ย้ำผู้ติดเชื้อที่ไม่มีแอปหมอชนะโทษทั้งคุกทั้งปรับ

ทำเนียบรัฐบาล 7 ม.ค.-โฆษก ศบค.แถลงป่วยเพิ่ม 305 ราย ตาย 1 แจงเหตุจำเป็นประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ย้ำโหลดแอปหมอชนะ โดยเฉพาะผู้ติดเชื้อ ถ้าไม่มีถือละเมิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิก-19 : ศบค.) ชี้แจงความจำเป็นการประกาศพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ฉบับที่ 17 ที่นายกรัฐมนตรีลงนามวานนี้ (6 ม.ค.) ว่า เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการจากเบาไปหาหนัก 3 ข้อใหญ่คือ 1.ยกระดับมาตรการบังคับใช้ควบคุมโรค รักษาระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ ตรวจวัดอุณหภูมิ และที่สำคัญต้องติดตั้งแอปพลิเคชันหมอชนะไว้ควบคู่กับแอปพลเคชันไทยชนะด้วย โดยเฉพาะผู้ที่ติดเชื้อ เนื่องจากจะทำให้ติดตามไทม์ไลน์ได้

“2. การยกระดับพื้นที่ควบคุมสูงสุด ที่จำเป็นต้องมีมาตรการเข้มงวดอย่างยิ่งใน 5 จังหวัด คือ จันทบุรี ชลบุรี ตราด ระยองและสมุทรสาคร โดยตรวจสอบและควบคุมการใช้เส้นทางคมนาคมในการเดินทางเข้า-ออก ไป 5 จังหวัด ตั้งจุดตรวจจุดสกัด เพื่อคัดกรองการเดินทางและต้องติดตั้งแอปพลิเคชันหมอชนะ ผู้ที่จะเดินทางต้องแสดงเหตุผลความจำเป็น แสดงบัตรประชาชนควบคู่เอกสารรับรองความจำเป็นที่ออกโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ และ 3.ปราบปรามและลงโทษผู้กระทำผิดอันเป็นเหตุให้เกิดการระบาดของโรค ทั้งกรณีขนย้ายแรงงานต่างประเทศ และเปิดบ่อนการพนัน ซึ่งเป็นต้นตอของการระบาด โดยกำชับเจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบเพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ แต่งตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลดำเนินการและเสนอมาตรการป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีก ให้ ศปม.หน่วยงานความมั่นคงและเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบผู้ปฏิบัติการกวดขันสอดส่องเฝ้าระวังการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย และมั่วสุมเล่นพนัน สนับสนุนให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบแจ้งเบาะแสผ่านศบค. ที่สายด่วน 1111” โฆษกศบค. กล่าว


นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ศบค.มท. ได้ออกประกาศกระทรวงมหาดไทยไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด แจ้งให้แต่ละจังหวัดดำเนินการ โดยมีสาระสำคัญคือให้ ตั้งจุดตรวจด่านตรวจคมนาคมเส้นทางหลักในพื้นที่รอยต่อระหว่างจังหวัด โดยให้ผู้ว่าฯ บูรณาการประสานกับหน่วยงานความมั่นคงและตำรวจ ส่วนการตั้งจุดตรวจเส้นทางรองให้ผู้ว่าฯ มอบ กำนันผู้ใหญ่บ้านและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นคัดกรองตามความเหมาะสม รวมถึงประชาสัมพันธ์ทุกช่องทางให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ขอความร่วมมือให้ประชาชนงดหรือชะลอการเดินทางข้ามจังหวัด เว้นแต่มีความจำเป็น ต้องแสดงเหตุผลและหลักฐานและตรวจคัดกรอง และทำตามมาตรการคัดกรองที่ราชการกำหนด

“ใน 5 จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดเข้มงวด มีมาตราการเพิ่มคือ ต้องตรวจวัดอุณหภูมิ สอบถามความจำเป็นและสอบถามสถานที่ปลายทางให้ชัดเจน ต้องติดตั้งแอปพลิเคชันหมอชนะ ตรวจสอบเอกสารรับรองความจำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่การติดต่อราชการ และบันทึกข้อมูลของผู้เดินทาง ส่วนอีก 23 จังหวัด ไม่ต้องมีเอกสารรับรอง และอีก 49 จังหวัด เพียงแค่วัดอุณหภูมิและสอบถามความจำเป็นในการเดินทาง ซึ่งทั้งหมดอาจทำให้ยุ่งยากมากขึ้น แต่ไม่ได้ห้ามเดินทางหรือประกาศเคอร์ฟิว ทั้งนี้ สามารถติดตามข้อมูลในเว็บไซต์กระทรวงมหาดไทย ซึ่งจะรวบรวมข้อมูลและมาตรการของจังหวัดต่าง ๆ ไว้ว่าหากจะต้องเดินทาง จะต้องปฏิบัติอย่างไรบ้าง” โฆษกศบค. กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ขอให้ทุกหน่วยงานสนับสนุนเรื่องการทำงานที่บ้าน หรือ work from home ลดการพบปะกันเพื่อลดการแพร่ระบาดของโรค และเน้นย้ำเรื่องหน้ากากผ้าว่ามีความจำเป็น ซึ่งยิ่งใช้ยิ่งนุ่ม มีคุณภาพกรองละอองฝอยละเอียดมากขึ้น ไม่เปลืองเงินซื้อหน้ากากอนามัยทางการแพทย์


“สำหรับยอดผู้ป่วย วันนี้ (7 ม.ค.) พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม 305 ราย รวมสะสม 9,636 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 1 คน เป็นชาย อายุ 88 ปี เป็นผู้ป่วยมะเร็งติดเตียงอยู่แล้ว และติดเชื้อโควิดจากลูกชายที่ไปพื้นที่เสี่ยงจังหวัดระยอง แล้วเดินทางมาเยี่ยมเมื่อวันที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยผู้ติดเชื้อมีอาการไอ มีเสมหะ ถ่ายเหลว เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลที่ระยองวันที่ 2 มกราคม ตรวจพบเชื้อ วันที่ 3 มกราคม มีอาการแย่ลงและเสียชีวิตวานนี้( 6 ม.ค.)” โฆษกศบค. กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ในจำนวน 305 ราย ติดเชื้อในประเทศ 193 ราย ติดเชื้อจากการคัดกรองเชิงรุกติดเชื้อในแรงงานประเทศเพื่อนบ้าน จำนวน 109 ราย เดินทางจากต่างประเทศ 3 ราย แบ่งเป็นติดเชื้อในประเทศ 7,551 ราย กลุ่มแรงงานต่างด้าว 2,684 ราย หายแล้ว 4,521 ราย ทั้งนี้ ระหว่างแถลงข่าวมีรายงานว่าจังหวัดบุรีรัมย์ตีไข่แตกแล้ว พบผู้ป่วยโควิด ซึ่งจะแถลงให้ทราบต่อไป

โฆษกศบค. ยกตัวอย่างจำนวนผู้ติดเชื้อที่จังหวัดนนทบุรี สะสม 111 ราย กระจายไป 6 อำเภอ มีประวัติเสี่ยงไปตลาด 53 ราย ไปสมุทรสาคร 21 ราย สัมผัสผู้ป่วยเดิม 9 ราย ไปสถานบันเทิง 6 ราย ไประยอง 2 ราย และอื่น ๆ 15 ราย ซึ่งหากจังหวัดอื่น ๆ ศึกษาและวิเคราะห์ความเสี่ยงในแต่ละจังหวัดได้ จะสามารถหาพื้นที่ปลอดภัย ป้องกันการกระจายของเชื้อได้ ส่วนที่จังหวัดสมุทรสาคร วันนี้มีจำนวนผู้ป่วยแตะ 3,000 ราย อย่างไรก็ตาม มีข่าวดีคือพื้นที่สีขาว ไม่พบผู้ป่วย 14 วัน เช่น ระนอง ตรัง กำแพงเพชร และสงขลา อาจจะนำออกจากตารางจังหวัดที่พบผู้ป่วย

นพ.ทวีศิลป์ ตอบคำถามที่ว่าทำไมบางจังหวัดไม่เปิดไทม์ไลน์ผู้ป่วย ว่า ถ้ามีจำนวนไม่มาก ควรจะเปิดเผย เพื่อให้ประชาชนรับทราบประวัติความเสี่ยงในการติดต่อ แต่เมื่อมีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ต้องรอการทำประวัติไทม์ไลน์ที่อาจยังไม่เสร็จ หรือพยายามทำอยู่ แต่คนให้ข้อมูลไม่ร่วมมือ ซึ่งเป็นปัญหาเพราะเชื่อมโยงกับการทำผิดกฎหมาย เช่น บ่อนพนัน
“ต่อไปนี้ใครที่ติดเชื้อโควิดแล้วพบว่าไม่โหลดแอปหมอชนะ จะถือว่าละเมิดข้อกำหนด มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากจงใจปกปิดข้อมูลการเดินทาง ปกปิดไทม์ไลน์ ถือว่ามีความผิดด้วย” โฆษกศบค. กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงการขอเอกสารการเดินทางทำให้คนมารวมตัวกันจำนวนมาก ว่า ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน นายอำเภอ หรือนายจ้างเอกชน สามารถออกให้ได้ เช่น รถส่งของ ให้นายจ้างออกใบรับรองให้ว่ารถจะต้องวิ่งเส้นทางใดบ้าง ในแต่ละวัน ซึ่งในอนาคตทุกคนต้องใช้แอปพลิเคชันหมอชนะ ไม่เช่นนั้นอาจมีบทลงโทษ

เมื่อถามว่าจะมีวัคซีนที่รัฐจัดให้จำนวนหนึ่ง แต่จะเปิดโอกาสให้เอกชนนำเข้ามาได้หรือไม่ โฆษกศบค. กล่าวว่า สามารถทำได้ รัฐไม่ได้ปิดกั้น แต่ต้องทำให้ถูกกระบวนการ ตามกติกา โดยต้องขึ้นทะเบียนรับรองจากต่างประเทศและองค์การอาหารและยา(อย.) ของไทยด้วย ทั้งนี้ ไม่ให้ประกาศให้ประชาชนจองหรือโฆษณาก่อนขออนุญาต

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงการสร้างโรงพยาบาลสนาม ว่า นายกรัฐมนนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมีหลักการตรงกันที่ต้องการให้มีทุกจังหวัด เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับสถานการณ์ในอนาคตที่เลวร้ายที่สุด ให้การดูแลประชาชนในแต่ละจังหวัดทั่วประเทศเท่าเทียมกัน ขอประชาชนอย่าตกใจ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ผู้ป่วยที่จังหวัดสมุทรสาคร 80% ไม่มีอาการ ที่จะให้มาใช้โรงพยาบาลสนามให้อยู่ด้วยกัน เพื่อประหยัดทรัพยากร โครงสร้างและระบบบำบัด ดีกว่าให้ไปแพร่เชื้อ โรคนี้ 10% อาการหนัก และ1-2% เสียชีวิต จึงต้องสร้างห้องพิเศษให้นอน ซึ่งมีอยู่แล้ว

“วันนี้เราได้รับความเห็นใจแรงงานที่มาอยู่กับเรา ผู้ป่วยก็ไม่ได้เป็นที่น่ารังเกียจ เขาเป็นพี่น้องเรา ญาติเรา ป่วยรักษาก็หาย สัปดาห์นี้ สัปดาห์หน้าเอาให้พรึ่บทั้งประเทศให้มีพลังเหมือนประเทศจีนที่ทำขึ้นมา รัฐ เอกชน ประชาชนเข้าใจกัน เราสู้โควิด ชนะแน่ ขอแรงกายแรงใจจากประชาชนทุกคนส่งไปยังแพทย์ที่มาจากทั่วประเทศ ที่ไปช่วยดูแลผู้ป่วยหลายพันคนที่สมุทรสาคร ที่ต้องทำงานเป็นนักรบแนวหน้า ด้วยการให้ทุกคนเว้นระยะห่าง” ทั้งนี้ โฆษกศบค.ได้นำภาพรถสองแถวที่นำฟิวเจอร์บอร์ดมากั้นแต่ละที่ ซึ่งสามารถเป็นตัวอย่างนำไปปฏิบัติต่อได้ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

กู้ซากคานสะพานลอยคนข้ามพังถล่ม เปิดการจราจรแล้ว

23 ส.ค. – เจ้าหน้าที่เร่งหาสาเหตุคานสะพานลอยคนข้ามขนาดใหญ่ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง มูลค่าเกือบ 7 ล้านบาท พังถล่มลงมากีดขวางถนน สาย 317 จันทบุรี–สระแก้ว ล่าสุดกู้ซากคานสะพานลอย ออกจากถนน และเปิดการจราจรได้ตามปกติแล้ว เหตุคานสะพานลอยถล่ม บริเวณพื้นที่ก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ระหว่างฝั่งขาเข้าเมือง บ้านมะทาย ต.ปัถวี ข้ามไปยังตลาดกลางเทศบาลตำบลมะขามเมืองใหม่ อ.มะขาม จ.จันทบุรี เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 22.20 น. ที่ผ่านมา เหตุดังกล่าวทำให้เกิดผลกระทบ สภาพการจราจรติดขัด ตลอดช่วงสายและบ่าย เป็นระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ได้ พยายามเร่งกู้ซากสะพานลอย ประสาน นำเครื่องจักรกลหนักทั้ง รถแบ็กโฮ 3 คัน รถแบ็กโฮหัวขุดเจาะ 2 คันและรถเครนใหญ่อีก 1 คัน ระดมลงพื้นที่เกิดเหตุ โดยบริษัทผู้รับเหมา ต้องใช้รถหัวขุดเจาะ 2 คัน ทำการขุดเจาะกระแทกแผ่นคอนกรีตให้แตก จนเหลือแต่เส้นเหล็กจากนั้นได้ใช้ชุดเชื่อมทำการใช้ไฟแก๊สตัดเหล็ก แยกชิ้นส่วนของคานคอนกรีตออก […]

ตามล่านักโทษชายหลบหนีเรือนจำนนทบุรี

นนทบุรี 23 ส.ค. – นักโทษเรือนจำนนทบุรีหลบหนี ขณะออกมาทำงานนอกเรือนจำ เจ้าหน้าที่พบชุดนักโทษ ถอดทิ้งไว้ใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ อยู่ระหว่างไล่ติดตาม กล้องวงจรปิด บันทึกเหตุการณ์ ช่วงบ่ายวันนี้ หลังตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ได้รับเเจ้งว่ามีนักโทษชายหลบหนีจากร้านหับเผย อ.เมือง จ.นนทบุรี ตรวจสอบเบื้องต้นทราบชื่อ นช.อนุชิต อายุ 29 ปี เป็นผู้ต้องขังกองนอกประจำร้านหับเผย ของเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ชุดที่หลบหนีสวมชุดสีส้มของเรือนจำ ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อเรมเบสต้า สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร หลบหนี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พบชุดที่นักโทษสวมใส่ถอดทิ้งไว้ใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ อยู่ระหว่างไล่ติดตาม สำหรับ นช.อนุชิต สุขสด ถูกตำรวจ สภ.บางบัวทอง จับกุมเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2567 ข้อหาพยายามลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น โดยใช้ยานพาหนะในการกระทำผิด หลังจับกุม สภ.บางบัวทอง นำตัวส่งเรือนจำกลางจังหวัดนนทบุรี วันที่ 27 ธันวาคม 2567 ศาลตัดสินโทษจำคุก 1 ปี โดยจะพ้นโทษในวันที่ในวันที่ […]

ผบ.ทบ. ตรวจฐานภูมะเขือ ขอบคุณกำลังพลทุ่มเทปฏิบัติงาน

23 ส.ค.- ผบ.ทบ. ตรวจเยี่ยมฐานปฏิบัติการภูมะเขือ ย้ำกำลังพลปฏิบัติงานเต็มความสามารถ ตั้งอยู่บนความปลอดภัย เมื่อวันที่ 23 ส.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.) พร้อม พล.ท.ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสนาธิการทหารบก พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พล.ต.ธีรนันท์ นันทขว้าง ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรองทางทหาร เดินทางมาตรวจเยี่ยม และรับฟังบรรยายสรุปการปฏิบัติงานของฐานการภูมะเขือ โดยมี พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พร้อมด้วยฝ่ายเสนาธิการกองกำลังสุรนารี, ผู้บังคับหน่วย และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ให้การต้อนรับ และร่วมปฏิบัติภารกิจ ผู้บัญชาการทหารบก รับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์ และการปฏิบัติงาน ณ ฐานปฏิบัติการภูมะเขือกลาง พร้อมทั้งมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ฐานปฏิบัติการภูมะเขือ ผู้บัญชาการทหารทัพบก กล่าวขอบคุณกำลังพลทุกนายที่ทุ่มเทปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ ให้ปฏิบัติภารกิจอย่างปลอดภัย จากนั้นได้เดินดูบริเวณฐานธุรการและพื้นที่ต่างๆ บนภูมะเขือ -สำนักข่าวไทย

เร่งเคลียร์ซากสะพานลอยถล่ม ขวางถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว

จันทบุรี 23 ส.ค.- เร่งเคลียร์ซาก! เหตุสะพานลอยคอนกรีตที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง พังถล่มขวางถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ส่งผลเช้านี้การจราจรติดขัดสะสม คาดเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท เมื่อเวลาประมาณ 22.20 น. ที่ผ่านมา พื้นที่ก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ระหว่างฝั่งขาเข้าเมือง บ้านมะทาย ต.ปัถวี ข้ามไปยังตลาดกลางเทศบาลตำบลมะขามเมืองใหม่ อ.มะขาม จ.จันทบุรี กล้องวจรปิดร้านขายของชำบันทึกภาพวินาทีระทึก  ขณะคานสะพานพังถล่ม โดยยังมีคนงานเดินอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุหลายสิบคน โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ จากการตรวจสอบความเสียหายในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบรถเทรลเลอร์ 1 คัน และรถเครนของบริษัทรับเหมาเอกชนอีก 1 คัน ถูกคานสะพาน คอนกรีตที่หนักรวมกว่า 116 ตัน ถล่มลงมาทับพังเสียหาย กีดขวางการจราจรทั้งขาเข้าและขาออก เบื้องต้นกรมทางหลวงซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้รับเหมา เร่งดำเนินการใช้แยกคอนกรีตตัดคานสะพานออก เพื่อง่ายต่อการเคลียร์เส้นทาง เนื่องจากเป็นถนนสายหลัก ส่วนมูลค่าความเสียหายคาดไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท สอบถามเจ้าหน้าที่กรมทางหลวง ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่าสะพานลอยแห่งนี้ มีรูปแบบการก่อสร้างประกอบด้วย เสาเตาหม้อคอนกรีตเสริมเหล็กจำนวน 2 ต้น มีความกว้างของทางเดินบนสะพาน 2.4 เมตร พร้อมราวจับและหลังคายาวตลอดทางเดินราว 36 เมตร ซึ่งครอบคลุมบันไดทั้งขาขึ้นและลง […]