ศบค.เผยจุฬาฯ ติดเชื้อ 9 ราย

ทำเนียบรัฐบาล 8 ก.พ.- ผู้ช่วยโฆษก ศบค.แถลงมีผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 186 ราย คาดที่จุฬาฯ มีติดเชื้ออีก 9 ราย เตรียมคัดกรองเชิงรุกโรงงานสมุทสาครที่พบเชื้อน้อยกว่า 10 % กว่า 50 แห่ง


พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด 19 วันนี้(8 ก.พ.) เพิ่มขึ้น 186 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 23,557 ราย หายป่วยแล้ว 17,410 ราย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 6,068 ราย ผู้เสียชีวิตสะสมรวม 79 คน โดยเป็นผู้ป่วยยืนยันสะสมรอกใหม่ ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2563 – 8 กุมภาพันธ์ 2564 จำนวน 19,320 ราย

ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าวว่า สำหรับผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น 186 ราย เเบ่งเป็นผู้ที่ติดเชื้อในประเทศ 176 ราย เป็นผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและบริการ 141 ราย จากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 35 ราย และผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศเข้า state quarantine 10 ราย เดินทางมาจากเยอรมนี 1 ราย อินเดีย 1 ราย มาเลเซีย 1 ราย ตุรกี 1 ราย สวีเดน 1 ราย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 2 ราย สหราชอาณาจักร 2 ราย และสหรัฐอเมริกา 1 ราย


“สำหรับผู้ติดเชื้อในกรุงเทพฯจำนวน 3 ราย พบว่าเป็นผู้ที่ติดเชื้อในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจคัดกรองผู้ที่มีความเสี่ยงสูง-ต่ำไปแล้ว และคาดว่าจะมี 9 รายที่มีแนวโน้มจะเป็นผู้ติดเชื้อโควิค ทั้งนี้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้รายงานการสอบสวนวงจรของโรคอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยง 14 วัน ก่อนวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่พบเชื้อ และมีมาตรการให้ผู้มีความเสี่ยงลาหยุดกักตัวเฝ้าดูอาการ และทำความสะอาดพื้นที่ โดยมีคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินโควิด 19 ติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดและดูแลอาการ” พญ.อภิสมัย กล่าว

ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าวว่า ส่วนสถานการณ์ที่จังหวัดสมุทรสาครยังคงค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชนอย่างต่อเนื่อง และกำหนดมาตรการของจังหวัดในการคัดกรองเชิงรุกในโรงงานที่พบผู้ติดเชื้อน้อยกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ที่มีอยู่ประมาณ 50 โรงงาน เพราะที่ผ่านมาได้คัดกรองโรงงานที่พบผู้ติดเชื้อเกินกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ไปหมดแล้ว โดยในการตรวจจะค้นหา 100-150 เคสต่อวันต่อ 1 โรงงานหรือประมาณ 5,000 คนต่อวัน ซึ่งมาตรการที่เข้มข้นของจังหวัดสมุทรสาครเพื่อจะติดตามคัดกรองและตีกรอบโรค หวังว่าเมื่อสถานการณ์คลี่คลายก็จะให้ทุกคนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติโดยเร็ว

“ผู้ป่วยโควิดรายแรกที่อาศัยในอำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม มีอาชีพแม่ค้าขายหมู แม้จะพักอาศัยอยู่ที่อำเภออัมพวา แต่เดินทางไปหลายจังหวัด ทั้งการไปขายของในตลาดรถไฟ จังหวัดสมุทรสาครและการไปรับหมูที่อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี โดยพบว่าติดเชื้อเมื่อวันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา หลังจากนั้นคนในครอบครัวไปตรวจหาเชื้อ เนื่องจากเป็นผู้มีความเสี่ยงสูง ทำให้พบลูกสะใภ้ติดเชื้อเพิ่มอีก 1 คน แต่สิ่งที่น่าสนใจสำหรับกรณีนี้ เนื่องจากเป็นผู้ที่เดินทางไปมาหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ที่มีความเกี่ยวข้องทั้งในครอบครัวตลาดและชุมชนตั้งแต่วันที่ 30 มกราคมถึงวันที่ 4 กุมภาพันธ์มีรายงานพบผู้ติดเชื้อเป็นคลัสเตอร์เดียวกัน 87 ราย และมีความเชื่อมโยงหลายจังหวัดอาทิ สมุทรสาคร 22 ราย เพชรบุรี 5 รายกรุงเทพฯ สุพรรณบุรีและราชบุรีจังหวัดละ 1 ราย ซึ่งพฤติกรรมนี้เกิดจากการเดินทางข้ามจังหวัดและพบปะกัน” พญ.อภิสมัย กล่าว


ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าวว่า สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงที่ต้องเข้ารับการตรวจต้องมีคุณสมบัติที่มีสมาชิกในครอบครัวป่วยและสัมผัสใกล้ชิด พูดคุยกับผู้ป่วยเกิน 5 นาที โดยไม่สวมอุปกรณ์ป้องกัน ถูกไอหรือจามใส่ และอยู่ร่วมกันในสถานที่ที่อากาศไม่ถ่ายเทเกินกว่า 15 นาที แต่กรณีของการพักอาศัยอยู่ในสถานที่เดียวกับผู้ป่วย และการใช้พื้นที่สาธารณะร่วมกันไม่ถือว่ามีความเสี่ยงสูง อย่างไรก็ตาม อยากขอความร่วมมือเจ้าของและผู้ประกอบการ ที่ดูแลเกี่ยวกับที่พักอาศัย ให้ตั้งคณะกรรมการสำหรับการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานของรัฐและออกมาตรการการดูแลคัดกรองให้ปฏิบัติการตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขภายในสถานที่พัก

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า การฉีดวัคซีนโควิด ทั่วโลกฉีดไปแล้ว 73 ประเทศ 128 ล้านโด๊ส โดยสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่ฉีดสูงสุด 40 ล้านโด๊ส ขณะเดียวกันมีคำถามตามมาว่ารัฐบาลควรกำหนดมาตรการให้คนที่ได้รับการฉีดวัคซีนเดินทางเข้า-ออกนอกประเทศได้หรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ติดตามสถานการณ์ โควิดอย่างต่อเนื่อง และกำหนดมาตรการตามความเหมาะสม นำตัวเลขสถิติมาวิเคราะห์ ดังนั้น การจะเลียนแบบต่างประเทศเพียงอย่างเดียวคงทำไม่ได้ ต้องดูบริบทให้เหมาะสมกับประเทศไทยด้วย

“ในสัปดาห์นี้จะมีวันหยุดสำคัญของเทศกาลตรุษจีนที่หลายคนรอคอย หวังว่ารัฐบาลจะมีมาตรการผ่อนคลายเพื่อจะได้เฉลิมฉลอง ชดเชยจากช่วงเทศกาลปีใหม่ แต่ในความเป็นจริง เป็นห่วงเรื่องการรวมญาติ เพราะเดินทางเคลื่อนย้ายข้ามจังหวัด การรวมกลุ่มจึงต้องเฝ้าระวังสูงสุด สิ่งที่เป็นห่วงมากคือการจับจ่ายใช้สอย รวมตัวไปซื้อของตามตลาดและซุปเปอร์มาเก็ต อาจทำให้มีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อสูง จึงอยากให้ทุกคนช่วยกันรักษามาตรการเว้นระยะห่าง การแจกอั่งเปาสามารถทำออนไลน์ได้โดยการโอนเงินผ่านเน็ตเเบงค์ ส่วนการซื้อขายของไหว้สามารถสั่งซื้อทางออนไลน์ได้เช่นกัน รวมถึงวันวาเลนไทน์อยากฝากว่าหากรักกันก็ควรจะมีระยะห่างด้วย” ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าว

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากกระทรวงแรงงานว่าในวันที่ 13 กุมภาพันธ์นี้จะหมดเขตขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว หากไม่มาขึ้นทะเบียนในวันที่ 14 กุมภาพันธ์จะถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย ล่าสุดมีรายงานมาขึ้นทะเบียนแล้ว 416,769 ราย โดยเป็นแรงงานที่มีนายจ้าง 384,102 ราย จึงอยากขอความร่วมมือให้ทั้งนายจ้างและแรงงานต่างด้าวทุกคนเข้ารับการขึ้นทะเบียน และปฏิบัติตามกฎหมายให้ถูกต้อง ซึ่งมาตรการช่วยเหลือต่าง ๆ รัฐบาลจะประกาศออกมาเป็นระยะ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน

2 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน ลั่นมีเอกภาพ แจงรัฐบาลเชื่อมั่นท่าที 2 ประเทศลดความรุนแรงได้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม โพสต์ข้อความชี้แจงทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่าเรียน สื่อมวลชน ทุกท่าน ตามที่มีข่าวกระจายกันในแวดวงสื่อสังคมออนไลน์ เรื่องความขัดแย้งระหว่างฝ่ายการเมืองกับฝ่ายทหาร ในการจัดการปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดต่อปัญหาการจัดการระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการปิดด่านชายแดน ผมขอยืนยันว่า ผมกับกองทัพได้หารือร่วมกันหลายครั้ง และเห็นตรงกันว่าสถานการณ์ปัจจุบัน รัฐบาลทั้งสองประเทศต่างพยายามหาทางออกในการคลี่คลายวิกฤติ โดยยึดผลประโยชน์ประชาชนและอธิปไตยของชาติเป็นสำคัญ เราจึงกำหนดขอบเขตในการหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า และพยายามลดเงื่อนไขที่จะระงับยับยั้งมิให้เหตุการณ์ความขัดแย้งขยายตัวมากไปกว่านี้ สำหรับเรื่องการปิดชายแดนขณะนี้ รัฐบาลเห็นว่าท่าทีและการแสดงออกของทั้งสองประเทศ ยังเป็นการแสดงออกที่สามารถลดระดับความรุนแรงได้ เพราะการปิดด่านชายแดนแม้ไม่ใช่เรื่องการสู้รบทางตรง แต่กลับจะเกิดปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ที่จะกระทบกับวิถีชีวิตประชาชน ทำให้สถานการณ์ยากต่อการคลี่คลาย แต่ขณะเดียวกัน กองทัพก็ตั้งอยู่ในความระมัดระวังและไม่ได้ละเลยในการปกป้องตนเองและอธิปไตยเหนือดินแดน ขณะนี้รัฐบาล ร่วมกับกำลังเหล่าทัพและกระทรวงต่างประเทศ กำลังใช้กลไก JBC เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาตามขั้นตอนอยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้เกิดเวทีถกเถียงตามข้อเท็จจริงตามกฎหมาย ผมจึงขอเรียนชี้แจงยืนยันว่า รัฐบาลและกองทัพมีความเป็นเอกภาพ และมีพันธะสัญญาที่มั่นคงในการรักษาความสงบสุขให้ประชาชนได้รับประโยชน์ และความปลอดภัยมากที่สุด ขอให้มั่นใจว่าเราจะหลีกเลี่ยงการยกระดับความขัดแย้งที่จะนำไปสู่ความสูญเสียทั้งสองฝ่ายในทุกด้าน ที่ผ่านมา เราร่วมกันใช้ความพยายามอย่างยิ่ง ทั้งการประชุม หารือ […]

แผ่นดินไหวเชียงใหม่ ขนาด 4.5 รอยเลื่อนแม่ทาขยับ

เชียงใหม่ 2 มิ.ย.- ระทึก! แผ่นดินไหว ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ลึก 1 กม. ประชาชนแจ้งรู้สึกสั่นไหว 4 จังหวัด สาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง แผ่นดินไหวที่ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ฉบับที่ 1/2568 กอง​เฝ้า​ระวัง​แผ่นดินไหว​ กรม​อุตุนิยม​วิทยา​รายงาน​ว่า​ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ.2568 เวลา 14.07 น. เกิดแผ่นดินไหว จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ความลึก 1 กิโลเมตร ได้รับแจ้งรู้สึกสั่นไหวบริเวณ จังหวัดเชียงใหม่ พะเยา ลำปาง และแม่ฮ่องสอน โดยสาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ สั่งการอำเภอพร้าว และอำเภอใกล้เคียง ลงพื้นที่ตรวจสอบผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือน เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตและความเสียหาย […]

ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง

2 มิ.ย.- ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง ย่านท่าเรือคลองเตย ส่วนคนขับรถชน รปภ. เสียชีวิต โดนฆ่าคนตาย เพิ่มอีก 1 ข้อหา 13.00 น. ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา การดำเนินคดี 6 ทรชนผู้ก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้าของกลางของกรมศุลกากรและก่อเหตุถอยรถตู้พุ่งชนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเสียชีวิต โดย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้ข้อมูลว่า ศาลอาญากรุงเทพใต้อนุมัติออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับทั้ง 6 คนถูกดำเนินคดีในข้อหา 4 ข้อหา ในแก่ ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นการจับกุม ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน โดยใช้กำลังประทุษร้าย และกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และซ่องโจร ขณะที่นายสิทธิศักดิ์ หรือแบงค์ ถูกดำเนินคดีเพิ่มอีกหนึ่งข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดของตนหรือหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนกระทำไว้ ทั้งนี้ หลังศาลอนุมัติออกหมายจับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว […]

โควิด-19 ระบาดปักธงชัย ตายแล้ว 2

นครราชสีมา 2 มิ.ย.- เชื้อโควิด-19 แพร่ระบาดที่ อ.ปักธงชัย จ.นคราชสีมา รุนแรงถึงขั้นมีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย รัฐบาลเตือนระวังสายพันธุ์ใหม่ NB.1.8.1 แพร่กระจายไว ที่ อ.ปักธงชัย พบผู้เสียชีวิตจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 รอบนี้แล้ว 2 ราย ผู้ป่วยรายแรกเป็นชายเสียชีวิตเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ส่วนรายที่ 2 เสียชีวิตช่วงค่ำวานนี้ เป็นชายอายุ 72 ปี ที่โรงพยาบาลปักธงชัย ไปประกอบพิธีทางศาสนา โควิด-19 แม้จะกลายเป็นโรคประจำถิ่น ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก แต่ต้องรู้จักวิธีการป้องกันตัวเองและดูแลบุคคลในครอบครัวอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย โดยเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แจ้งว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกประกาศเตือนหลังพบพฤติกรรมของเชื้อ SARS-CoV-2 สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญใน 3 ภูมิภาคทั่วโลก ได้แก่ แปซิฟิกตะวันตก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก จากเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ NB.1.8.1 ที่กำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว และเชื้อโควิด-19 […]