ทำเนียบ 12 ก.พ.-“ดอน” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ย้ำ พื้นฐานอาเซียนจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับกิจการภายในประเทศของใคร แต่อาจมีท่าทีขอให้เมียนมากลับสู่สภาวะปกติ พร้อมเชื่อว่า สหรัฐทราบดีถึงแนวทางการรับมือกับผู้ชุมนุมของรัฐบาลไทย
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงท่าทีของอาเซียนต่อสถานการณ์ในประเทศเมียนมา ว่า มีการพูดคุยกันในกรอบของอาเซียน เพื่อที่จะนัดหมายแต่ยังไม่สามารถตกลงกันได้ แต่พื้นฐานของอาเซียนจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับกิจการภายในประเทศของใคร จึงทำให้ยังไม่ได้ข้อยุติ
ส่วนกรณีที่สหรัฐมีความห่วงใยอาเซียนจะเป็นแรงกดดันหรือไม่นั้น นายดอน กล่าวว่า ไม่ถึงกับเป็นการกดดัน เพราะสหรัฐกับอาเซียนได้พูดคุยกันเป็นรายประเทศอยู่แล้ว อย่างเช่น รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐที่พึ่งเข้ามารับตำแหน่งก็จะมีการโทรศัพท์พูดคุย แต่ไม่ได้เป็นการแสดงความคิดเห็นที่เกี่ยวกับสถานการณ์ในเมียนมา อาจเป็นเพราะว่าวันที่โทรมาก่อนวันเกิดเหตุรัฐประหาร แต่หลังจากนั้นได้คุยกับประเทศอาเซียนอื่นๆ ซึ่งมีการหยิบยกเรื่องสถานการณ์เมียนมามาพูดคุย แต่ไม่ใช่ลักษณะของการกดดัน เพียงอยากให้อาเซียนมีท่าทีต่อสถานการณ์ในเมียนมา อยากให้มีการปล่อยตัวนางออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมา และอยากให้สถานการณ์ในเมียนมากลับสู่สภาวะปกติ ซึ่งคงจะเป็นเรื่องที่อาเซียนสามารถแสดงท่าทีได้
นายดอน ยังกล่าวถึงกรณีที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของประธานาธิบดีสหรัฐโทรศัพท์พูดคุยกับพลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ แสดงความกังวลเกี่ยวกับการจับกุมและดำเนินคดี ตามมาตรา 112 กับผู้ชุมนุม ว่า เข้าใจว่าเป็นความเข้าใจผิดของการนำเสนอข่าว ซึ่งในการพูดคุยกันระหว่างสหรัฐกับเลขา สมช. ไม่ได้พูดคุยกันในเรื่องนี้ แต่อาจจะมีการคุยกันในระดับเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นท่าทีปกติที่หวังว่าจะไม่มีเหตุการณ์วุ่นวาย รุนแรง บานปลาย เพราะสหรัฐทราบดีถึงการรับมือกับผู้ชุมนุมของรัฐบาลไทยว่าเป็นอย่างไร ซึ่งยังไม่มีความรุนแรงเหมือนประเทศอื่นๆ
ส่วนกรณีที่นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้โพสต์ทวิตเตอร์ ว่าได้รับเชิญให้สอนวิชาการต่างประเทศสหรัฐ-จีน-อาเซียนให้กับคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จังหวัดสงขลา นายดอน กล่าวว่า ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร เพราะบางครั้งการโพสต์อาจจะมีการแฝงสีสัน แต่มองว่าเรื่องนี้ไม่ปกติ จึงต้องสอบถามทางมหาวิทยาลัยถึงข้อเท็จจริงก่อน.-สำนักข่าวไทย