ศาลรธน.เลื่อนคำร้องแก้ รธน.ของ“ณฐพร-เรืองไกร”

ศาลรัฐธรรมนูญ 3 ก.พ.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่ง“เรืองไกร” แก้ไขคำร้องแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ชัดเจน พร้อมสั่งเลื่อนพิจารณาคำร้อง “ณฐพร” เหตุทั้งสองคำร้องมีข้อเท็จจริงเกี่ยวพันกัน  


วันนี้( 3 ก.พ.) ศาลรัฐธรรมนูญได้เผยแพร่เอกสารข่าว ผลการประชุมศาลรัฐธรรมนูญ กรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว. ยื่นคำร้องกล่าวอ้างว่าสมาชิกรัฐสภาที่ลงมติให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่  ตามญัตติที่ 1 จำนวน 576 คน   และสมาชิรัฐสภาที่ลงมติให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ตามญัตติที่  2 จำนวน 647 คน  ลงมติรับหลักการร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 ทั้ง  2  ฉบับในวาระที่ 1  เป็นการกระทำดังกล่าวเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข  ตามมาตรา 49 วรรคหนึ่ง   และใช้บังคับมิได้ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 5 วรรคหนึ่ง  ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งประธานรัฐสภา  สั่งระงับหรืองดเว้นการประชุมร่วมของรัฐสภา  เพื่อพิจารณาหรือลงมติในวาระที่ 2 และวาระที่ 3 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย

โดยศาลได้มีคำสั่งให้นายเรืองไกร กลับไปแก้ไขเพิ่มเติมคำร้องให้ครบถ้วน  เพื่อประกอบการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ   เนื่องจาก ไม่ได้ระบุชื่อผู้ร้องที่ชัดเจน  จึงเป็นคำร้องที่มีรายการไม่ครบถ้วน โดยให้แก้ไขภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้ง


นอกจากนี้ที่ประชุมศาลรัฐธรรมนูญ  ยังได้มีการเลื่อนพิจารณาคำร้องของนายณฐพร โตประยูร  อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน  ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามมาตรา 49   ว่าการที่นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ และคณะ เสนอร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  แก้ไขเพิ่มเติม และนายวิรัช รัตนเศรษฐ  และคณะ เสนอร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม ต่อประธานรัฐสภา  และนำเข้าสู่วาระการประชุมของรัฐสภา โดยที่ประชุมมีมติรับหลักการในวาระที่ 1  เป็นการกระทำที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 3 มาตรา 49 มาตรา 255 และมาตรา 256  ประกอบมาตรา 5 และร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมทั้ง 2 ฉบับ   เป็นการทำลายหลักการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในรัฐสภา  หลักการตรวจสอบโดยประชาชน   และเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข  และมีการกระทำเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข   โดยขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นายสมพงษ์ และนายวิรัช  เลิกการกระทำดังกล่าว  

ทั้งนี้ศาลเห็นว่าคำร้องของนายณฐพร มีข้อเท็จจริงที่เกี่ยวพันกับเรื่องที่นายเรืองไกร ยื่นร้อง   เพื่อประโยชน์ของการพิจารณาจึงให้เลื่อนการพิจารณาคำร้องดังกล่าวไปก่อนขอพิจารณาพร้อมกับคำร้องของนายเรืองไกร.- สำนักข่าวไทย      


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชิงทอง

สอบเครียด! คนร้ายชิงทอง 113 บาท สารภาพเอาไปจำนำบางส่วน

สอบเครียดทั้งคืน ผู้ต้องหาชิงทอง 113 บาท รับสารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน ซื้อเบ้าหลอมเพื่อให้ยากต่อการติดตามของตำรวจ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด

ข่าวแนะนำ

ทำแผนชิงทอง

คุมทำแผนโจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท

คุมตัวทำแผน โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท ในห้างฯ ย่านลำลูกกา สารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน และซื้ออุปกรณ์หลอมทองเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่

จับเรือประมงเมียนมา

จับเรือประมงเมียนมา รุกล้ำน่านน้ำไทย

ศรชล.ภาค 3 จับกุมเรือประมงเมียนมาพร้อมลูกเรือ 13 คน ขณะลักลอบนำเรือประมงจอดลอยลำในทะเลอาณาเขตของไทย บริเวณ จ.ระนอง ใกล้เกาะค้างคาว