นายกฯ ย้ำวัคซีนโควิดลอตแรกให้บุคลากรสาธารณสุข

ทำเนียบฯ 27 ม.ค.-นายกฯ ยืนยันวัคซีนโควิด ลอตแรก 14 ก.พ.นี้ ให้บุคลากรสาธารณสุข-จนท.ด่านหน้าพื้นที่เสี่ยง ย้ำคำนึงความปลอดภัยสูงสุดของประชาชน ขอโทษหากแก้ปัญหาไม่ทันใจ


พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จัดรายการผ่านพอดแคสต์ (PODCAST)ทางเพจไทยคู่ฟ้า โดยฝากความห่วงใย และขอให้ประชาชนอดทน กับสถานการณ์โควิด-19 ในขณะนี้ และเชื่อว่าสถานการณ์จะดีขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ขอให้ทุกคนร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการ และขอโทษหากดำเนินการทุกอย่างไม่ทันใจ แต่จะเร่งรัดให้มากที่สุด ซึ่งตนรับฟังข้อเรียกร้องจากทุกกลุ่ม หากเรื่องใดดำเนินการได้ก็จะดำเนินการทันที ล่าสุดได้ให้กระทรวงการคลังและกระทรวงแรงงาน ให้ความช่วยเหลือผู้ประกันตน ตามมาตรา 33 ในการลดการส่งเงินสมทบเข้าประกันสังคม รวมถึงการชดเชยกรณีถูกเลิกจ้าง นอกจากนี้ยังมีอีกหลายมาตรการ เช่น ขยายเวลาการยื่นแบบการชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ประจำปี 2563 ไปจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564 และการลดการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ในรอบปี 2564 รวมถึงการเตรียมการที่จะช่วยเหลือ ผู้ที่ไม่มีฐานข้อมูลในการลงทะเบียนโครงการเราชนะ ที่จะเริ่มดำเนินการ 29 มกราคมนี้ โดยยืนยันว่าจะใช้งบประมาณให้มีประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากที่สุด

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึง การจัดซื้อวัคซีนป้องกัน โควิด-19 โดยยืนยันว่า คนไทยทุกคนจะได้รับการฉีดวัคซีนฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ยกเว้นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี และหญิงตั้งครรภ์ที่ไม่ต้องฉีด พร้อมย้ำว่าไม่ต้องกังวล เรื่องคุณภาพของวัคซีน เพราะรัฐบาลคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุดของประชาชน ซึ่งวัคซีนต้องได้รับการรับรองจาก อย. โดยจะฉีดวัคซีนในระยะแรกจำนวน 19 ล้านคน แบ่งเป็นบุคลากรทางการแพทย์ 1.7 ล้านคน ผู้มีโรคประจำตัว 6.1 ล้านคน ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 11 ล้านคน เจ้าหน้าที่ควบคุมโควิด-19 ที่มีโอกาสสัมผัสกับผู้ป่วย 15,000 คน


โดยวัคซีนลอตแรกจำนวน 50,000 โดส จะเข้ามาในเร็วๆนี้ และจะฉีดให้กับบุคลากรสาธารณสุข เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองในพื้นที่เสี่ยง โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ ส่วนระยะที่สองจะเริ่มในเดือนพฤษภาคม 2564 ขึ้นอยู่กับวัคซีนจะทยอยเข้ามาได้มากน้อยเพียงใด โดยในส่วนนี้จะครอบคลุมประชาชนในกลุ่มที่มีความเสี่ยงลำดับถัดไป และจะปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาด พร้อมย้ำว่ารัฐบาลจะดำเนินการให้ดีที่สุด ซึ่งไทยถือเป็นฐานการผลิตวัคซีนของอาเซียน เชื่อว่าจะมีเพียงพอต่อความต้องการของคนไทยทั้งประเทศ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

น้ำท่วมรอบนอก อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา วิกฤติ

ฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น แต่ในพื้นที่ไข่แดงหรือพื้นที่เศรษฐกิจ น้ำยังไม่สามารถจะเจาะเข้าไปได้ โดยนายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่มั่นใจถ้าฝนตกลงมาไม่มากไปกว่านี้จะสามารถดูแลพื้นที่ในเทศบาลนครหาดใหญ่

ปัตตานีจมบาดาล-ถนนถูกตัดขาด

สถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ยังวิกฤติในหลายจังหวัด เพราะฝนยังไม่หยุดตก ทำให้การระบายน้ำแทบไม่สามารถทำได้เลย โดยเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ชาวบ้านเดือดร้อนหนักหลายแสนคน

เร่งรื้อถอนคานถล่ม ถ.พระราม 2 จราจรติดขัดหนัก

เหตุแผ่นยกคานปูนและเครนก่อสร้างถล่มบนถนนพระราม 2 จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงรื้อถอนโครงสร้างที่พังถล่มไม่แล้วเสร็จ ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด ขณะที่การจราจร ถ.พระราม 2 ทั้งขาเข้า-ขาออก ติดขัดหนัก แนะเลี่ยงเส้นทาง

นายกฯ สั่งระดมช่วยน้ำท่วมใต้-เร่งเยียวยา

นายกฯ สั่งระดมช่วยเหลือน้ำท่วมใต้-เร่งมาตรการเยียวยา เผย ครม.เห็นชอบ 39 โครงการฟื้นฟูพื้นที่อุทกภัย เชียงใหม่-เชียงราย 641 ล้านบาท