อุทัยธานี 13 ก.พ. – ประธาน ศกพ. ลงพื้นที่ จ.อุทัยธานี ติดตามการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 จากโรงงานผลิตน้ำตาล และปัญหาอ้อยไฟไหม้
วันนี้ (13 ก.พ.) นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการสื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ พร้อมด้วยนายมงคลชัย สมอุดร ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) และประธานศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) นายเถลิงศักดิ์ เพ็ชรสุวรรณ รองอธิบดี คพ. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจติดตามการปฏิบัติตามมาตรการลดฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ของพื้นที่เกษตร และปัญหาอ้อยไฟไหม้ ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่บริษัท อุตสาหกรรมน้ำตาลบ้านไร่ จำกัด และเยี่ยมชมกระบวนการผลิต โดยมีนายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี นางไพรินทร์ กันทะวงษ์ อุตสาหกรรมจังหวัดอุทัยธานี ดร.ณัฐพล อัษฎาธร กรรมการผู้จัดการ บริษัท อุตสาหกรรมน้ำตาลบ้านไร่ จำกัด และกลุ่มผู้แทนชาวไร่ ให้การต้อนรับ โดยบริษัทฯ ได้มีโครงการรับซื้อใบอ้อยสด ในราคาตันละ 1,000 บาท มาผลิตเป็นเชื้อเพลิงชีวมวล ส่งผลให้ในปี 2563 มีปริมาณอ้อยไฟไหม้อยู่ที่ 30% (ปี 2562 70%) และในปี 2566 มีเป้าหมายรับซื้ออ้อยสด 100% ซึ่งถือเป็นต้นแบบที่สำคัญของการบริหารจัดการด้านการลดฝุ่นละออง PM 2.5 และการทำเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
นายธีรภัทร กล่าวว่า การทำเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จะช่วยลดผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อม และผลกระทบกับสุขภาพของประชาชน ซึ่งถือเป็นแนวคิดที่ดี หากมีการขยายผลไปยังพื้นที่เกษตรอื่นๆ ก็จะช่วยลดปัญหามลพิษทางอากาศ เช่น ฝุ่นละออง PM 2.5 และเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ทั้งนี้ ได้ขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ร่วมกันลดกิจกรรมที่ก่อให้เกิดฝุ่น PM 2.5 ลดการเผาวัสดุทางการเกษตรที่เหลือใช้ และนำเศษวัสดุทางการเกษตรที่เหลือใช้มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดทดแทนการเผา
นายอรรถพล กล่าวว่า จากการดำเนินงานของศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ พบว่า ค่าเฉลี่ยของฝุ่นละออง PM 2.5 ในภาพรวมของประเทศดีขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว ที่สำคัญในพื้นที่ จ.อุทัยธานี จ.กำแพงเพชร และ จ.นครสรรค์ มีค่าฝุ่นละออง PM 2.5 น้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ถือเป็นความสำเร็จของการดำเนินการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองแบบบูรณาการของทั้งหน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานเอกชน และประชาชน และได้เน้นย้ำเกษตรกรที่ปลูกอ้อย ข้าวโพด และข้าว ให้ช่วยกันลดการเผาในที่โล่ง เมื่อฝุ่นละออง PM 2.5 น้อยลง สุขภาพของประชาชนก็จะดีขึ้นด้วย
นายณรงค์ กล่าวว่า จ.อุทัยธานี ได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาการเผาวัสดุทางการเกษตรที่เหลือใช้ เช่น พื้นที่นา พื้นที่ไร่อ้อย ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดฝุ่นละออง PM 2.5 โดยมีการติดตามข้อมูลจุดความร้อน (Hotspot) พบว่า จุดความร้อนของปี 2563 ลดลงร้อยละ 85 จากปีที่แล้ว
ทั้งนี้ จ.อุทัยธานี ได้มีมาตรการแก้ไขปัญหาอ้อยไฟไหม้ ประกอบด้วย มาตรการทางกฎหมาย มาตรการสนับสนุนจากภาครัฐในการสนับสนุนเครื่องจักรกลการเกษตร และการขอความร่วมมือด้านการบริหารจัดการ และโครงการส่งเสริมสินเชื่อเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอ้อยอย่างครบวงจร ปี 2562-2564 นอกจากนี้ มีโครงการเพิ่มมูลค่าหรือใช้ประโยชน์จากใบอ้อยที่เหลือจากการตัดอ้อยสด เพื่อเป็นการจูงใจให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยลดการเผาอ้อยก่อนเก็บเกี่ยว และเป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรชาวไร่อ้อยอีกทางหนึ่ง. – สำนักข่าวไทย