กทม.ยังห้ามกินเหล้าในร้านอาหาร

ทำเนียบรัฐบาล 29 ม.ค.- ศบค. เผยตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ 802 ราย ไม่มีเสียชีวิตเพิ่ม ออกมาตรการผ่อนคลายตามเขตพื้นที่สถานการณ์ ให้ กทม.นั่งรับประทานในร้านได้ถึง 23.00 น. แต่งดสุรา


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงสถานการณ์ประจำวันว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 802 ราย แบ่งเป็นติดเชื้อในประเทศ 781 ราย และติดเชื้อจากต่างประเทศ 21 ราย ซึ่งเป็นผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 89 ราย จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 692 ราย และผู้เดินทางจากต่างประเทศเข้าสถานที่กักกันจากรัฐจัดให้ 19 ราย ทำให้ประเทศไทยมีผู้ป่วยยืนยันสะสม 17,023 ราย หายป่วยแล้ว 11,396 ราย รักษาตัวอยู่ 5,314 ราย และไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 76 ราย ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ร้อยละ 98 พบที่จังหวัดสมุทรสาคร และที่กรุงเทพมหานคร พบร้อยละ 1.2 และจังหวัดอื่นๆ ร้อยละ 0.8

โฆษก ศบค. กล่าวว่า การประชุมศบค.ชุดใหญ่วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะ ผอ.ศบค. กล่าวถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงพระราชทานสิ่งของต่าง ๆ ทางด้านการแพทย์ให้กับบุคลากรทางการแพทย์และประชาชน พร้อมเผยถึงผลการสำรวจจากประเทศออสเตรเลียที่จัดอันดับประเทศที่รับมือการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้ดีที่สุด โดยประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 4 จาก 98 ประเทศ


“นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณทุกคนที่ทำงานอย่างเสียสละ อดทน อดกลั้นเพื่อประเทศชาติ และขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครให้มีสุขภาพแข็งแรงโดยเร็ว ส่วนเรื่องวัคซีน ต้องดูแลประชาชนทุกกลุ่มอย่างทั่วถึง ต้องสื่อสารกับประชาชนให้ทราบถึงภารกิจกับโควิด-19 เพราะถ้าประชาชนเข้าใจ จะทำให้การทำงานประสบความสำเร็จ” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

โฆษก ศบค. กล่าวถึงมาตรการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดที่เสนอโดยเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ โดยจะกำหนดเขตพื้นที่สถานการณ์ออกเป็น 5 ระดับ คือ พื้นที่เฝ้าระวัง (สีเขียว) 35 จังหวัด, พื้นที่เฝ้าระวังสูง(สีเหลือง) 17 จังหวัด ,พื้นที่ควบคุม (สีส้ม) 20 จังหวัด , พื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ และพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) คือจังหวัดสมุทรสาคร

“พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดคือจังหวัดสมุทรสาคร ยังคงปิดสถานที่และเข้มงวดการควบคุมกำกับ ได้แก่ สถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ สนามมวย สนามชนวัน ชนไก่ สนามพระเครื่อง ฟิตเนส กิจการอาบอบนวด สปา นวดแผนไทย โรงเรียน โรงเรียนกวดวิชา สถาบันการศึกษา สนามเด็กเล่น สวนสนุก ร้านเกม ร้านอินเทอร์เน็ต การประชุมงานเลี้ยง กิจกรรมประเพณีที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก การจัดงานแสดงสินค้า สถานีขนส่งสาธารณะ และสามารถเปิดสถานที่ ได้แก่ ตลาด ตลาดนัด โดยจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ ส่วนร้านอาหารเปิดบริการได้ไม่เกิน 21.00 น. และงดดื่มสุราในร้าน ขณะที่ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้าเปิดได้ไม่เกิน 21.00 น. ส่วนสถานประกอบการและโรงแรมต้องมีมาตรการป้องกันโรคใน องค์กรและจัดให้มีระบบติดตามตัวผู้เดินทางเข้าออกทุกคน” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว


“ส่วนพื้นที่ควบคุมสูงสุด 4 จังหวัดคือกรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานีและสมุทรปราการ ปิดสถานบริการ ผับ บาร์คาราโอเกะ ส่วนร้านอาหาร ให้นั่งรับประทานได้จำกัดจำนวนคนต่อโต๊ะ จำกัดเวลาไม่เกิน 23.00 น. งดดื่มสุราในร้าน แต่สามารถซื้อกลับได้ ส่วนการจัดการเรียนการสอน ให้จัดแบบผสมผสาน(on site, online ,on air) กรณีโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาที่มีจำนวนนักเรียน รวมไม่เกิน 120 คน หรือโรงเรียนตระเวนชายแดนทุกพื้นที่สามารถเปิดการเรียนได้ตามปกติ และงดกิจกรรมที่มีผู้ร่วมเป็นจำนวนมาก” โฆษก ศบค. กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ในส่วนแรงงานต่างด้าว ต้องจำกัดการเดินทางและเคลื่อนย้าย หากมีความจำเป็นต้องเดินทางและเคลื่อนย้าย ให้ขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ส่วนบ่อนการพนัน สนามชนไก่ ชนวัว ปิดสถานที่ทุกพื้นที่จังหวัด สถานบริการ อาบอบนวด ปิดสถานที่และงดให้บริการนอกสถานที่ สปา นวดแผนไทยจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการตามขนาดพื้นที่ สถานที่ออกกำลังกายกลางแจ้งในอาคาร ยิม ฟิตเนส สนามมวย แข่งขันได้แบบไม่มีผู้ชม ฝึกซ้อมได้ และป้องกันโรคส่วนบุคคล

“พื้นที่ควบคุม 20 จังหวัด ให้เปิดสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ นั่งรับประทานอาหารในร้านได้ ไม่เกิน 23.00 น. จำกัดเวลาจำหน่ายและดื่มสุราได้ไม่เกิน 23.00 น. แสดงดนตรีได้ แต่งดการเต้นรำ เช่นเดียวกับร้านอาหาร ให้นั่งรับประทานอาหารได้ จำกัดจำนวนคนต่อโต๊ะ และจำกัดเวลาจำหน่ายและดื่มสุราได้ไม่เกิน 23.00 น. ขณะที่ห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อ เปิดให้บริการได้ตามปกติ แต่งดจัดกิจกรรมที่มีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก สถานบริการ อาบอบนวด เปิดบริการได้ โดยจำกัดผู้ใช้บริการ สถานที่ออกกำลังกายในอาคาร ยิม ฟิตเนต สนามมวย แข่งขันได้โดยมีผู้ชมตามเกณฑ์ที่กำหนด แต่บ่อนการพนัน สนามชนไก่ ชนวัว ปิดสถานที่ทุกพื้นที่จังหวัด ส่วนการจัดการเรียนการสอน การสอบ การฝึกอบรม สามารถเปิดได้ตามปกติ” โฆษก ศบค. กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนพื้นที่เฝ้าระวังสูง 17 จังหวัด สามารถเปิดสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ โดยจำกัดเวลาจำหน่ายและดื่มสุราไม่เกิน 24.00 น. ร้านอาหาร ให้นั่งรับประทานได้ จำกัดจำนวนคนต่อโต๊ะและจำกัดเวลาจำหน่ายและดื่มสุราไม่เกิน 24.00 น. สถานบริการอาบอบนวดเปิดให้บริการได้ โดยจำกัดการใช้บริการ สถานที่ออกกำลังกายการแจ้งในอาคาร ยิม ฟิตเนส สนามมวยแข่งขันได้ มีผู้ชมตามเกณฑ์ที่กำหนด แต่บ่อนการพนัน สนามชนไก่ ชนวัว ปิดสถานที่ทุกพื้นที่จังหวัด

“สำหรับพื้นที่เฝ้าระวัง ซึ่งเป็นพื้นที่สีเขียวจำนวน 35 จังหวัด ให้เปิดสถานบริการผับบาร์คาราโอเกะ และจำหน่ายและดื่มสุราในร้าน โดยจำกัดเวลาตามที่กฎหมายกำหนด และสามารถแสดงดนตรีและเต้นรำได้ เน้นการเว้นระยะห่าง เช่นเดียวกับร้านอาหาร ให้นั่งรับประทานอาหารได้ ตามเวลาที่กฎหมายกำหนด ซึ่งมาตรการผ่อนคลายต่าง ๆ นี้จะบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 แต่หากหลังมาตรการผ่อนคลายแล้ว มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น สามารถเปลี่ยนแปลงมาตรการได้ในทันที ดังนั้น ขอให้ทุกคนดูแลทุกอย่างให้เข้มงวดต่อไป” โฆษกศบค. กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

เครื่องบิน “ทักษิณ” ออกนอกเส้นทางไปไหน ?

4 ก.ย. – ไปไหน? เครื่องบินส่วนตัว “ทักษิณ” เลี้ยวออกนอกเส้นทาง หลังบินออกจากดอนเมือง ระบุปลายทางสิงคโปร์ พบบินวนอยู่ 2 รอบ ก่อนไปต่อ จับตามุ่งหน้า “ดูไบ” ตามที่มีกระแสข่าวหรือไม่. – สำนักข่าวไทย

“ทักษิณ” บินสิงคโปร์แล้ว ทนายยัน 9 ก.ย. มาศาลฟังคดีชั้น14

4 ก.ย.- “ทักษิณ” นั่งเจ็ทส่วนตัวบินสิงคโปร์แล้ว ตม.ไม่มีอำนาจกักตัว หลังศาลยกฟ้องคดี ม.112 ขณะที่ “ทนายวิญญัติ” ยัน 9 ก.ย. มาศาลฟังคดีชั้น 14 แน่นอน ช่วงเย็นวันนี้มีกระเเสข่าวว่านายทักษิณ ชินวัตร ขอเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวที่จอดไว้กับลานบินเอกชนย่านดอนเมือง เเละทราบว่าขอเดินทางไปยัง อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งนายทักษิณมีบ้านพักส่วนตัวที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และอีกกระเเสเเจ้งว่านายทักษิณขอเดินทางไปพบเเพทย์ที่สิงคโปร์ 2 วัน เเละจะกลับมาขึ้นศาล โดย ตม.ตรวจสอบหนังสือเดินทางเเละสอบถามเหตุผลในการเดินทางของนายทักษิณในตอนนี้เเล้วเเละอนุญาตให้นายทักษิณเดินทางได้ กระเเสข่าวนี้เกิดขึ้น ท่ามกลางการเตรียมลงมติของสส.ในการเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 วันที่ 5 กันยายน 2568 เเละวันที่ 9 กันยายน นายทักษิณต้องไปฟังคำตัดสินคดีชั้น 14 รพ.ตำรวจ ซึ่งศาลฎีกาแผนคดีอาญานักการเมืองนัดให้นายทักษิณ ไปฟังคำวินิจฉัยในคดีนี้กับผู้บังคับการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หลังก่อนหน้านี้ศาลอาญา ตัดสินยกฟ้องนายทักษิณในคดี ม.112 เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม เเละอยู่ระหว่างที่อัยการกำลังพิจารณาว่าจะอุทธรณ์หรือไม่ หลังจากนั้นนายวิญญัติ ชาติมนตรี […]

“อนุทิน” ปัดจัดโผ ครม. บอกไหว้พ่อแม่ก่อนโหวตนายกฯ

รัฐสภา 4 ก.ย.- “อนุทิน” ปัดจัดโผ ครม. บอกยังไม่มี เผยตั้งใจไหว้พ่อ-แม่ เป็นสิริมงคลก่อนโหวตนายกฯ คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เดินทางกลับเข้ามาที่อาคารรัฐสภาอีกครั้ง ช่วงเย็นวันนี้ (4 ก.ย.) โดยผู้สื่อข่าวพยามสอบถามถึงโผ “ครม.อนุทิน 1” ว่า มีการจัดเตรียมให้ใครนั่งตำแหน่งใดและนายอนุทิน จะควบตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยด้วยหรือไม่ ซึ่งนายอนุทิน ร้องหูย ก่อนจะบอกว่ายังไม่มี ข่าวก็ลงไปเรื่อย ยังไม่ได้จัดอะไร ขนาดหัวหน้ายังไม่ได้เลย ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า พรุ่งนี้จะมีการโหวตนายกรัฐมนตรีแล้ว ก่อนจะเข้าอาคารรัฐสภา จะไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนเพื่อความเป็นสิริมงคลหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ไหว้พ่อไหว้แม่นี่แหละ เป็นสิริมงคลที่สุดแล้ว -สำนักข่าวไทย

“เท้ง” เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย มั่นใจ สส.ปชน.ไม่แตกแถว ย้ำไม่มีฟรีโหวต

รัฐสภา 4 ก.ย.- “เท้ง” ลั่นไม่เสียดาย-ไม่ทบทวนมติโหวต “อนุทิน” นั่งนายกฯ เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย ซัดไม่จริงใจ-ปล่อยข่าวชิงการเมือง มั่นใจ สส.พรรคประชาชน ไม่แตกแถว-ไม่มีฟรีโหวต นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ปฏิเสธกรณีที่มีกระแสข่าวความเห็นต่างภายในพรรคฯ ต่อการลงมติเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย.) ว่า ไม่ได้มีความเห็นที่แตกต่างกันภายในพรรค และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จนถึงตลอดทั้งวัน ก็มีความชัดเจนแล้วว่า พรรคเพื่อไทย ยุติกระบวนการยุบสภา และเดินหน้าเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมย้ำว่า กระบวนการตัดสินใจของพรรคประชาชน สิ้นสุดลงตั้งแต่คณะกรรมการบริหารพรรคฯ แถลงข่าว และลงนามร่วมกับพรรคภูมิใจไทยแล้ว ส่วนข้อเสนอไพ่ใบสุดท้ายของพรรคเพื่อไทย ที่จะยุบสภาทันทีหากนายชัยเกษม ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภานั้น หัวหน้าพรรคประชาชน ระบุว่า ถ้ามีการเสนอมาก่อนหน้านี้ และมีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ ก่อนพรรคฯ จะมีมติ ตนเชื่อว่า ตน และสส.ภายในพรรค จะรับไว้พิจารณา แต่กระบวนการที่ผ่านมา ยังคงมีการให้ข่าวกลับไป กลับมา […]