต่าง ๆ ที่หารือในที่ประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจ จะเสนอให้ที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่พิจารณาในวันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์นี้ ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนมีความหวังและกำลังใจ หากมีมาตรการผ่อนคลายแล้ว จะเปิดร้านอาหารได้ การแสดงดนตรีสามารถทำได้ ขอให้ดูแลสุขภาพอนามัยของตนเอง สำหรับการดำเนินการขององค์กรหรือร้านค้าต่าง ๆ ขอความร่วมมือผู้ค้าขายและผู้บริการดำเนินตามมาตรการให้ดีที่สุด เพื่อให้กลับมาใช้ชีวิตปกติได้ทั้งประเทศ

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขได้รายงานให้ศบค.ทราบแล้วเรื่องแพทย์เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 และจะแถลงเวลา 15.00 น. วันนี้ (18 ก.พ.).-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี

ชลบุรี 26 มิ.ย. – คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท ห้างดังกลางเมืองชลบุรี ระหว่างหนีเจอตำรวจนอกเครื่องแบบ คนร้ายยิงปืนใส่ 1 นัด โดนหมวกกันน็อก ตำรวจหลบทันแย่งปืนได้ แต่คนร้ายวิ่งหลบหนี คนร้ายชายสวมเสื้อแขนยาวสีเทาดำสวมหมวกสีชมพูใส่แมสก์ปิดบังใบหน้ากางเกงขายาว ทำทีเข้ามาซื้อทองภายในร้านทอง ในห้างสรรสินค้าย่านบ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนจะชักปืนออกมาจี้บังคับพนักงานให้หยิบ สร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 10 บาท จำนวน 2 เส้น และหนัก 9 บาท จำนวน 2 เส้น ก่อนจะเอาทองใส่กระเป๋าแล้วรีบวิ่งหลบหนีออกจากห้าง ระหว่างหลบหนี มีตำรววิ่งไล่ติดตามคนร้าย และตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาทำธุระเห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปจับกุม แต่ถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่สุดท้ายสามารถแย่งปืนจากคนร้ายเอาไว้ได้ พนักงานร้านทอง เล่าว่าตอนเกิดเหตุเป็นช่วงกำลังจัดร้านเพราะเพิ่งเปิดมีผู้ก่อเหตุสวมหมวกสีชมพู ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้าเข้ามาขอดูทองหนัก 10 บาท จึงบอกให้ถอดหมวกและแมสก์ แต่พูดยังไม่ทันขาดคำผู้ก่อเหตุได้ชักปืนออกมาพร้อมกับจี้บังคับให้เอาทองหนัก 10 บาท มาให้สองเส้นและสร้อยคอหนัก 9 บาทอีกสองเส้น รวมเป็น 4 เส้น น้ำหนักรวม […]

ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone สอยร่วง 4 ลำโดรนไม่ทราบฝ่าย

กองทัพเรือ 26 มิ.ย.-ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone ตอบโต้โดรนไม่ทราบฝ่ายที่บินเหนือฐานชายแดนจันทบุรีช่วงต้นสัปดาห์ สอยร่วง 4 ลำ พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ ระบุถึงกรณี จนท.เฝ้าตรวจการณ์นาวิกโยธิน ใช้ Anti-Drone ตัดสัญญาณโดรน ไม่ทราบฝ่ายตก 4 ลำ ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังจันทบุรีตราด ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า โดรนไม่ทราบฝ่าย บินเหนือฐาน ชายแดนจันทบุรี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ Anti-Drone ยิงตกไป 4 ลำ ทั้งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลายวันแล้ว และเป็นไปตามที่ได้ชี้แจง ถึงแนวทางปฏิบัติของกองทัพเรือไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยกองทัพเรือมีมาตรการควบคุมการใช้โดรนบริเวณแนวชายแดน และแจ้งเตือนหากมีโดรนเข้ามาในเขตหวงห้ามก็จะใช้มาตรการต่อต้านโดรน.-313.-สำนักข่าวไทย

สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย. – เลขาธิการ กพฐ. สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทันที เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ กรณีโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จัดอาหารมื้อเช้าให้นักเรียนเป็นข้าว พะโล้ไก่ กับไข่ต้ม 1 ใบนั้น สพฐ.ได้รับทราบเหตุและไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอนโดยทันที เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนและเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมทั้งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ยังสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เป็นการชั่วคราวจนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาด้านการบริหารภายในสถานศึกษา โดย สพฐ. จะกำกับติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ได้กำชับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่งให้กำกับติดตามสถานศึกษาในสังกัดให้ดำเนินการโครงการต่างๆ ตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักเรียนและครูต่อไป.-417-สำนักข่าวไทย

เลื่อน! “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ลงทะเบียน 1 ก.ค.

25 มิ.ย. – เลื่อน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” 5 แสนสิทธิ์ ประชาชนเริ่มลงทะเบียน 1 ก.ค. เวลา 08.00 น. เดินทางได้ตั้งแต่ 4 ก.ค. – 31 ต.ค.68 เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าครม. มีมติเห็นชอบโครงการและรายการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 110,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท หนึ่งในนั้นคือโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง วงเงิน 1,750 ล้านบาท โดยมีการแจ้งว่า จะเริ่มเปิดลงทะเบียนให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการ 5 แสนสิทธิ์ เที่ยงคืนที่ผ่านมา และสามารถเที่ยวได้ 1 ก.ค.เป็นต้นไป แต่ปรากฏว่า มีการแจ้งเลื่อนเมื่อคืนนี้เช่นกัน โดย ผู้ว่าการ ททท. แจ้งว่าจะเปิดลงทะเบียนวันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 08.00 น. […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ถกเหตุ “ภูเก็ต-พังงา” ขอมั่นใจทุกหน่วยงานดูแลอย่างดี

ทำเนียบ 27 มิ.ย.- นายกฯ เรียก ผบ.ตร.-ผบช.ทท.-ปลัดท่องเที่ยว รายงานสถานการณ์ลอบวางระเบิด “ภูเก็ต-พังงา” ขอประชาชน-นักท่องเที่ยวมั่นใจทุกหน่วยงานดูแลอย่างดี ขณะที่ “ภูมิธรรม” เรียกหน่วยงานความมั่นคงถกช่วงบ่าย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีโพสต์ข้อความภายหลังเชิญ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (ผบช.ทท.) และน.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ว่าจากสถานการณ์ที่มีความพยายามวางระเบิดในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต-พังงา วันนี้ (27 มิ.ย.) ดิฉันได้เชิญท่าน ผบ.ตร. ท่านผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และท่านปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เพื่อติดตามสถานการณ์ดังกล่าว โดยได้รับรายงานจากทุกภาคส่วนว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ก่อความวุ่นวายในพื้นที่เพื่อให้เกิดความไม่สงบ ดิฉันได้ย้ำทุกภาคส่วนให้มีการสืบสวนติดตามสถานการณ์นี้มาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ดำเนินทุกมาตรการความปลอดภัย เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่จะเกิดแก่พี่น้องประชาชน อย่างไรก็ตามค่ะ รัฐบาลจะไม่ประมาท ทางสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ จะดำเนินการติดตามและยกระดับการทำงานต่อไปอย่างเข้มงวด โดยในช่วงบ่ายวันนี้ ทางท่านรองนายกฯ ภูมิธรรม จะเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินสถานการณ์ เฝ้าระวัง และเร่งออกมาตรการที่เด็ดขาดต่อไป ในนามรัฐบาล ดิฉันขอให้พี่น้องประชาชนทุกคนมั่นใจว่าทุกหน่วยงานจะดูแลเรื่องนี้อย่างดีที่สุด และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่าน ที่ทำหน้าที่นี้ด้วยความตั้งใจ เสียสละ […]

“ชัยเกษม” ลั่นหากจำเป็น พร้อมเป็นนายกฯ เพื่อชาติบ้านเมือง

27 มิ.ย. – “ชัยเกษม” ลั่นพร้อมทำเพื่อชาติ หากจำเป็นต้องทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี ตอนนี้แข็งแรง ไม่มีปัญหา ท่ามกลางกระแสการเมืองร้อนแรง ปมเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก ทำให้บุคคลที่ถูกจับตามองตอนนี้ คือ นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ ลำดับที่ 3 ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ อาจถูกมองว่ามีปัญหาด้านสุขภาพแต่ล่าสุด มีภาพนายชัยเกษม โชว์สวิงออกรอบตีกอล์ฟ แสดงให้เห็นถึงร่างกายที่แข็งแรง ล่าสุด เจ้าตัวได้เปิดเผยในรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ทางช่อง 9 MCOT HD ว่า “ตอนนี้แข็งแรง เรียบร้อยหมดทุกอย่าง เพราะก้อนเลือดที่ท้ายทอย สลายไปหมดแล้ว ชีวิตก็ปกติ ไม่มีปัญหา ตอนไปพบหมอครั้งล่าสุด หมอก็บอกว่าโชคดีมหาศาลที่หายแล้ว เมื่อวานไปตีกอล์ฟได้สบายเลย ตอนนี้สุขใจ สบายใจแล้ว” เมื่อถามว่า พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี หรือไม่ นายชัยเกษม ตอบว่า “ไม่จำเป็นต้องให้เป็นหรอก ถ้าเลี่ยงได้ ก็ให้คนอื่นเขาทำเถอะ ผมทำมาเยอะแล้ว แต่ถ้าจำเป็นก็ได้เพราะไม่มีอะไร แต่อย่าให้จำเป็นเลย คนอื่นก็มีเยอะแยะ […]

แม่ทัพภาคที่ 2 ปัดให้ความเห็น “ฮุนเซน” ไลฟ์พาดพิง

ทำเนียบ 27 มิ.ย.-แม่ทัพภาคที่2 ปัดให้ความเห็น “ฮุนเซน” ไลฟ์พาดพิง บอกเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องจัดการเอง ยันขอทำหน้าที่ของตนเอง ไม่เคยหวั่นไหว ชี้สถานการณ์ชายแดน ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง​ ไม่ถึงขั้นใช้อาวุธ​ ขอรอกัมพูชาตัดสินใจร่วมวงเจรจา RBC เชื่อสถานการณ์ไทย-กัมพูชา จบก่อนเกษียณ พลโทบุญสิน​ พาด​กลาง​ แม่ทัพ​ภาค​ที่​ 2 กล่าวถึงกรณีสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ไลฟ์พาดพิงประเทศไทยได้รับรายงานเรื่องนี้แล้วหรือไม่ ว่า คงเป็นเรื่องของรัฐบาล แต่ตนก็ติดตามอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีและทีมงานที่ต้องไปแก้ไข ส่วนกองทัพก็ดูแลเรื่องของความมั่นคง พื้นที่ตามชายแดนเป็นหลัก​ เมื่อถามถึงสถานการณ์ชายแดนขณะนี้เป็นเช่นไร​ พลโทบุญสิน​ กล่าวว่า เราก็ตรึงกำลังอยู่ ส่วนทางกัมพูชาก็ยังไม่ได้มีการถอนกำลังออกจากพื้นที่ เพื่อรอความชัดเจนจากทั้งสองประเทศ แต่อย่างไรก็ต้องยึดตามนโยบายของผู้นำทั้ง 2 ประเทศเช่นกัน ว่าจะคุยกันอย่างไรต่อ ส่วนทหารก็ต้องทำหน้าที่ของทหารต่อไป คือการควบคุมกำกับดูแลตามแนวชายแดน ให้เป็นปกติดีที่สุด เมื่อถามว่าได้รับสัญญาณบวกจากทางกัมพูชาบ้างหรือไม่ พลโทบุญสิน​ ระบุว่า ก็ดีมีการพูดคุยกันตลอด มีสัญญาณบวกตั้งแต่การปรับกำลังที่ช่องบก​ อำเภอน้ำยืน​ จังหวัดอุบลราชธานี แต่รอการเจรจาระหว่างผู้นำ 2 ประเทศ ส่วนกรณีที่สมเด็จฮุนเซน มีการเปลี่ยนตำแหน่งเป็นเสนาธิการทหารสูงสุด […]

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย