ย้ำผู้ติดเชื้อที่ไม่มีแอปหมอชนะโทษทั้งคุกทั้งปรับ

ทำเนียบรัฐบาล 7 ม.ค.-โฆษก ศบค.แถลงป่วยเพิ่ม 305 ราย ตาย 1 แจงเหตุจำเป็นประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ย้ำโหลดแอปหมอชนะ โดยเฉพาะผู้ติดเชื้อ ถ้าไม่มีถือละเมิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิก-19 : ศบค.) ชี้แจงความจำเป็นการประกาศพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ฉบับที่ 17 ที่นายกรัฐมนตรีลงนามวานนี้ (6 ม.ค.) ว่า เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการจากเบาไปหาหนัก 3 ข้อใหญ่คือ 1.ยกระดับมาตรการบังคับใช้ควบคุมโรค รักษาระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ ตรวจวัดอุณหภูมิ และที่สำคัญต้องติดตั้งแอปพลิเคชันหมอชนะไว้ควบคู่กับแอปพลเคชันไทยชนะด้วย โดยเฉพาะผู้ที่ติดเชื้อ เนื่องจากจะทำให้ติดตามไทม์ไลน์ได้

“2. การยกระดับพื้นที่ควบคุมสูงสุด ที่จำเป็นต้องมีมาตรการเข้มงวดอย่างยิ่งใน 5 จังหวัด คือ จันทบุรี ชลบุรี ตราด ระยองและสมุทรสาคร โดยตรวจสอบและควบคุมการใช้เส้นทางคมนาคมในการเดินทางเข้า-ออก ไป 5 จังหวัด ตั้งจุดตรวจจุดสกัด เพื่อคัดกรองการเดินทางและต้องติดตั้งแอปพลิเคชันหมอชนะ ผู้ที่จะเดินทางต้องแสดงเหตุผลความจำเป็น แสดงบัตรประชาชนควบคู่เอกสารรับรองความจำเป็นที่ออกโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ และ 3.ปราบปรามและลงโทษผู้กระทำผิดอันเป็นเหตุให้เกิดการระบาดของโรค ทั้งกรณีขนย้ายแรงงานต่างประเทศ และเปิดบ่อนการพนัน ซึ่งเป็นต้นตอของการระบาด โดยกำชับเจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบเพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ แต่งตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลดำเนินการและเสนอมาตรการป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีก ให้ ศปม.หน่วยงานความมั่นคงและเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบผู้ปฏิบัติการกวดขันสอดส่องเฝ้าระวังการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย และมั่วสุมเล่นพนัน สนับสนุนให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบแจ้งเบาะแสผ่านศบค. ที่สายด่วน 1111” โฆษกศบค. กล่าว


นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ศบค.มท. ได้ออกประกาศกระทรวงมหาดไทยไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด แจ้งให้แต่ละจังหวัดดำเนินการ โดยมีสาระสำคัญคือให้ ตั้งจุดตรวจด่านตรวจคมนาคมเส้นทางหลักในพื้นที่รอยต่อระหว่างจังหวัด โดยให้ผู้ว่าฯ บูรณาการประสานกับหน่วยงานความมั่นคงและตำรวจ ส่วนการตั้งจุดตรวจเส้นทางรองให้ผู้ว่าฯ มอบ กำนันผู้ใหญ่บ้านและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นคัดกรองตามความเหมาะสม รวมถึงประชาสัมพันธ์ทุกช่องทางให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ขอความร่วมมือให้ประชาชนงดหรือชะลอการเดินทางข้ามจังหวัด เว้นแต่มีความจำเป็น ต้องแสดงเหตุผลและหลักฐานและตรวจคัดกรอง และทำตามมาตรการคัดกรองที่ราชการกำหนด

“ใน 5 จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดเข้มงวด มีมาตราการเพิ่มคือ ต้องตรวจวัดอุณหภูมิ สอบถามความจำเป็นและสอบถามสถานที่ปลายทางให้ชัดเจน ต้องติดตั้งแอปพลิเคชันหมอชนะ ตรวจสอบเอกสารรับรองความจำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่การติดต่อราชการ และบันทึกข้อมูลของผู้เดินทาง ส่วนอีก 23 จังหวัด ไม่ต้องมีเอกสารรับรอง และอีก 49 จังหวัด เพียงแค่วัดอุณหภูมิและสอบถามความจำเป็นในการเดินทาง ซึ่งทั้งหมดอาจทำให้ยุ่งยากมากขึ้น แต่ไม่ได้ห้ามเดินทางหรือประกาศเคอร์ฟิว ทั้งนี้ สามารถติดตามข้อมูลในเว็บไซต์กระทรวงมหาดไทย ซึ่งจะรวบรวมข้อมูลและมาตรการของจังหวัดต่าง ๆ ไว้ว่าหากจะต้องเดินทาง จะต้องปฏิบัติอย่างไรบ้าง” โฆษกศบค. กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ขอให้ทุกหน่วยงานสนับสนุนเรื่องการทำงานที่บ้าน หรือ work from home ลดการพบปะกันเพื่อลดการแพร่ระบาดของโรค และเน้นย้ำเรื่องหน้ากากผ้าว่ามีความจำเป็น ซึ่งยิ่งใช้ยิ่งนุ่ม มีคุณภาพกรองละอองฝอยละเอียดมากขึ้น ไม่เปลืองเงินซื้อหน้ากากอนามัยทางการแพทย์


“สำหรับยอดผู้ป่วย วันนี้ (7 ม.ค.) พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม 305 ราย รวมสะสม 9,636 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 1 คน เป็นชาย อายุ 88 ปี เป็นผู้ป่วยมะเร็งติดเตียงอยู่แล้ว และติดเชื้อโควิดจากลูกชายที่ไปพื้นที่เสี่ยงจังหวัดระยอง แล้วเดินทางมาเยี่ยมเมื่อวันที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยผู้ติดเชื้อมีอาการไอ มีเสมหะ ถ่ายเหลว เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลที่ระยองวันที่ 2 มกราคม ตรวจพบเชื้อ วันที่ 3 มกราคม มีอาการแย่ลงและเสียชีวิตวานนี้( 6 ม.ค.)” โฆษกศบค. กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ในจำนวน 305 ราย ติดเชื้อในประเทศ 193 ราย ติดเชื้อจากการคัดกรองเชิงรุกติดเชื้อในแรงงานประเทศเพื่อนบ้าน จำนวน 109 ราย เดินทางจากต่างประเทศ 3 ราย แบ่งเป็นติดเชื้อในประเทศ 7,551 ราย กลุ่มแรงงานต่างด้าว 2,684 ราย หายแล้ว 4,521 ราย ทั้งนี้ ระหว่างแถลงข่าวมีรายงานว่าจังหวัดบุรีรัมย์ตีไข่แตกแล้ว พบผู้ป่วยโควิด ซึ่งจะแถลงให้ทราบต่อไป

โฆษกศบค. ยกตัวอย่างจำนวนผู้ติดเชื้อที่จังหวัดนนทบุรี สะสม 111 ราย กระจายไป 6 อำเภอ มีประวัติเสี่ยงไปตลาด 53 ราย ไปสมุทรสาคร 21 ราย สัมผัสผู้ป่วยเดิม 9 ราย ไปสถานบันเทิง 6 ราย ไประยอง 2 ราย และอื่น ๆ 15 ราย ซึ่งหากจังหวัดอื่น ๆ ศึกษาและวิเคราะห์ความเสี่ยงในแต่ละจังหวัดได้ จะสามารถหาพื้นที่ปลอดภัย ป้องกันการกระจายของเชื้อได้ ส่วนที่จังหวัดสมุทรสาคร วันนี้มีจำนวนผู้ป่วยแตะ 3,000 ราย อย่างไรก็ตาม มีข่าวดีคือพื้นที่สีขาว ไม่พบผู้ป่วย 14 วัน เช่น ระนอง ตรัง กำแพงเพชร และสงขลา อาจจะนำออกจากตารางจังหวัดที่พบผู้ป่วย

นพ.ทวีศิลป์ ตอบคำถามที่ว่าทำไมบางจังหวัดไม่เปิดไทม์ไลน์ผู้ป่วย ว่า ถ้ามีจำนวนไม่มาก ควรจะเปิดเผย เพื่อให้ประชาชนรับทราบประวัติความเสี่ยงในการติดต่อ แต่เมื่อมีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ต้องรอการทำประวัติไทม์ไลน์ที่อาจยังไม่เสร็จ หรือพยายามทำอยู่ แต่คนให้ข้อมูลไม่ร่วมมือ ซึ่งเป็นปัญหาเพราะเชื่อมโยงกับการทำผิดกฎหมาย เช่น บ่อนพนัน
“ต่อไปนี้ใครที่ติดเชื้อโควิดแล้วพบว่าไม่โหลดแอปหมอชนะ จะถือว่าละเมิดข้อกำหนด มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากจงใจปกปิดข้อมูลการเดินทาง ปกปิดไทม์ไลน์ ถือว่ามีความผิดด้วย” โฆษกศบค. กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงการขอเอกสารการเดินทางทำให้คนมารวมตัวกันจำนวนมาก ว่า ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน นายอำเภอ หรือนายจ้างเอกชน สามารถออกให้ได้ เช่น รถส่งของ ให้นายจ้างออกใบรับรองให้ว่ารถจะต้องวิ่งเส้นทางใดบ้าง ในแต่ละวัน ซึ่งในอนาคตทุกคนต้องใช้แอปพลิเคชันหมอชนะ ไม่เช่นนั้นอาจมีบทลงโทษ

เมื่อถามว่าจะมีวัคซีนที่รัฐจัดให้จำนวนหนึ่ง แต่จะเปิดโอกาสให้เอกชนนำเข้ามาได้หรือไม่ โฆษกศบค. กล่าวว่า สามารถทำได้ รัฐไม่ได้ปิดกั้น แต่ต้องทำให้ถูกกระบวนการ ตามกติกา โดยต้องขึ้นทะเบียนรับรองจากต่างประเทศและองค์การอาหารและยา(อย.) ของไทยด้วย ทั้งนี้ ไม่ให้ประกาศให้ประชาชนจองหรือโฆษณาก่อนขออนุญาต

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงการสร้างโรงพยาบาลสนาม ว่า นายกรัฐมนนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมีหลักการตรงกันที่ต้องการให้มีทุกจังหวัด เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับสถานการณ์ในอนาคตที่เลวร้ายที่สุด ให้การดูแลประชาชนในแต่ละจังหวัดทั่วประเทศเท่าเทียมกัน ขอประชาชนอย่าตกใจ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ผู้ป่วยที่จังหวัดสมุทรสาคร 80% ไม่มีอาการ ที่จะให้มาใช้โรงพยาบาลสนามให้อยู่ด้วยกัน เพื่อประหยัดทรัพยากร โครงสร้างและระบบบำบัด ดีกว่าให้ไปแพร่เชื้อ โรคนี้ 10% อาการหนัก และ1-2% เสียชีวิต จึงต้องสร้างห้องพิเศษให้นอน ซึ่งมีอยู่แล้ว

“วันนี้เราได้รับความเห็นใจแรงงานที่มาอยู่กับเรา ผู้ป่วยก็ไม่ได้เป็นที่น่ารังเกียจ เขาเป็นพี่น้องเรา ญาติเรา ป่วยรักษาก็หาย สัปดาห์นี้ สัปดาห์หน้าเอาให้พรึ่บทั้งประเทศให้มีพลังเหมือนประเทศจีนที่ทำขึ้นมา รัฐ เอกชน ประชาชนเข้าใจกัน เราสู้โควิด ชนะแน่ ขอแรงกายแรงใจจากประชาชนทุกคนส่งไปยังแพทย์ที่มาจากทั่วประเทศ ที่ไปช่วยดูแลผู้ป่วยหลายพันคนที่สมุทรสาคร ที่ต้องทำงานเป็นนักรบแนวหน้า ด้วยการให้ทุกคนเว้นระยะห่าง” ทั้งนี้ โฆษกศบค.ได้นำภาพรถสองแถวที่นำฟิวเจอร์บอร์ดมากั้นแต่ละที่ ซึ่งสามารถเป็นตัวอย่างนำไปปฏิบัติต่อได้ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

วันเกิดอนุทิน

แกนนำรัฐบาลร่วมเบิร์ธเดย์ 59 ปี “อนุทิน” ชื่นมื่น

พรรคภูมิใจไทย 13 ก.ย.- แกนนำรัฐบาล ร่วมเบิร์ธเดย์ 59 ปี “อนุทิน” ชื่นมื่น สส.อวยพร หลังเลือกตั้งขอให้เป็นนายกรัฐมนตรีอีก 4 ปี พรรคภูมิใจไทยจัดงานวันเกิดครบรอบ 59 ปี ให้กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โดยมีพรรคร่วมรัฐบาล อาทิ พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม, นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรคกล้าธรรม, นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ บุตรชายนายสันติ, พิพัฒน์ รัชกิจประการ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รวมถึงบุคคลในครอบครัว เช่น ธนนนท์ นิรามิษ ภริยา, เศรณี และนัยน์ภัค ชาญวีรกูล บุตรชายและบุตรสาวของนายอนุทิน, ไตรศุลี ไตรสรณกุล อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ร่วมร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์และเป่าเค้ก […]

Nepal President and Interim Prime Minister

เนปาลยุบสภา หลังได้นายกฯ เฉพาะกาลที่เป็นผู้หญิงคนแรก

กาฐมาณฑุ 13 ก.ย.- ทำเนียบประธานาธิบดีเนปาลออกแถลงการณ์เมื่อค่ำวันศุกร์ว่า ประธานาธิบดีได้ประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎร และกำหนดให้จัดการเลือกตั้งในวันพฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม 2569 หลังจากที่ได้แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีเฉพาะกาลที่เป็นผู้หญิงคนแรกของประเทศ ประธานาธิบดีรามจันทระ เปาเฑลของเนปาลสั่งยุบสภาและให้จัดการเลือกตั้งใหม่ดังกล่าว โดยก่อนหน้านั้นไม่กี่ชั่วโมงเพิ่งแต่งตั้งนางสุชีลา การ์กี วัย 73 ปี อดีตประธานศาลฎีกา เป็นนายกรัฐมนตรีเฉพาะกาลที่เป็นผู้หญิงคนแรกของประเทศ หลังจากที่ได้เจรจาหารือกันอย่างเข้มข้นเป็นเวลา 2 วัน กับผู้บัญชาการทหารบกและแกนนำผู้ประท้วงกลุ่มเจเนอเรชันซีหรือเจนซี (Gen Z) เพื่อเดินหน้าประเทศที่เกิดการลุกฮือครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบหลายปี มีคนเสียชีวิตอย่างน้อย 51 คน ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 1,300 คน มีการเผาอาคารรัฐสภา ที่ทำการรัฐบาล และบ้านพักนักการเมือง ทำให้นายกรัฐมนตรีเค.พี. ชาร์มา โอลี ต้องลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 9 กันยายน ด้านนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดียที่มีพรมแดนทางตะวันออกเฉียงเหนือติดกับเนปาล โพสต์เอ็กซ์ (X) แสดงความยินดีอย่างจริงใจต่อนางการ์กีที่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของรัฐบาลเฉพาะกาลเนปาล และว่าอินเดียมุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยมต่อสันติภาพ ความก้าวหน้า และความรุ่งเรืองของพี่น้องชาวเนปาล การประท้วงในเนปาลปะทุขึ้นในกรุงกาฐมาณฑุแล้วลุกลามไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็วเมื่อวันที่ 8 กันยายน ชนวนเหตุเกิดจากการที่รัฐบาลสั่งห้ามการใช้สื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งไปโหมกระพือกระแสความไม่พอใจเรื่องความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมในประเทศที่ตกอยู่ในภาวะไร้เสถียรภาพตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบกษัตริย์เป็นสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยในปี 2551 […]

“อนุทิน” เข้าพรรคฯ นำคุย ว่าที่ รมต. หารือกรอบนโยบาย

พรรคภูมิใจไทย 13 ก.ย.-“อนุทิน” เข้าพรรคภูมิใจไทย วันเกิด นำคุย ว่าที่ รมต. หารือกรอบนโยบาย ก่อนแถลงต่อสภาฯ ขณะที่ภาคเอกชน-นักการเมือง-ข้าราชการ ส่งดอกไม้อวยพรวันเกิด ครบ 59 ปี บรรยากาศที่พรรคภูมิใจไทย เวลา 14.15 น. นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด และนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด ส่งแจกันดอกไม้สีฟ้า-ขาว มาร่วมอวยพรวันคล้ายวันเกิด ครบ 59 ปี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ขณะที่ตั้งแต่ช่วงบ่ายยังมีบรรดานักการเมือง ข้าราชการ และภาคเอกชน ส่งดอกไม้อวยพรวันเกิดและแสดงความยินดีเป็นจำนวนมาก อาทิ นายวราวุธ ศิลปอาชา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในสมัยรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร พลเอกเทพพงษ์ ทิพยจันทร์ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม นายกร ทัพพะรังสี อดีตรัฐมนตรีหลายสมัย นอกจากนี้ยังมีแจกันดอกไม้ที่ส่งมาอวยพรนายอนุทิน ทั้งส่วนราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรฯ […]

ธปท.เรียกถกผู้ค้าทองรายใหญ่ 13 ราย หารือ 15 ก.ย.นี้

กทม. 13 ก.ย.-ธปท. เรียกถกผู้ค้าทองรายใหญ่ 13 ราย หารือจันทร์นี้ หลัง กกร.ตั้งข้อสังเกตส่งออกทองคำไปกัมพูชาพุ่งสูงผิดปกติ กรณีนายเกรียงไกร เธียรนุกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เผยว่า คณะกรรมการร่วมภาคเอกชนสามสถาบัน (กกร.) ได้ทำการตรวจสอบหาสาเหตุที่ทำให้เงินบาทแข็งค่าแรงผิดปกติ สวนทางเศรษฐกิจปัจจุบัน จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบความผิดปกติของการส่งออกทองคำไปกัมพูชา มีตัวเลขสูงผิดปกติ ซึ่งอาจจะเป็นหนึ่งสาเหตุที่ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่านั้น ล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้เรียกด่วนผู้ค้าทองรายใหญ่ 13 ราย เพื่อหารือถึงประเด็นดังกล่าวในวันที่ 15 ก.ย.นี้ ด้านวงในให้จับตา “ทองคำ” ช่องโหว่เศรษฐกิจ เหตุเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีหน่วยงานกำกับดูแล จนกระทรวงการคลัง-แบงก์ชาติ ต้องถกหาวิธีดูแลธุรกรรมทองคำเพื่อปิดช่องฟอกเงิน เผย 7 เดือนไทยส่งออกทองไปกัมพูชาแล้วกว่า 71,800 ล้านบาท ทั้งนี้ การส่งออกทองคำของไทยที่อยู่ในหมวดอัญมณีและเครื่องประดับ ระหว่างเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2568 ตามตัวเลขของสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (GIT) พบว่าไทยมีการส่งออกไปยังกัมพูชาอยู่ในอันดับ 3 รองจากการส่งออกไปยังสวิตเซอร์แลนด์ และอินเดีย ซึ่งเป็นแหล่งค้าทองคำที่สำคัญของโลก โดยตัวเลขการส่งออกไปยังกัมพูชา 7 เดือนแรกของปี 2568 […]