กต.เผย ไม่มีคนไทย-ธุรกิจในเมียนมาได้รับผลกระทบ


กระทรวงการต่างประเทศ 4 ก.พ. – กระทรวงการต่างประเทศ ติดตามสถานการณ์ในเมียนมา ยังไม่พบคนไทย-ธุรกิจได้รับผลกระทบ ด้านสถานทูตฯนครย่างกุ้งพร้อมให้ความช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง
นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวประจำสัปดาห์ผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ กระทรวงการต่างประเทศ ถึงการดูแลช่วยเหลือคนไทยในเมียนมา ว่า กระทรวงการต่างประเทศติดตามพัฒนาการในเมียนมาและประสานงานกับสถานเอกอัคราชทูต ณ นครย่างกุ้ง อย่างใกล้ชิด โดยสถานเอกอัครราชทูตฯได้แนะนำคนไทยในเมียนมาให้ติดตามสถานการณ์ข่าวสารหากมีปัญหาสามารถติดตามสถานเอกอัครราชทูตฯได้ตลอด 24 ชั่วโมง



ส่วนจุดผ่านแดนถาวร ไทย-เมียนมา 6 จุด ประกอบด้วย 1.แม่สาย-ท่าขี้เหล็ก (2 จุด) 2.แม่สอด-เมียวดี(2จุด) 3.บ้านพุน้ำร้อน-ทิกิ 4.ระนอง-เกาะสอง ยังคงเปิดให้ประชาชนและสินค้าที่ได้รับอนุญาตเดินทางตามปกติ รวมถึงสนามบินทั่วประเทศก็เปิดให้บริการตามปกติโดยต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคโควิด-19อย่างเคร่งครัด
สำหรับการดูแลคนไทยในเมียนมา ในช่วงโควิด-19 เดินทางกลับไทยแล้ว 2,130 คน ทั้งทางบก ทางอากาศ ส่วนคนไทยที่ยังอยู่ในเมียนมา จากฐานข้อมูลการลงทะเบียนกับสถานเอกอัครราชทูตฯมี 356 คน ประสงค์จะกลับไทย 137 คน และยังไม่ประสงค์กลับไทย 219 คน ทั้งนี้สถานเอกอัครราชทูตฯได้ติดตามสอบถามความเป็นอยู่กับชุมชนไทยอย่างใกล้ชิด ขณะที่ยังดำเนินชีวิตกันตามปกติ และยังไม่มีรายงานธุรกิจในการลงทุนของไทยได้รับผลกระทบในเมียนมา


นายธานี กล่าวอีกว่า เมียนมาเป็นประเทศที่มีความสำคัญกับการลงทุนกับไทย ได้ประกาศเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ทางธรรมชาติ บนพื้นฐานเป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกัน มีความท้าทายและส่งเสริมผลประโยชน์แห่งชาติร่วมกัน ซึ่งการยกระดับความสัมพันธ์นี้มีมาตั้งแต่ปี 2561 อีกทั้งไทยยังส่งเสริมด้านสาธารณสุขกับเมียนมา



ส่วนการค้า การลงทุนในปี2563 เมียนมา ถือเป็นคู้ค้าอันดับที่ 19ของไทยในโลกและเป็นอันดับ 7 ในอาเซียน มีมูลค่าการค้าเดือนมกราคม –กันยายน 63 รวม 158,262.02 ล้านบาท และการค้าชายแดนไทย-เมียนมา มูลค่า 127,010.27 ล้านบาท ขณะที่การลงทุนไทยได้รับอนุมัติการลงทุนจากเมียนมา ตั้งแต่ปี2531-2563 คิดเป็น11,407.228 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นอันดับ 3 รองจากสิงคโปร์และจีน ซึ่งไทยลงทุนเรื่อง น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ในเมียนมามากที่สุด .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าจะเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม