ศบค.ปรับระดับพื้นที่เฝ้าระวังใหม่

ทำเนียบรัฐบาล 18 ก.พ.-ศบค.พบติดเชื้อใหม่ 150 ราย ปรับระดับพื้นที่เฝ้าระวังหลังสถานการณ์ดีขึ้น พร้อมฉีดวัคซีนทั้งคนไทยและต่างชาติ ชี้ฉีดวัคซีน เตรียมเสนอผ่อนคลายเพิ่ม 22 ก.พ.นี้


พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก เพิ่มขึ้น 392,293 ราย โดยยอดผู้ติดเชื้อรวม 110,429,980 ราย และเสียชีวิต 2,440,928 ราย ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 114 สำหรับยอดผู้ติดเชื้อของสหรัฐอเมริกาลดลงจากเคยพบการติดเชื้อวันละ 3-4 แสนรายเหลือเพียงวันละกว่า 7 หมื่นราย ซึ่งมีข้อสังเกตว่าเกิดจากการฉีดวัคซีนในสหรัฐ อย่างไรก็ตาม นักวิชาการสหรัฐระบุว่า การฉีดวัคซีนไม่มีผลต่อการติดเชื้อ เพราะการฉีดวัคซีนต้องฉีดต่อเนื่องกัน 2 โดส และต้องฉีดให้ได้ 70% ของประเทศจึงจะถือได้ว่าเป็นการป้องกันหมู่

“ส่วนยอดผู้ติดเชื้อภายในประเทศ พบติดเชื้อรายใหม่ 150 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 38 ราย จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชม 104 ราย และจากต่างประเทศเข้าสถานกักกันจากรัฐจัดให้ 8 ราย ประกอบด้วย ผู้ที่เดินทางมาจาก แอฟริกาใต้ 2 ราย บาห์เรน 2 ราย ปากีสถาน บังกลาเทศ สาธารณรัฐยูกันดา และไนจีเรีย ประเทศละ 1 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 25,111 ราย วันนี้ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 82 รายคงเดิม ส่วนผู้ติดเชื้อระลอกใหม่ ที่จังหวัดสมุทรสาคร 26 ราย กรุงเทพมหานคร 5 ราย ปทุมธานี 3 ราย มหาสารคาม 1 ราย พระนครศรีอยุธยา 1 ราย ตาก 1 ราย นครปฐม 1 ราย” ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าว


พญ.อภิสมัย กล่าวถึงยอดรวมผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศรายใหม่และยอดสะสมพบว่า กรุงเทพมหานคร ผู้ติดเชื้อ 5 ราย ตลอดสัปดาห์ยังพบผู้ติดเชื้อต่อเนื่อง ขณะที่ปทุมธานีพบผู้ติดเชื้อ 45 ราย ลดลงจากเมื่อวานนี้(17 ก.พ.) ที่มีจำนวน 82 ราย ส่วนสมุทรปราการ ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อมา 2 วัน และจังหวัดระยอง จันทบุรี นนทบุรี ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อมา 4 วันแล้ว ส่วนการพบผู้ติดเชื้อในประเทศรายสัปดาห์จะพบว่า ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมกราคม (24-30 ม.ค.) พบผู้ติดเชื้อ 17 จังหวัด ต้นเดือนกุมภาพันธ์ (31 ม.ค. – 6 ก.พ.) พบผู้ติดเชื้อ 16 จังหวัด ช่วงวันที่ 7 -13 กุมภาพันธ์ พบผู้ติดเชื้อ 11 จังหวัด และในสัปดาห์นี้ คือ 14-18 ก.พ. 19 จังหวัด ช่วง 7 วันที่ผ่านมา ระหว่างวันที่ 9-18 กุมภาพันธ์ มีจังหวัดที่ไม่พบผู้ติดเชื้อติดต่อกัน 7 วัน 44 จังหวัด จังหวัดที่ไม่พบผู้ติดเชื้อ 3-4 วัน 6 จังหวัด และจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อ 1-3 วัน 13 จังหวัด ส่วนจังหวัดที่ไม่เคยพบผู้ติดเชื้อเลย 14 วัน

ผู้ช่วยโฆษ กศบค. กล่าวถึงการตรวจสอบในพื้นที่ปทุมธานีว่า พบผู้ติดเชื้อเชื่อมโยงตลาดพรพัฒน์ 359 ราย และทีมควบคุมโรคได้กระจายไปตรวจในพื้นที่ตลาดสุชาติ ตลาดรังสิต และพื้นที่ใกล้เคียงชุมชน โดยสุ่มตรวจกว่า 4,000 ตัวอย่าง พบผู้เชื้อ 437 ราย เชื่อมโยงไปอีก 9 จังหวัด คือนครนายก 7 ราย กรุงเทพมหานคร 4 ราย เพชรบุรี 4 ราย สมุทรปราการ 3 ราย สระบุรี 3 ราย พระนครศรีอยุธยา 2 ราย อ่างทอง 2 ราย นครราชสีมา 1 ราย และนนทบุรี 1 ราย ซึ่งการจะปิดตลาดเพื่อไม่ให้ดำเนินชีวิตนั้นเป็นไปไม่ได้ แต่ตลาดต้องมีมาตรการคัดกรองและรายงานอย่างรวดเร็ว ขณะที่ประชาชนที่ไปตลาดควรใช้เวลาอย่างรวดเร็วและวางแผนการไปตลาดก่อน

พญ.อภิสมัย กล่าวถึงการคัดกรองผู้เดินทางจากต่างประเทศว่า จากที่ตรวจคัดกรองพบว่าผู้ติดเชื้อแต่ละคนจะตรวจพบเชื้อไม่เท่ากัน บางคนจะตรวจพบเชื้อในวันที่ 3 วันที่ 4 และวันที่ 5 ของการอยู่ในสถานกักกันของรัฐ ทั้งนี้ เมื่อเข้าสู่สถานกักกันจะตรวจคัดกรอง 3 ช่วง คือตั้งแต่วันแรก วันที่ 3 ถึงวันที่ 5 และก่อนออกจากสถานกักกัน ยืนยันว่าผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศจำเป็นต้องเข้าสถานที่กักตัวที่รัฐกำหนด แม้บุคคลเหล่านี้จะผ่านการตรวจมาจากประเทศต้นทางแล้ว เนื่องจากเมื่อเดินทางมาถึงพบว่า บางคนตรวจพบในครั้งแรก จึงยังจำเป็นต้องกักตัว 14 วัน


ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวถึงการประชุมของคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ว่า ได้พิจารณาปรับการกำหนดเขตพื้นที่สถานการณ์ โดยกำหนดพื้นที่เฝ้าระวังจาก 35 จังหวัดเป็น 54 จังหวัด พื้นที่เฝ้าระวังสูง 17 จังหวัดเป็น 14 จังหวัด พื้นที่ควบคุม 24 จังหวัดเป็น 8 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ สมุทรสงคราม นนทบุรี นครปฐม ปทุมธานี ตาก และราชบุรี ส่วนพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 1 จังหวัด คือ สมุทรสาคร

“คณะกรรมการฉุกเฉินฯ หารือเรื่องการฉีดวัคซีน โดยห็นตรงกันว่าจะต้องกระจายวัคซีนให้ทุกคนในประเทศ เข้าถึงวัคซีนคุณภาพ ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ ซึ่งไม่เฉพาะคนไทย แต่รวมถึงชาวต่างชาติที่ต้องดูแลในมาตรฐานเดียวกัน ทั้งนี้ เมื่อวัคซีนล็อตแรกมาถึงประเทศในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ จะถือว่าเป็นระยะที่ 1 ที่จะฉีดคือช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคมในกลุ่มเสี่ยงสูง จากนั้นจะฉีดในระยะที่สอง ซึ่งจะมีวัคซีนมากขึ้น ที่จะฉีดให้ภาคเศรษฐกิจ ท่องเที่ยวและบริการ ขอยืนยันว่าการฉีดวัคซีน เป็นเพียงการป้องกันตัวเอง ไม่ใช่การลดการแพร่เชื้อ ดังนั้น ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว ไม่ใช่ว่าจะไปไหนมาไหนได้หมดโดยไม่ป้องกัน แต่ต้องคงมาตรการป้องกันเช่นเดิม รวมทั้งจะพิจารณาการกระจายวัคซีนในระดับจังหวัด และมาตรฐานของสถานที่ฉีดให้เหมือนกันทั้งประเทศ” พญ.อภิสมัย กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีเอกชนจะนำเข้าวัคซีนมาฉีดเองได้หรือไม่ พญ.อภิสมัย กล่าวว่า มีข้อเสนอจำนวนมาก โดยเฉพาะจังหวัดที่เป็นพื้นที่ท่องเที่ยว ซึ่งศบค.เห็นด้วยให้ภาคเอกชนจัดหาวัคซีนได้ แต่ควรเป็นไปตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข ที่ควรเป็นสถานพยาบาลหรือโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน เพราะหากเกิดการแพ้วัคซีน อาจจะต้องกู้ชีพ ส่วนวัคซีนจะต้องขึ้นทะเบียนอย.ว่ามีความปลอดภัย

ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าวว่า มาตรการต่าง ๆ ที่หารือในที่ประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจ จะเสนอให้ที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่พิจารณาในวันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์นี้ ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนมีความหวังและกำลังใจ หากมีมาตรการผ่อนคลายแล้ว จะเปิดร้านอาหารได้ การแสดงดนตรีสามารถทำได้ ขอให้ดูแลสุขภาพอนามัยของตนเอง สำหรับการดำเนินการขององค์กรหรือร้านค้าต่าง ๆ ขอความร่วมมือผู้ค้าขายและผู้บริการดำเนินตามมาตรการให้ดีที่สุด เพื่อให้กลับมาใช้ชีวิตปกติได้ทั้งประเทศ

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขได้รายงานให้ศบค.ทราบแล้วเรื่องแพทย์เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 และจะแถลงเวลา 15.00 น. วันนี้ (18 ก.พ.).-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา ปราบสแกมเมอร์

สระแก้ว 16 ก.ย.-วันนี้ที่จังหวัดสระแก้ว มีการประชุมสำคัญระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อหวังแนวทางร่วมมือในการปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสแกมเมอร์.-สำนักข่าวไทย

ผู้ค้าทองคำเสนอตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ค้านเก็บภาษีเทรดทอง

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ราคาทองคำนิวไฮตามตลาดโลก การค้าทองคึกคัก ผู้ค้าทองคำค้านแนวคิดภาครัฐเก็บภาษีเทรดทองคำออนไลน์ เพื่อป้องกันบาทแข็งค่า ระบุถอยหลังเข้าคลอง ทำลายการค้า เสนอ ธปท. “ตั้งเคลียริ่งเฮาส์-ปรับสูตรดูแลค่าเงิน” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) กล่าวว่า ในการประชุมระหว่างผู้ค้าทองคำและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ทาง ธปท.มีการสอบถามความเห็นเรื่อง การที่กระทรวงการคลังอาจออกมาตรการเก็บภาษีในการซื้อ-ขายทองคำ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และมีการชำระเป็นเงินบาท เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท ซึ่งทางผู้ค้าทองคำ คัดค้านเพราะจะกระทบต่อการค้าทองคำในองค์รวมของทั้งในและต่างประเทศ ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้การค้าทองคำทั้งในและต่างประเทศแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และความนิยมเทรดระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเทรดออนไลน์ทั้งผ่านแอปฯ ต่างๆ และเทรดผ่าน Gold Futures ตลาด TFEX ซึ่งเป็นการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำภายในประเทศ โดยยอดเทรดเติบโตอย่างมากราว 9-20 ตัน/วัน หรือ 20,000-35,000 สัญญาต่อวัน […]

รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้

พรรคภูมิใจไทย 16 ก.ย.-รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้ หลังนายกฯ ลั่นเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าการนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีอนุทิน 1 คาดว่าจะมีความชัดเจนเร็วสุดในเย็นวันนี้ (16 ก.ย.) หรืออย่างช้าวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.) ซึ่งต้องรอความชัดเจนจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ขณะที่บรรยากาศพรรคภูมิใจไทยในช่วงเช้าวันนี้ยังคงเงียบเหงา มีแกนนำพรรคเดินทางเข้าที่ทำการพรรค อาทิ นายทรงศักดิ์ ทองศรี ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคภูมิใจไทย ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เบื้องต้นยังไม่มีกำหนดการเดินทางเข้าพรรคในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายอนุทิน ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ไว้ว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งจะสามารถทูลเกล้าฯ ถลายได้ภายในสัปดาห์นี้.-สำนักข่าวไทย

เตือนภาวะน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.

กรุงเทพฯ 16 ก.ย.-สทนช. ออกประกาศเตือน เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.นี้ คาดระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงจะสูงกว่าจุดวิกฤติ 0.20 เมตร เสี่ยงน้ำเอ่อล้นริมเจ้าพระยา-ท่าจีน-แม่กลอง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกประกาศเตือน เรื่อง “เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง” เตือนประชาชนและหน่วยงานในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง ให้เฝ้าระวังระดับน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ระหว่างวันที่ 17–22 กันยายน 2568 ในช่วงเวลา 16.00–19.00 น. ของแต่ละวัน โดยเฉพาะพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราว ซึ่งยังไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร หรือที่เรียกว่า “แนวฟันหลอ” นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสทนช. กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ร่วมกับกรมอุทกศาสตร์ คาดว่าช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงที่ระดับน้ำทะเลหนุนสูง โดยระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงอาจสูงถึง 1.70–1.90 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำวิกฤติประมาณ 0.20 เมตร ปัจจัยที่ส่งผลต่อการหนุนสูงของน้ำทะเลในช่วงนี้ได้แก่ ร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศไทย ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังปานกลาง ซึ่งยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยและบริเวณอ่าวไทย ส่งผลให้บางพื้นที่ยังคงมีฝนตก และเมื่อรวมกับปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุน จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำ พื้นที่เสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ […]