นายกฯ พร้อมอภิปรายไม่ไว้วางใจ

ทำเนียบฯ 9 ก.พ.- นายกรัฐมนตรี ประกาศพร้อมชี้แจงอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่วนที่ “ไพบูลย์” ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้เลื่อนวันอภิปราย พล.อ.ประวิตร บอกว่าไม่ควรเลื่อน


บรรยากาศก่อนการประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เตรียมยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ เนื่องจากมีเนื้อหาพาดพิงสถาบันฯ ซึ่งอาจต้องเลื่อนวันออกไป นายกฯ บอกส่วนตัวไม่มีความเห็นเรื่องนี้

ส่วนความพร้อมที่ไปติวกับพรรคพลังประชารัฐร่วมกับ 10 รัฐมนตรีที่ถูกซักฟอกหรือไม่ นายกฯ บอกว่าคงไปติวให้ รมต.มากกว่า อย่างไรก็ตาม ข้อมูลชี้แจงไปหมดแล้ว นายกฯ ย้ำว่าไม่มีปัญหากับการไม่ไว้วางใจไว้วางใจ เพราะพร้อมตลอด พร้อมทุกวัน


ส่วน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายไพบูลย์ เตรียมยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ยืนยันว่าเรื่องนี้นายไพบูลย์ ดำเนินการเอง ไม่ได้มาปรึกษากับ พร้อมย้ำว่าการยื่นดังกล่าว ไม่ใช่เป็นการคว่ำ และขอให้เป็นเรื่องของศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้พิจารณา

ส่วนกรณีที่พรรคร่วมรัฐบาล นัดติวเข้ม 10 รัฐมนตรีก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น พล.อ.ประวิตร ระบุว่าได้นัดหมายกันวันที่ 13-14 ก.พ.นี้ และยืนยันว่าตนเองจะไปร่วมอย่างแน่นอน ขณะที่ปัญหาภายในพรรคพลังประชารัฐนั้น พล.อ.ประวิตร ย้ำว่าไม่มีอะไร

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่พรรคร่วมรัฐบาลเตรียมนัดรัฐมนตรีพี่มีรายชื่อถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจติวเข้มว่า ยังไม่มีใครนัดมา แต่เชื่อว่าการอยู่ร่วมรัฐบาลด้วยกันต้องสนับสนุนในสิ่งที่ถูกต้อง


ส่วนกระแสข่าวว่าอาจจะมีการโหวตสวนมติ และทำให้คะแนนของรัฐมนตรีแต่ละคนไม่เท่ากัน เพื่อนำไปสู่การปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายอนุทิน ระบุ ก็ว่ากันไป และยืนยันว่าในส่วนของพรรคภูมิใจไทย มีความเป็นเอกภาพ ไม่เคยมีปัญหากับใครเลย

ส่วนที่นายไพบูลย์ เตรียมยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ย้ำว่าส่วนตัวมีความพร้อม จะอภิปรายเมื่อไรก็เมื่อนั้นยิ่งเร็วยิ่งดีจะได้มีเวลาทำงานอย่างอื่นได้

ส่วนการประชุมร่วมรัฐสภา ที่จะมีการพิจารณาลงมติ เพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 เพื่อตั้ง ส.ส.ร.มายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่เห็นด้วย เพราะจุดยืนของพรรคภูมิใจไทยคือต้องการให้มี ส.ส.ร. และเรื่องนี้ไม่ขัดแย้ง กับพรรคพลังประชารัฐ เพราะไม่ใช่เรื่องระหว่างพรรคการเมืองไม่ใช่เรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน แต่เป็นเรื่องของปวงชนชาวไทย เป็นเรื่องประชาธิปไตย เป็นการทำหน้าที่ของ ส.ส. ทุกคนมีเอกสิทธิ์ในทางประชาธิปไตยที่ไม่เหมือนกันได้ ก็ไปว่ากันในสภา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

ชายแดนไทย-เมียนมา ยังระอุ ปะทะเดือดใกล้จุดแตกหัก

ทหารกะเหรี่ยงใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีฐานทหารเมียนมา ตรงข้าม อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 800 เมตร โรงเรียนในฝั่งไทย ซึ่งอยู่ติดแนวปะทะ หยุดการเรียนการสอน 1 วัน ขณะที่มีชาวเมียนมาหนีภัยสู้รบเข้าไทยกว่า 400 คน

ทร.จับเรือประมงเมียนมารุกล้ำน่านน้ำไทย

ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือระนอง จับกุมเรือประมงสัญชาติเมียนมา พร้อมลูกเรือและกัปตันเรือ 6 คน ขณะรุกล้ำน่านน้ำไทย บริเวณน่านน้ำเกาะช้าง จ.ระนอง ก่อนควบคุมเรือลำดังกล่าวมาตรวจสอบที่ท่าเรือน้ำลึกระนอง

แจ้งความเอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ผอ.องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ลุยเอง ยื่นหลักฐานให้ตำรวจ ปปป. เอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก ระบุทำกันมานานเกือบ 10 ปี พบทั้งข้าราชการ-อดีตข้าราชการ เอี่ยวประมาณ 20 คน

รู้เบาะแสคนร้ายชิงทอง 102 บาท คาดเป็นคนในพื้นที่

ตำรวจรู้เบาะแสคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง 102 บาท ภายในห้างดังกลางเมืองแม่สอด คาดยังหลบอยู่ในพื้นที่ สั่งคุมเข้มแนวชายแดน ป้องกันคนร้ายหลบหนี พร้อมยกระดับมาตรการดูแลร้านทอง-ห้างสรรพสินค้า ป้องกันเหตุซ้ำรอย