ศบค.เผยจุฬาฯ ติดเชื้อ 9 ราย

ทำเนียบรัฐบาล 8 ก.พ.- ผู้ช่วยโฆษก ศบค.แถลงมีผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 186 ราย คาดที่จุฬาฯ มีติดเชื้ออีก 9 ราย เตรียมคัดกรองเชิงรุกโรงงานสมุทสาครที่พบเชื้อน้อยกว่า 10 % กว่า 50 แห่ง


พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด 19 วันนี้(8 ก.พ.) เพิ่มขึ้น 186 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 23,557 ราย หายป่วยแล้ว 17,410 ราย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 6,068 ราย ผู้เสียชีวิตสะสมรวม 79 คน โดยเป็นผู้ป่วยยืนยันสะสมรอกใหม่ ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2563 – 8 กุมภาพันธ์ 2564 จำนวน 19,320 ราย

ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าวว่า สำหรับผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น 186 ราย เเบ่งเป็นผู้ที่ติดเชื้อในประเทศ 176 ราย เป็นผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและบริการ 141 ราย จากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 35 ราย และผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศเข้า state quarantine 10 ราย เดินทางมาจากเยอรมนี 1 ราย อินเดีย 1 ราย มาเลเซีย 1 ราย ตุรกี 1 ราย สวีเดน 1 ราย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 2 ราย สหราชอาณาจักร 2 ราย และสหรัฐอเมริกา 1 ราย


“สำหรับผู้ติดเชื้อในกรุงเทพฯจำนวน 3 ราย พบว่าเป็นผู้ที่ติดเชื้อในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจคัดกรองผู้ที่มีความเสี่ยงสูง-ต่ำไปแล้ว และคาดว่าจะมี 9 รายที่มีแนวโน้มจะเป็นผู้ติดเชื้อโควิค ทั้งนี้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้รายงานการสอบสวนวงจรของโรคอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยง 14 วัน ก่อนวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่พบเชื้อ และมีมาตรการให้ผู้มีความเสี่ยงลาหยุดกักตัวเฝ้าดูอาการ และทำความสะอาดพื้นที่ โดยมีคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินโควิด 19 ติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดและดูแลอาการ” พญ.อภิสมัย กล่าว

ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าวว่า ส่วนสถานการณ์ที่จังหวัดสมุทรสาครยังคงค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชนอย่างต่อเนื่อง และกำหนดมาตรการของจังหวัดในการคัดกรองเชิงรุกในโรงงานที่พบผู้ติดเชื้อน้อยกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ที่มีอยู่ประมาณ 50 โรงงาน เพราะที่ผ่านมาได้คัดกรองโรงงานที่พบผู้ติดเชื้อเกินกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ไปหมดแล้ว โดยในการตรวจจะค้นหา 100-150 เคสต่อวันต่อ 1 โรงงานหรือประมาณ 5,000 คนต่อวัน ซึ่งมาตรการที่เข้มข้นของจังหวัดสมุทรสาครเพื่อจะติดตามคัดกรองและตีกรอบโรค หวังว่าเมื่อสถานการณ์คลี่คลายก็จะให้ทุกคนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติโดยเร็ว

“ผู้ป่วยโควิดรายแรกที่อาศัยในอำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม มีอาชีพแม่ค้าขายหมู แม้จะพักอาศัยอยู่ที่อำเภออัมพวา แต่เดินทางไปหลายจังหวัด ทั้งการไปขายของในตลาดรถไฟ จังหวัดสมุทรสาครและการไปรับหมูที่อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี โดยพบว่าติดเชื้อเมื่อวันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา หลังจากนั้นคนในครอบครัวไปตรวจหาเชื้อ เนื่องจากเป็นผู้มีความเสี่ยงสูง ทำให้พบลูกสะใภ้ติดเชื้อเพิ่มอีก 1 คน แต่สิ่งที่น่าสนใจสำหรับกรณีนี้ เนื่องจากเป็นผู้ที่เดินทางไปมาหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ที่มีความเกี่ยวข้องทั้งในครอบครัวตลาดและชุมชนตั้งแต่วันที่ 30 มกราคมถึงวันที่ 4 กุมภาพันธ์มีรายงานพบผู้ติดเชื้อเป็นคลัสเตอร์เดียวกัน 87 ราย และมีความเชื่อมโยงหลายจังหวัดอาทิ สมุทรสาคร 22 ราย เพชรบุรี 5 รายกรุงเทพฯ สุพรรณบุรีและราชบุรีจังหวัดละ 1 ราย ซึ่งพฤติกรรมนี้เกิดจากการเดินทางข้ามจังหวัดและพบปะกัน” พญ.อภิสมัย กล่าว


ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าวว่า สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงที่ต้องเข้ารับการตรวจต้องมีคุณสมบัติที่มีสมาชิกในครอบครัวป่วยและสัมผัสใกล้ชิด พูดคุยกับผู้ป่วยเกิน 5 นาที โดยไม่สวมอุปกรณ์ป้องกัน ถูกไอหรือจามใส่ และอยู่ร่วมกันในสถานที่ที่อากาศไม่ถ่ายเทเกินกว่า 15 นาที แต่กรณีของการพักอาศัยอยู่ในสถานที่เดียวกับผู้ป่วย และการใช้พื้นที่สาธารณะร่วมกันไม่ถือว่ามีความเสี่ยงสูง อย่างไรก็ตาม อยากขอความร่วมมือเจ้าของและผู้ประกอบการ ที่ดูแลเกี่ยวกับที่พักอาศัย ให้ตั้งคณะกรรมการสำหรับการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานของรัฐและออกมาตรการการดูแลคัดกรองให้ปฏิบัติการตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขภายในสถานที่พัก

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า การฉีดวัคซีนโควิด ทั่วโลกฉีดไปแล้ว 73 ประเทศ 128 ล้านโด๊ส โดยสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่ฉีดสูงสุด 40 ล้านโด๊ส ขณะเดียวกันมีคำถามตามมาว่ารัฐบาลควรกำหนดมาตรการให้คนที่ได้รับการฉีดวัคซีนเดินทางเข้า-ออกนอกประเทศได้หรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ติดตามสถานการณ์ โควิดอย่างต่อเนื่อง และกำหนดมาตรการตามความเหมาะสม นำตัวเลขสถิติมาวิเคราะห์ ดังนั้น การจะเลียนแบบต่างประเทศเพียงอย่างเดียวคงทำไม่ได้ ต้องดูบริบทให้เหมาะสมกับประเทศไทยด้วย

“ในสัปดาห์นี้จะมีวันหยุดสำคัญของเทศกาลตรุษจีนที่หลายคนรอคอย หวังว่ารัฐบาลจะมีมาตรการผ่อนคลายเพื่อจะได้เฉลิมฉลอง ชดเชยจากช่วงเทศกาลปีใหม่ แต่ในความเป็นจริง เป็นห่วงเรื่องการรวมญาติ เพราะเดินทางเคลื่อนย้ายข้ามจังหวัด การรวมกลุ่มจึงต้องเฝ้าระวังสูงสุด สิ่งที่เป็นห่วงมากคือการจับจ่ายใช้สอย รวมตัวไปซื้อของตามตลาดและซุปเปอร์มาเก็ต อาจทำให้มีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อสูง จึงอยากให้ทุกคนช่วยกันรักษามาตรการเว้นระยะห่าง การแจกอั่งเปาสามารถทำออนไลน์ได้โดยการโอนเงินผ่านเน็ตเเบงค์ ส่วนการซื้อขายของไหว้สามารถสั่งซื้อทางออนไลน์ได้เช่นกัน รวมถึงวันวาเลนไทน์อยากฝากว่าหากรักกันก็ควรจะมีระยะห่างด้วย” ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าว

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากกระทรวงแรงงานว่าในวันที่ 13 กุมภาพันธ์นี้จะหมดเขตขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว หากไม่มาขึ้นทะเบียนในวันที่ 14 กุมภาพันธ์จะถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย ล่าสุดมีรายงานมาขึ้นทะเบียนแล้ว 416,769 ราย โดยเป็นแรงงานที่มีนายจ้าง 384,102 ราย จึงอยากขอความร่วมมือให้ทั้งนายจ้างและแรงงานต่างด้าวทุกคนเข้ารับการขึ้นทะเบียน และปฏิบัติตามกฎหมายให้ถูกต้อง ซึ่งมาตรการช่วยเหลือต่าง ๆ รัฐบาลจะประกาศออกมาเป็นระยะ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ไทยฝนฟ้าคะนอง ตกหนักบางแห่ง

กทม. 13 ก.ย.-กรมอุตุฯ รายงานไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง และฝนตกหนักบางแห่งในภาคอีสาน ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตะวันออก และใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน […]

“พล.ท.บุญสิน” ยันยังไม่ดำเนินการโครงการอบรมโดรนเกษตร

กทม. 12 ก.ย.- “พล.ท.บุญสิน” แจงบริษัทเอกชนมามอบของ-ถ่ายรูป พร้อมเสนอโครงการอบรมโดรนเกษตร ยืนยันยังไม่ดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อวันที่ 12 ก.ย.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีที่มีบริษัทเอกชนเข้ามาถ่ายรูปร่วมกับแม่ทัพภาคที่ 2 โดยมีการนำโครงการ “อบรมการใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ให้กับทหารเพื่อเป็นการเพิ่มทักษะ เพื่อใช้ในการเกษตร” วานนี้ (11 ก.ย.) ว่า บริษัทดังกล่าวได้เข้ามาพบเหมือนกับพี่น้องประชาชนและบริษัทต่างๆ ที่เข้ามาพบมอบของ เพียงแต่ว่าทางบริษัทนี้เข้ามานำเสนอโครงการโดรน ตนก็ไม่ได้พูดคุยอะไรมาก เพียงแต่รับฟังไว้ ประมาณ 10 นาที ทางคณะดังกล่าวก็ขอถ่ายภาพ ก่อนเดินทางกลับ “ผมยืนยันว่า ยังไม่ได้มีการดำเนินการทำอะไรเลย ยังไม่ผ่านการตรวจสอบให้รอบคอบ ยืนยันอีกครั้งยังไม่ได้ดำเนินการอะไรทั้งนั้น” พล.ท.บุญสิน กล่าว.-313.-สำนักข่าวไทย

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

ผลักดัน “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว 7 คน กลับกัมพูชา

จันทบุรี 12 ก.ย. – ตม.ศรีสะเกษ ประสาน ตม.จันทบุรี ส่งตัว “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว รวม 7 คน กลับกัมพูชา หลังถูกกล่าวหาเป็นไส้ศึก และถูกชาวบ้านรวมตัวขับไล่ ทั้งยังพบอาศัยอยู่ในไทยอย่างผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดศรีสะเกษ นำตัวนางเขื่อน ชาวกัมพูชา และสมาชิกครอบครัว รวมทั้งหมด 7 คน เดินทางไปที่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านแหลม จ.จันทบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รอรับตัวอยู่ก่อนแล้ว เพื่อผลักดันกลับประเทศกัมพูชา เนื่องจากที่ผ่านมา นางเขื่อน ถูกชาวบ้านในพื้นที่ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ รวมตัวกันขับไล่ หลังจากถูกกล่าวหาว่าเป็น “ไส้ศึก” คอยส่งข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทหารไทยให้กับฝ่ายกัมพูชา และยังพบว่าทั้งหมดอาศัยอยู่ในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย จึงดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายและระเบียบการต่างประเทศ เพื่อส่งตัวกลับภูมิลำเนา. – สำนักข่าวไทย