ทำเนียบรัฐบาล 14 ม.ค.-“พล.อ.ประวิตร” ประชุมอนุกก.ขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่ แก้ปัญหาน้ำท่วมขังหลายพื้นที่ในกทม. กำชับปรับปรุงข้อมูลก่อนเสนอกนช.พิจารณาของบ 65 ต่อไป
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงเป็นประธานประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญ ครั้งที่ 1/2564 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ณ ห้องประชุม 301 ชั้น 3 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล โดยมีนายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ที่ประชุมพิจารณาโครงการขนาดใหญ่เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 4 โครงการ ได้แก่ 1) โครงการก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็กคลองบางไผ่ จากบริเวณคลองพระยาราชมนตรีถึงบริเวณสุดเขต กทม. มีระยะเวลาดำเนินงาน 4 ปี (ปี 2565- 2568) เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังเนื่องจากน้ำฝนในพื้นที่เขตภาษีเจริญ เขตบางแค เขตหนองแขม และเขตทวีวัฒนา ครอบคลุมพื้นที่ 14 ตร.กม. รองรับปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น 186,300 ลบ.ม. โดยมีอัตราการไหลสอดคล้องกับอุโมงค์ระบายน้ำคลองทวีวัฒนาและอุโมงค์ระบายน้ำคลองพระยาราชมนตรี
“2) โครงการก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็กพร้อมระบบรวบรวมน้ำเสียคลองแสนแสบจากบริเวณประตูระบายน้ำมีนบุรีถึงบริเวณประตูระบายน้ำหนองจอก ระยะเวลาดำเนินงาน 5 ปี (ปี 2565-2569) เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังเนื่องจากน้ำฝนในพื้นที่เขตคลองสามวา เขตมีนบุรี เขตหนองจอก ครอบคลุมพื้นที่ 90 ตร.กม. รองรับปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น 479,500 ลบ.ม. อัตราการไหล 60 ลบ.ม./วินาที (ประตูระบายน้ำหนองจอก)” พล.อ.ประวิตร กล่าว
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า 3)โครงการก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็กคลองบางนาจากคลองเคล็ดถึงบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา ระยะเวลาดำเนินงาน 4 ปี (ปี 2565-2568) สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในพื้นที่เขตบางนาและเขตประเวศ ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 25 ตร.กม. และลดผลกระทบต่อประชาชนจากปัญหาน้ำท่วมขัง และ 4)โครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายอุโมงค์ระบายน้ำใต้คลองบางซื่อจากถนนรัชดาภิเษกถึงคลองลาดพร้าว ระยะเวลาดำเนินงาน 3 ปี (ปี65-67) ช่วยแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่เขตห้วยขวาง เขตลาดพร้าว และเขตจตุจักร โดยจะเพิ่มพื้นที่อิทธิพลในการระบายน้ำลงสู่อุโมงค์อีกประมาณ 36.60 ตร.กม. ลดการท่วมขังของน้ำฝนบนผิวจราจร กรณีฝนตกเกิน 60 มม./ชม. และลดปัญหาด้านการจราจรที่เกิดจากน้ำท่วมขังบนผิวจราจร
พล.อ.ประวิตร กำชับให้ทุกหน่วยงานเร่งปรับปรุงรายละเอียดข้อมูลตามความเห็นที่ประชุมและข้อสั่งการให้โครงการมีความพร้อมเรียบร้อยทุกด้าน ก่อนเสนอโครงการให้คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) พิจารณาในวันที่ 21 มกราคม 2564 เพื่อให้เป็นไปตามที่พระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 กำหนดไว้ ก่อนจะเสนอขอรับงบประมาณ ปี 2565 ต่อไป
นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสทนช. กล่าวว่า ที่ประชุมพิจารณาโครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ด้วย ได้แก่ โครงการสถานีสูบน้ำดิบพร้อมระบบท่อส่งน้ำเพื่อรองรับการพัฒนาเมืองต้นแบบสามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน จ.ปัตตานี ดำเนินการโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี ระยะเวลา 3 ปี (ปี2565-2567) โดยการก่อสร้างโรงประปาและสถานีสูบน้ำดิบบนพื้นที่ต.ตาเซะ อ.เมือง จ.ยะลา และระบบท่อส่งน้ำเชื่อมต่อกับประปาชุมชน ซึ่งจะสามารถส่งน้ำไปยังพื้นที่ 4 อำเภอของ จ.ปัตตานี ได้แก่ อ.แม่ลาน อ.โคกโพธิ์ อ.เมือง และอ.หนองจิก ช่วยสนับสนุนและเพิ่มศักยภาพการพัฒนาโครงการเมืองต้นแบบ เขตอุตสาหกรรมหนองจิก โครงการท่าเรือน้ำลึก ตอบสนองยุทธศาสตร์ทางการทหารและการแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ รวมทั้งสนับสนุนน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภคและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนได้อย่างยั่งยืน.-สำนักข่าวไทย