รัฐสภามีมติส่งศาลตีความเรื่องแก้ รธน.

รัฐสภา 9 ก.พ.- รัฐสภาเห็นชอบญัตติ “ไพบูลย์” ขอให้ศาลวินิจฉัย การแก้ไข รธน. ขัด รธน.หรือไม่  เพื่อไทยซัด รัฐบาลพยายามขัดขวางการแก้ เพื่อประโยชน์ตัวเอง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมร่วมรัฐสภา ในวันนี้ (9ก.พ.) มีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาเป็นประธานการประชุม โดยที่ประชุมมีวาระสำคัญในการพิจารณาญัตติด่วน ของนายไพบูลย์ นิติตะวัน  ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และนายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ที่ขอให้รัฐสภาพิจารณาส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามมาตรา 256 ของรัฐสภา เพื่อตั้ง ส.ส.ร. ขึ้นมายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้น ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยอ้างว่ารัฐธรรมนูญให้ดำเนินการเพียงแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราได้เท่านั้น ทั้งนี้ที่ประชุมได้กำหนดให้สมาชิกได้อภิปรายเป็นเวลา 3 ชั่วโมง

นายไพบูลย์ นิติตะวัน ให้เหตุผลในการเสนอญัตติ ว่าการยื่นญัตติครั้งนี้ ต้องการให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปอย่างถูกต้องสมบูรณ์ที่สุด ซึ่งหลังจากที่ตนเองได้ทำหน้าที่เป็นรองประธานกรรมาธิการพิจารณาก่อนรับหลักการวาระแรก พบปัญหาข้อกฎหมายว่าตามรัฐธรรมนูญมาตรา 2560 ไม่มีมาตราใดให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ มีเพียงแค่ให้อำนาจแก้ไขเพิ่มเติมเป็นรายมาตราเท่านั้น ต่างจากรัฐธรรมนูญปี 2557 ที่กำหนดไว้ชัดเจนอีกทั้งประเด็นนี้ยังมีความเห็นแตกต่างกัน ทำให้เกิดความไม่ชัดเจนและอาจส่งผลต่อการลงมติให้ความเห็นชอบในวาระที่ 3 ได้ โดยเฉพาะสมาชิกวุฒิสภา ที่อาจจะไม่ให้ความเห็นชอบหากไม่มีความชัดเจนเรื่องนี้ จึงจำเป็นต้องยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ชัดเจนก่อนที่จะมีการทำประชามติ เพราะหากยื่นหลังจากทำประชามติและเกิดปัญหาขัดรัฐธรรมนูญขึ้นจริง จะทำให้การทำประชามติที่ต้องใช้งบประมาณ 3,000 ล้านบาทนั้นเสียเปล่า ประกอบกับ สำนักงานกฤษฎีกาเห็นว่า เรื่องนี้เป็นอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญที่จะต้องวินิจฉัย เพื่อให้ได้ข้อยุติจึงขอให้สมาชิกลงมติส่งเรื่องนี้ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยโดยด่วนด้วย


ด้านนายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางความไม่เชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะมีความจริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญจริงหรือไม่ เพราะแม้นายกรัฐมนตรีจะพูดสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่กลับเกิดเหตุการณ์ย้อนแย้งอย่างไม่คาดคิดถึง 2 ครั้งติดต่อกัน เห็นได้จากการพิจารณารับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระแรก กลับมีการเสนอญัตติขอตั้งกรรมาธิการขึ้นมาใช้เวลาตรวจสอบญัตติก่อนรับหลักการอยู่ระยะหนึ่งมาแล้ว ทั้งที่เป็นญัตติที่เสนอจากฝ่ายรัฐบาลเอง แต่กลับมาขอตรวจสอบร่างกฎหมายกันเอง อีกเรื่องคือการที่ ส.ส. รัฐบาลลงนามเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญเอง แต่กลับมาขอให้รัฐสภาส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ตนเองลงนามเสนอมาเองนั้นชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ ทำให้เห็นได้ชัดว่าพฤติกรรมดังกล่าวเป็นความพยายามขัดขวางให้การแก้รัฐธรรมนูญเป็นไปด้วยความล่าช้า เพื่อประโยชน์ของตนเองหรือไม่ โดยไม่สนใจประเทศชาติและประชาชน ส่วนที่อ้างว่ารัฐธรรมนูญให้อำนาจเพียงการแก้ไขรายมาตรานั้น ส่วนตัวยืนยันว่าการดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐสภาขณะนี้ เป็นกระบวนการที่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นไปตามกระบวนการใน ในมาตรา 256 ถือว่าเป็นการทำตามหน้าที่โดยชอบด้วยรัฐธรรมนูญแล้ว

ด้านนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่าการร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้เพื่อต้องการให้การเมืองมีเสถียรภาพ และการพิจารณาในชั้นกรรมาธิการได้มีศึกษาอย่างรอบด้านว่า การ ตั้ง ส.ส.ร. ขึ้นมาร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ดำเนินการโดยชอบด้วยรัฐธรรมนูญแล้ว ส่วนที่อ้างว่าศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำวินิจฉัยเรื่องนี้ไว้เป็นบรรทัดฐานเมื่อปี2555 แล้วนั้น ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการศึกษาคำวินิจฉัยแล้วพบว่าคำวินิจฉัยดังกล่าว เป็นการวินิจฉัยไปตามบริบทของรัฐธรรมนูญปี 2550 และสภาพทางการเมืองขณะนั้นมีความพยายามจะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อไม่ให้เป็นไปตามครรลองในระบอบประชาธิปไตยอีกทั้งกระบวนการแก้ไขยังมิชอบเพราะมีปัญหาการเสียบบัตรแทนกัน  ซึ่งต่างจากสถานการณ์ในขณะนี้ ที่ดำเนินการตามกระบวนการตามรัฐธรรมนูญ 2560 และการแก้ไขครั้งนี้ ดำเนินการเพียง 2 หลักการเท่านั้น ได้แก่การแก้เงื่อนไข ที่ทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญทำได้ง่ายขึ้น และหลักการที่ 2 คือการให้ มี ส.ส.ร. ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน ขึ้นมาร่างรัฐธรรมนูญ โดยไม่ไปแตะต้อง เนื้อหาหมวด 1 และหมวด 2 

นายนิกร จำนง สมาชิกรัฐสภา อภิปรายคัดค้านญัตติดังกล่าวเนื่องจากเห็นว่า รัฐสภาต้องรักษาอำนาจนิติบัญญัติให้ดี เพื่อเป็นหลักในการคานอำนาจ หากรักษาไว้ไม่ได้จะสูญเสียกลไกของระบบประชาธิปไตยอาจจะนำไปสู่การล่มสลายของระบบประชาธิปไตย อีกทั้งการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญเพื่อประเทศชาติและประชาชนโดยรวม ไม่ใช่เพื่อบุคคลใดหรือพรรคการเมืองใด รวมถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นอำนาจที่รัฐสภากระทำได้ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญปี 2560 อีกทั้งการแก้ไขมาตรา 256 เป็นเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น ฉะนั้น จะส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นไม่ได้ 


นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม สมาชิกรัฐสภา เห็นด้วยที่จะส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญตีความ เนื่องจาก เกิดข้อถกเถียงว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญอาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งกรณีดังกล่าวไม่สามารถใช้เสียงข้างมากตัดสินได้ ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องเสียหายที่จะเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพราะถือว่ามีผลผูกพันทุกองค์และหากเกิดการใช้อำนาจโดยไม่ชอบจะให้เกิดความเสียหายต่อประเทศ

อย่างไรก็ตามการพิจารณาในวันนี้ (9ก.พ.)  ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ และสมาชิกวุฒิสภา มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันที่จะให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาล ทั้งพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา เห็นด้วยกับฝ่ายค้านว่าไม่ควรส่งศาล เนื่องจาก รัฐธรรมนูญต้องผ่านความเห็นชอบของประชาชนโดยการทำประชามติ ก่อนที่จะนำไปสู่การแต่งตั้ง สภาร่างรัฐธรรมนูญ อีกทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้เกิดจากสถานการณ์การเมืองไม่มีเสถียรภาพ และเพื่อให้คณะกรรมาธิการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เดินหน้าแก้ปัญหาการเมืองให้เป็นประชาธิปไตย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากที่ได้มีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวางแล้วที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบกับญัตติด่วน ของนายไพบูลย์ และนายสมชาย ด้วยคะแนน 366 ต่อ 315 งดออกเสียง 15 เสียง

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเสียงการลงมติ ส่วนใหญ่เสียงที่เห็นด้วย คือ พรรคพลังประชารัฐ และ ส.ว. ส่วนที่ลงมติไม่เห็นด้วย คือ ฝ่ายค้านทั้งหมด ทั้งพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา ยกเว้น นายอภิชัย เตชะอุบล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ที่ไปลงมติเห็นด้วยกับพรรคพลังประชารัฐ ส่วนบุคคลที่งดออกเสียงทั้ง 15 เสียง แบ่งเป็น 3 ฝ่าย อาทิ พรรคชาติพัฒนา 4 เสียง พรรคเศรษฐกิจใหม่ 4 เสียง และ ส.ว.บางส่วน อาทิ นายคำนูญ สิทธิสมาน นายนวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ เป็นต้น.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2

กทม. 18 มิ.ย.- ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2 ส่วนหน้าสโมสรกองทัพบก ถ.วิภาวดีรังสิต ขึ้นข้อความให้กำลังใจผ่านจอแอลอีดี ขณะที่เพจโซเชียลกองทัพ แห่โพสต์ข้อความ #ศักดิ์ศรีของทหาร 18 มิ.ย.68 ภายหลังจากที่มีคลิปเสียงการพูดคุยระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา หลุดออกมา และมีการพูดถึง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ว่าอยู่ฝั่งตรงข้าม ล่าสุดเพจเฟซบุ๊กของหน่วยทหารต่างๆ อาทิ กรมกิจการพลเรือนทหารบก ได้โพสต์ข้อความว่า พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เรื่อง #ศักดิ์ศรีของทหาร 1. ทหาร คือ ผู้ที่ได้รับเกียรติอย่างสูงจากประชาชนทั้งชาติ ให้เป็นสุภาพบุรุษ ถืออาวุธเพื่อป้องกันประเทศ 2. ทหาร เป็นผู้เสียสละประโยชน์สุขส่วนตัว เพื่อความผาสุกของประชาชนและความอยู่รอดของชาติ 3. ทหาร คือ ผู้ที่รักและบูชาเกียรติยศมากกว่าเงิน นอกจากนี้ เพจ Smart Soldiers Strong […]

“อนุทิน” บอก “จบแล้วครับนาย” ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู

กทม. 18 มิ.ย.-“อนุทิน” สั่ง จนท.ขนของออกจากกระทรวง บอก “จบแล้วครับนาย” ไม่ต้องคุยนายกฯ หลัง “หมอมิ้ง” ยื่นไพ่ใบสุดท้าย ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู เตรียมซ้อมกับ “ไอซ์ รักชนก” เวลา 13.35 น. วันที่ 18 มิ.ย.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังนายกฯ ระบุว่ายังไม่แจ้งเงื่อนไขการปรับ ครม. ว่า ตนยังไม่ได้ยิน ซึ่งเมื่อวานนี้ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ซึ่งเราก็บอกท่าทีเราไปแล้ว เมื่อถามว่า การขนของออกจากห้องทำงาน ถือเป็นการปิดประตูเจรจาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ ชัดเจนแล้วว่า เราคงไม่ได้เปลี่ยนอะไร และ นพ.พรหมินทร์ ได้ย้ำเงื่อนไขของพรรคเพื่อไทยว่าเป็นแบบนี้ เมื่อถามต่อว่า ต้องคุยกับนายกฯ อีกครั้งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยกับนายกฯ และเมื่อวาน […]

“ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงฉบับเต็ม 17 นาที

กัมพูชา 18 มิ.ย. – “ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงคุย “แพทองธาร” ฉบับเต็ม 17 นาที เผยบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส ส่งต่อให้บุคคลอื่นราว 80 คน เว็บไซต์ขแมร์ ไทม์ส รายงานว่า “นายฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชาเปิดเผยผ่านสื่อโซเชียล มีเนื้อหาระบุว่า “เมื่อเย็นวันที่ 15 มิถุนายน ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีของไทยเป็นเวลา 17 นาที 6 วินาที โดยมีนายเคลียง ฮวต รองผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ ทำหน้าที่ล่ามแปลภาษา ซึ่งตามปกติแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนหรือตีความหมายผิดในเรื่องที่เป็นทางการ จึงจำเป็นต้องทำการบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส รวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์ภายในของกัมพูชาด้วย และจากนั้นเป็นต้นมา ตนเอง ก็ได้แชร์เทปเสียงสนทนานี้ให้กับบุคคลอื่นๆ ราว 80 คน ที่รวมถึงสมาชิกคณะกรรมการถาวรของพรรค คณะทำงานวุฒิสภา หน่วยงานเฉพาะกิจด้านการต่างประเทศ หน่วยงานด้านการศึกษาและการเข้าถึงกลุ่มกิจการชายแดน และสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งในจำนวนคนเหล่านี้อาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีบางคนที่ไม่พอใจนายกรัฐมนตรีของไทย ฮุน เซนโพสต์ต่อว่า “แต่หลังจากการสนทนาผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง ผู้นำไทยกลับออกมากล่าวหาผู้นำกัมพูชาอย่างเปิดเผยว่าทำงานการเมืองอย่างไม่เป็นมืออาชีพ และขับเคลื่อนประเด็นทางการเมืองผ่านทางเฟซบุ๊ก […]

ข่าวแนะนำ

“ภูมิใจไทย” มีมติถอนตัวร่วมรัฐบาล จี้นายกฯ รับผิดชอบ​ทำไทยเสียเกียรติ

กทม. 18 มิ.ย.-“ภูมิใจไทย” มีมติถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล รัฐมนตรีร่อนใบลาออก มีผล 19 มิ.ย. จี้นายกฯ รับผิดชอบ​ ทำไทยเสียเกียรติ-ศักดิ์ศรี จากกรณีคลิปเสียงสนทนา “ฮุน ​เซน​” พร้อมร่วมมือประชาชน-กองทัพ รักษาอธิปไตยไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 20.39 น. วันนี้ พรรคภูมิใจไทย ได้ออกแถลงการณ์​ ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2568​ ระบุถึงกรณีการโทรศัพท์เจรจาระหว่างนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน​ ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งมีผลกระทบต่ออธิปไตย ดินแดน ผลประโยชน์ของประเทศไทย และ​กองทัพไทย ตามที่ประชาชนได้รับทราบแล้วนั้น พรรคภูมิใจไทย ขอเรียนว่า กรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย ได้ประชุมพิจารณาถึงกรณีที่เกิดขึ้น และมีมติให้พรรคภูมิใจไทย ถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล ทั้งนี้ รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยทุกคน ได้ส่งใบลาออกต่อนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีผลวันที่ 19 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป พรรคภูมิใจไทย ขอเรียกร้องให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร […]

เปิดขุมทรัพย์ช่องจอม รังใหม่แก๊งคอลเซ็นเตอร์

สุรินทร์ 18 มิ.ย. – จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม จ.สุรินทร์ เป็น 1 ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญ ที่ไม่เพียงตอบโต้กันในมิติทางเศรษฐกิจ แต่กระทบกระทั่งในมิติความมั่นคง ทั้งเรื่องพื้นที่ทับซ้อน และแหล่งอาชญากรรมข้ามชาติที่เมืองโอร์เสม็ด จังหวัดอุดรมีชัย ของกัมพูชา ถูกจับตาว่าเป็นฐานใหม่ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ .-สำนักข่าวไทย

“ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงฉบับเต็ม 17 นาที

กัมพูชา 18 มิ.ย. – “ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงคุย “แพทองธาร” ฉบับเต็ม 17 นาที เผยบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส ส่งต่อให้บุคคลอื่นราว 80 คน เว็บไซต์ขแมร์ ไทม์ส รายงานว่า “นายฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชาเปิดเผยผ่านสื่อโซเชียล มีเนื้อหาระบุว่า “เมื่อเย็นวันที่ 15 มิถุนายน ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีของไทยเป็นเวลา 17 นาที 6 วินาที โดยมีนายเคลียง ฮวต รองผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ ทำหน้าที่ล่ามแปลภาษา ซึ่งตามปกติแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนหรือตีความหมายผิดในเรื่องที่เป็นทางการ จึงจำเป็นต้องทำการบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส รวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์ภายในของกัมพูชาด้วย และจากนั้นเป็นต้นมา ตนเอง ก็ได้แชร์เทปเสียงสนทนานี้ให้กับบุคคลอื่นๆ ราว 80 คน ที่รวมถึงสมาชิกคณะกรรมการถาวรของพรรค คณะทำงานวุฒิสภา หน่วยงานเฉพาะกิจด้านการต่างประเทศ หน่วยงานด้านการศึกษาและการเข้าถึงกลุ่มกิจการชายแดน และสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งในจำนวนคนเหล่านี้อาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีบางคนที่ไม่พอใจนายกรัฐมนตรีของไทย ฮุน เซนโพสต์ต่อว่า “แต่หลังจากการสนทนาผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง ผู้นำไทยกลับออกมากล่าวหาผู้นำกัมพูชาอย่างเปิดเผยว่าทำงานการเมืองอย่างไม่เป็นมืออาชีพ และขับเคลื่อนประเด็นทางการเมืองผ่านทางเฟซบุ๊ก […]

มทภ.2 ไม่ติดใจนายกฯ ปมคลิปเสียง ขอทำเพื่อชาติ-ปชช.

อีสาน 18 มิ.ย.- “พล.ท.บุญสิน” มทภ.2 ไม่ติดใจ “นายกฯ อิ๊งค์” ปมคลิปเสียง ขอทำงานเพื่อชาติ-ประชาชน พร้อมเดินทางเยี่ยมลูกน้องบาดเจ็บจากภารกิจชายแดน พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้โทรมาปรับความเข้าใจ พร้อมทั้งอธิบายเนื้อหาในการสนทนากับสมเด็จฮุน เซน เพื่อต้องการให้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เบาบางลง เป็นการพูดคุยกันหลังบ้าน โดยตนได้บอกกับนายกฯ ไปว่า “ผมไม่มีอะไรครับ ผมเข้าใจ” ทั้งนี้ นายกฯ ได้ขอบคุณที่เข้าใจ ถือว่าคุยแล้วเข้าใจแล้ว ก็ไม่ติดใจอะไร ตนทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของพี่น้องประชาชน พล.ท.บุญสิน ยังระบุต่อว่า วันนี้กำลังเดินทางไปเยี่ยมผู้ใต้บังคับบัญชาที่ได้รับบาดเจ็บจากภารกิจชายแดน ตนทำงานตามปกติ ไม่มีอะไร.-313.-สำนักข่าวไทย