กรุงเทพฯ 22 ม.ค.-“อรรถวิชช์” ขอ “บีทีเอส” อย่าเขี้ยว ประชาชนจ่ายค่าตั๋วสุดสาย 104 บาทไม่ไหว ฝากรัฐจำให้แม่น ไว้ต่อรองตอนประมูลสายสีส้ม
นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว กรณีเตรียมขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวตลอดสาย 104 บาท ว่า อย่ารีบต่ออายุสัมปทาน BTS รถไฟฟ้าสายสีเขียว วิธีคำนวนค่าโดยสารสุดสาย 104 บาทไม่แฟร์ รัฐยังต่อรองได้ ถ้าบริษัทเขี้ยวมาก ทดไว้คิดบัญชีตอนเปิดซองประมูลสายสีส้ม เส้นเลือดใหญ่ผ่าใจกลางเมืองเชื่อมกรุงเทพตะวันตก-ตะวันออก
“คณะกรรมาธิการการคมนาคม มีมติเอกฉันท์ขอให้ กทม. ชะลอขึ้นค่าโดยสาร เป็นเรื่องที่ถูกต้อง รัฐบาลควรรับฟัง ผมเห็นว่า มันเกินไปกับการขึ้นค่าโดยสาร BTS ที่สุดสาย 104 บาท ด้วยหลักคิด วิ่งยาว รถวิ่งไกล ตั๋วยิ่งแพง ขนส่งมวลชนคนมากๆ จะมาใช้วิธีแบบแท็กซี่ส่งลูกค้ารายเดียวไม่ได้ ที่ควรจะเป็นคือวิ่งยาว คนใช้เยอะ ตั๋วต้องยิ่งถูก เพราะรัฐใช้เงินแผ่นดินก่อสร้างส่วนต่อขยายให้ เอกชนไม่ได้ลงทุนเองทั้งหมด” นายอรรถวิชช์ ระบุ
นายอรรถวิชช์ ระบุว่า บริษัทพยายามอธิบายว่าไม่มีค่าแรกเข้าในส่วนต่อขยายใหม่ แต่คิดเงินเพิ่มตามระยะทางที่เขากำหนด ผลที่ตามมาขณะนี้ คือ ค่าโดยสารเฉลี่ยต่อกิโลเมตรของไทยแพงกว่าลอนดอน ฮ่องกง สิงคโปร์ อยากเห็นกรุงเทพในอนาคต ใช้รถเมล์ไฟฟ้าวิ่งสั้น ๆ ขนคนไปส่งรถไฟฟ้าสายหลัก เพื่อลดจำนวนรถในถนนบรรเทาการจราจร ลดมลพิษฝุ่น PM 2.5 ภาพนี้คงเกิดยาก ถ้า โครงสร้างราคาตั๋วรถไฟฟ้ายังเป็นแบบเดิม
นายอรรถวิชช์ เสนอว่าถ้าเจรจาราคาตั๋วไม่ลง บริษัทเขี้ยวลากดินมาก รัฐต้องทดไว้ในใจ เพราะรัฐยังมีไพ่สำคัญในมือคือ รถไฟฟ้าสายสีส้มที่กำลังประมูลกันในขณะนี้ สายสีส้มตัวแปรสำคัญ เพราะบริษัทเดินรถเอกชนทั้งลอยฟ้าและใต้ดินงหมายปอง สายสีส้มวิ่งเชื่อมกรุงเทพตะวันตกถึงตะวันออก ผ่ากลางเมือง เกาะรัตนโกสินทร์ ลอดแม่น้ำเจ้าพระยา ผ่านย่านสำคัญ ๆ เพียบ และเชื่อมโยงกับรถไฟฟ้าสายอื่นครบ เอาว่าใครได้ไป เป็นเบอร์ 1 คุมระบบรางการขนส่งมวลชนเมืองหลวงทันที
“การประมูลสายสีส้มต้องดูเทคนิคดี ๆ เพราะทั้งเจาะอุโมงค์ลอดแม่น้ำและมุดใต้ดินผ่านโบราณสถานหลายแห่ง ส่วนราคาก็ต้องระวัง อย่าให้ซุกตัวเลขทำให้ตั๋วราคาแพงในอนาคต บทเรียนจากสายสีเขียว คงจะช่วยให้รัฐตัดสินใจกับสายสีส้มได้อย่างถูกต้อง อย่าให้ประชาชนถูกเอาเปรียบ” นายอรรถวิชช์ ระบุ.-สำนักข่าวไทย