กรุงเทพฯ 18 ม.ค. – รัฐบาลเร่งสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในการใช้แอปฯ หมอชนะ หลังมีข่าวทีมงานผู้คิดค้นแอปฯ ถอนตัว และมอบให้รัฐบาลดูแล และเกิดความขัดแย้งเรื่องข้อมูล
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า การพัฒนาแอปพลิเคชันหมอชนะ เป็นการพัฒนาอย่างมีระบบและการเตรียมการที่จะรองรับการใช้งานของประชาชนระดับ 10 ล้านคน เมื่อรัฐบาลรับเอาแอปพลิเคชันมาดูแลเอง จำเป็นต้องใช้บุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อให้ระบบเดินหน้าต่อไปในระยะยาว ทีมงานกลุ่ม Code For Public และกลุ่มทีมงานอาสาหมอชนะ Mor Chana Volunteer Team ยังคงอยู่และจะช่วยพัฒนาต่อไป ไม่ได้ไปไหน และไม่ได้มีปัญหากับทีมงานฝ่ายราชการ ขอให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นที่จะใช้งานหมอชนะ โดยขอให้ประชาชนดาวน์โหลดมาใช้งานต่อไป เพราะประสิทธิภาพของแอปพลิเคชันจะมาจากการดาวน์โหลดและการใช้งาน
ประเด็นที่มีข่าวการยกเลิกสีแสดงสถานะของพื้นที่ไม่เป็นความจริง เพราะสีที่ใช้มีหลักเกณฑ์กำหนดสีที่เป็นหลักสากลในการตรวจสอบ การยืนยันข้อมูลเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายเข้าใจร่วมกัน ส่วนการปรับเปลี่ยนสีจะมีทีมงานคอยดูแล โดยสำนักงานรัฐบาลดิจิทัลจะเป็นผู้ดำเนินการปรับสี
นายสมโภชน์ อาหุนัย ตัวแทนกลุ่มอาสาสมัครหมอชนะ กล่าวว่า เมื่อทีมนักพัฒนาอาสาสมัครพัฒนาหมอชนะมาระยะหนึ่ง การนำหมอชนะไปใช้ต่อเพื่อให้เกิดประโยชน์กับสังคมเป็นสิ่งจำเป็น โดยรัฐบาลจะเข้ามาดูแลได้ดีกว่า
ด้านหมอแล็บแพนด้า โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่าได้ฟังทีมพัฒนาแอปฯ หมอชนะ ว่าทีมงานออกแบบแอปฯ หมอชนะ มีอยู่ 2 กลุ่ม ซึ่งเป็นทีมจิตอาสาเข้ามาช่วยกันต่อสู้โควิดที่ระบาด กลุ่มแรกเป็นทีมงานรุ่นใหญ่ รุ่น Gen X เป็นทีมที่ออกแบบระบบโครงสร้างของแอปฯ เซิร์ฟเวอร์ และการประมวลผลของแอปฯ กลุ่มที่ 2 เป็นทีมงานรุ่นใหม่ Gen Y ที่ชื่อว่า Code For Public ทีมนี้จะช่วยกันทำในส่วนของตัวแอปฯ เขียนแอปฯ ขึ้นมาเพื่อให้เราดาวน์โหลด
เดิมทีแอปฯ นี้ถูกออกแบบให้แจ้งสถานะได้ว่าผู้ใช้มีความเสี่ยงแค่ไหน มีตั้งแต่ระดับไม่เสี่ยงที่เป็นสีเขียว ไปจนถึงเหลือง ส้ม และติดเชื้อสีแดง เวลาที่ไปอยู่ใกล้คนที่เสี่ยง แอปฯ นี้ก็จะเด้งเตือนขึ้นมา จะได้หลีกเลี่ยงได้ถูก เพราะเชื้อไวรัสมันอยู่ในตัวคน แต่ระยะหลังมีการบังคับใช้อย่างจริงจัง ก็เริ่มมีหน่วยงานต่างๆ เข้ามาขอแก้แอปฯ ให้ทุกคนเป็นสีเขียว ถ้ามีการติดเชื้อเดี๋ยวหน่วยงานจะสืบเองว่าใครบ้างที่เสี่ยงเป็นสีเหลือง สีส้ม กลายเป็นว่ามีแค่หน่วยงานที่รู้ว่าใครเสี่ยง แต่ประชาชนไม่รู้ ทำให้แอปฯ นี้เกิดประโยชน์ต่อเฉพาะหน่วยงาน แต่ประชาชนไม่ได้รับประโยชน์สูงสุด ทำให้ผิดวัตถุประสงค์ของกลุ่มที่เขียนแอปฯ ขึ้นมา เป็นสาเหตุที่ทีมงานขอถอนตัวทั้งหมด และมอบแอปฯ นี้ให้ทางการดูแล 100% .-สำนักข่าวไทย