นายกฯ ยันเอาจริงคนอยู่เบื้องหลังบ่อน

ทำเนียบ 5 ม.ค.- นายกฯ ยืนยันไม่ลงโทษผู้ลักลอบเล่นพนันในบ่อน  แต่ขอให้เข้าคัดกรองโรค ย้ำเอาจริง ตั้ง กก.สอบเอาผิดเบื้องหลังบ่อน วอนชะลอเดินทางข้าม 5 จังหวัดเสี่ยง ให้ความมั่นใจเดือนพฤษภาคม ไทยจะมีวัคซีน 60 ล้านโดส เพียงพอกับประชาชน


 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ ของเพจไทยคู่ฟ้าว่า รัฐบาลจะจริงจังกับการกำจัดขบวนการบ่อนการพนัน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเข้มงวดมากที่สุดในทุกพื้นที่ แม้ที่ผ่านมาประชาชนจำนวนมากยังนิยมเล่นการพนัน เรื่องที่เกิดขึ้นจึงไม่สามารถกล่าวโทษประชาชนเพียงฝ่ายเดียวได้ แต่เป็นหน้าที่ของประชาชนและเจ้าหน้าที่ต้องร่วมมือกันในการขจัดพื้นที่ที่เป็นบ่อเกิดของการแพร่ระบาดโควิด 19 พร้อมกำชับไปยังเจ้าหน้าที่ว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ โดยได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาติดตามให้เห็นเป็นรูปธรรม ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เพื่อดำเนินคดีกับความผิดเฉพาะหน้าเมื่อมีการจำกุม และในส่วนที่ยังจับกุมไม่ได้ จะต้องติดตามนายทุนที่อยู่เบื้องหลัง ผู้อำนวยความสะดวก และเจ้าหน้าที่ที่ละเว้น ปล่อยปละละเลย

“คนเหล่านี้จะต้องถูกลงโทษจากกฎหมายทุกฉบับที่มีอยู่โดยไม่มีการละเว้น สิ่งสำคัญคือการตรวจสอบบุคคลที่ไปลักลอบเล่นการพนันในบ่อนประเทศเพื่อนบ้าน ได้สั่งให้เข้มงวดตั้งจุดตรวจบริเวณชายแดน  ห้ามไม่ให้มีการข้ามไปเล่นการพนันนอกประเทศเด็ดขาด สำหรับใครที่รู้ตัวว่าไปเล่นการพนันตามบ่อนต่าง ๆ ขอให้เข้าสู่ระบบการคัดกรองโรค เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว และสังคม ยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่ลงโทษ แต่ให้เห็นใจเจ้าหน้าที่ที่ต้องทำงานอย่างหนักและเสี่ยงต่อการติดเชื้อ” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงมาตรการของ ศบค.ที่ออกมาวานนี้ (4 ม.ค.) ว่า ทุกมาตรการได้มีการหารือกับทุกหน่วยงานอย่างรอบคอบเพื่อหาแนวทางที่ดีที่สุดให้ครอบคลุม ทั้งด้านสาธารณสุข และ เศรษฐกิจ ให้มีความเหมาะสมเข้ากับสถานการณ์ในปัจจุบัน เพราะรัฐบาลต้องดูแลประชาชนจำนวนมากไม่ให้ตื่นตระหนก พร้อมย้ำมาตราการในการแบ่งพื้นที่ว่าทุกพื้นที่จะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย ปฏิบัติตามมาตราการของกระทรวงสาธารณสุข ใช้แอปพลิเคชันไทยชนะและหมอชนะ รวมถึงประชาชนที่เดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงจะต้องกักตัวเอง

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า  สำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุด 28 จังหวัด ให้โรงเรียนใช้วิธีเรียนออนไลน์ ห้ามจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยง เช่น การประชุมสัมมนา จัดเลี้ยง เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ ปิดสถานบริการ คลับ บาร์และคาราโอเกะ ร้านอาหารจำเป็นต้องปรับตัว ต้องมีมาตรการตามมาตรฐานป้องกันโควิด โดยให้นั่งรับประทานอาหารได้ที่ร้านถึงเวลา 21.00 น. ศูนย์การค้าเปิดได้ แต่ต้องมีมาตรการอย่างเคร่งครัดเหมือนที่เคยปฏิบัติมา และสถานที่อื่นนอกจากนี้ ให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถสั่งปิดได้เพิ่มเติม นอกจากนี้ให้งดหรือชะลอเดินทางข้ามจังหวัดยกเว้นมีเหตุจำเป็น หากเดินทางต้องแสดงเหตุผลและเอกสารกับเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจ สำหรับ 5 จังหวัด ประกอบด้วย สมุทรสาคร ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และ จ.ตราด ยืนยันไม่มีการล็อกดาวน์ขณะนี้ แต่หากวันข้างหน้ายังไม่สามารถควบคุมได้ก็จำเป็นต้องล็อคดาวน์ 

 ส่วนกรณีการคัดค้านการตั้งโรงพยาบาลสนาม นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า โรงพยาบาลสนามมีความจำเป็นในการควบคุมการแพร่ระบาด หากไม่ทำก็จะเกิดปัญหา จึงขอให้ผู้คัดค้านคิดถึงส่วนรวม เพราะการใช้โรงพยาบาลปกติจะยิ่งส่งผลอันตรายต่อบุคคลทั่วไปที่ไปรับการรักษาโรคอื่น และโรงพยาบาลก็ไม่เพียงพอ


นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการจัดหาวัคซีนในระยะแรก 2,000,000 โด๊ส โดยในปลายเดือนมีนาคมจะนำเข้าประเทศได้ 80,000 โด๊ส สำหรับประชาชน 400,000คน และนำเข้าได้ในเดือนเมษายนอีก 1,000,000โด๊ส ซึ่งเพียงพอกับประชาชน 500,000คน ปลายเดือนพฤษภาคมอีก 26,000,000โด๊ส สำหรับประชาชนอีก 13,000,000 คน ซึ่งวัคซีนทั้งหมดจะต้องผ่านมาตรฐานของสำนักงานอาหารและยา หรือ อย. ของทั้งไทยและต่างประเทศ และวันนี้ ยังได้สั่งจองวัคซีนเพิ่มจากบริษัท แอสตร้า เซเนก้า อีก 35,000,000โด๊ส ทำให้รวมทั้งหมดจะได้รับวัคซีนสำหรับประชาชน 60,000,000 คน ถือว่าเพียงพอกับประชาชนทั้งหมด ประชาชนจะได้รับการฉีดวัคซีนคนละ 2 โด๊ส ภายใน 4 สัปดาห์  ทางกรมควบคุมโรคจะเป็นผู้จัดเรียงลำดับผู้ได้รับวัคซีน โดยบุคลากรทางการแพทย์ และบุคคลที่เสี่ยงใกล้ชิดผู้ป่วย ตามมาด้วยผู้สูงอายุ และผู้ป่วยเรื้อรัง  ขณะที่ภาคเอกชนและโรงพยาบาลต่าง ๆ ก็สามารถจัดหาวัคซีนได้ แต่ต้องเป็นไปตามมาตรฐานของ อย.และมีการควบคุมการใช้ ยอมรับการฉีดวัคซีนจะมีผลข้างเคียงบ้าง แต่อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ สำหรับมาตรการช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้มอบให้รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ กระทรวงการคลัง และสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หามาตรการต่าง ๆ ที่จะออกมาจากนี้ บางเรื่องจะต้องขยายเวลาในการช่วยเหลือ อย่างเช่น โครงการเราเที่ยวด้วยกัน รัฐบาลจะยืดเวลาให้อีก 1-2 เดือน ระหว่างนี้ขอให้ผู้ประกอบการอย่าเพิ่มเก็บค่าใช้จ่ายกับผู้มาใช้บริการ ขณะเดียวกันจะต้องดูแลประชาชนกว่า 40 ล้านคน จะต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก แต่ยืนยันรัฐบาลมีงบประมาณเพียงพอ นายกรัฐมนตรี ยืนยัน โครงการคนละครึ่ง ไม่มีการเก็บภาษี เพราะเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ตั้งใจช่วยเหลือประชาชน พร้อมขอความร่วมมือปัญหาโควิด 19 จะคลี่คลายได้ทุกคนจะต้องร่วมมือกัน จึงขอให้รวมไทย สร้างชาติ ร่วมต้านโควิด 19. สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด

กทม.14 ส.ค.- เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด อ้างอิงเหตุการณ์คลิปเสียง และพฤติการณ์ที่นิ่งเฉย ไม่กำหนดมาตรการหรือความชัดเจนตอบโต้กัมพูชาในช่วงปะทะ ไล่เลียงตั้งแต่กัมพูชารุกล้ำพื้นที่อธิปไตยไทย 200 เมตร จนถึงวันปล่อยคลิปเสียง 18 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในคำร้องของ 36 สว. ต่อกรณีคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา ที่ศาลนัดวินิจฉัยคำร้องในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ ซึ่งในคำร้องขอให้ศาลสั่งให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบกับมาตรา 160 (4)(5) ในเนื้อหาคำร้องอ้างอิงถึงคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน ที่มีการเอ่ยพาดพิงแม่ทัพภาคที่ 2 แม้นายกรัฐมนตรีพยายามแถลงข่าวชี้แจงกรณีคลิปเสียง แต่สมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า ข้อกล่าวอ้างดังกล่าวฟังไม่ขึ้น เพราะเมื่อมีการเผยแพร่คลิปเสียงเช่นนี้แล้ว นายกรัฐมนตรีย่อมพยายามจะต้องหาข้อแก้ตัวอย่างไรก็ได้ โดยสมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า หากนายกรัฐมนตรีมีเจตนาเจรจาเพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งและการสู้รบระหว่างประเทศเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติจริง นายกรัฐมนตรีสามารถดำเนินการตามหลักเกณฑ์ ขั้นตอน และวิธีการเจรจาทางการทูตตามหลักและมาตรฐานการดำเนินการที่ถูกต้องอย่างโปร่งใส ตามกระบวนการของกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ประการสำคัญ […]

“มาริษ” ตอบรับคำเชิญ “หวังอี้” ร่วมถก 3 ฝ่าย จีน-ไทย-กัมพูชา แก้ชายแดนสันติ

จีน 15 ส.ค.-“มาริษ” ตอบรับคำเชิญ “หวังอี้” ร่วมถก 3 ฝ่าย จีน-ไทย-กัมพูชา แก้ปัญหาชายแดนอย่างสันติ พร้อมขอบคุณที่เห็นความจำเป็นในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เห็นพ้องหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในสื่อโซเชียล นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตอบรับคำเชิญของ นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ในการเข้าร่วมจิบน้ำชาและหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศจีน ไทย และกัมพูชา ในห้วงการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ กรอบความร่วมมือแม่โขง – ล้านช้าง (Mekong – Lancang Cooperation) หรือ MLC ครั้งที่ 10 ณ เมืองอันหนิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยนายมาริษ ได้แสดงความขอบคุณต่อบทบาทที่สร้างสรรค์ของจีน ในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชาอย่างสันติ ผ่านกลไกทวิภาคีต่างๆ และการบังคับใช้ให้เกิดการดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยได้รับการสนับสนุนของอาเซียน พร้อมยังได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วน ที่ไทย-กัมพูชา ต้องร่วมมือกันในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดน ซึ่งทุกฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันถึงความจำเป็นที่จะต้องหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในสื่อโซเชียล เนื่องจากเป็นก้าวสำคัญในการลดความตึงเครียด และฟื้นฟูความเป็นปกติสุขในพื้นที่ชายแดน นอกจากนี้ นายมาริษ ยังได้กล่าวขอขอบคุณ นายหวัง อี้ […]

รวบอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์-หญิงคนสนิท ยักยอกเงินวัด

นครสวรรค์ 14 ส.ค. – ตำรวจ บก.ปปป. รวบอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์-หญิงคนสนิท หลังมีหลักฐานยักยอกเงินวัดกว่า 4.1 ล้านบาท “บิ๊กเต่า” เตรียมแถลงเย็นนี้ ตำรวจ บก.ปปป. จับกุมนายสฤษฏิ์ หรือ พระธรรมวชิรธีรคุณสฤษฏิ์ จันท์ประธาตุ อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์และเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในคดีเป็นเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มาตรา 147 และ 157 และนางสาวภูธินี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาคกลาง ในคดีเป็นผู้สนับสนุนพนักงานยักยอกทรัพย์ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฎิบัติหน้าที่ หรือละเว้นหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต มาตรา 147 157 และ 86 โดยพฤติกรรมของทั้งคู่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมปี 2568 ที่ผ่านมา อดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ ถูกกล่าวหาว่ามีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับ น.ส.ภูธินี และยักยอกเงินวัดนครสวรรค์ จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า ระหว่างวันที่ 1 มี.ค. 2567-10 ก.ค.2568 เจ้าอาวาสได้สั่งให้พระศตยา พุ่มเดช พระลูกวัด เบิกถอนเงินจากบัญชีวัดนครสวรรค์ […]

สภาถกงบฯ 69 วันที่ 2 “ปชน.” ซัดงบ ก.เกษตรฯ ไม่ตอบโจทย์

รัฐสภา 14 ส.ค.- สภาฯ ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 วันที่ 2 “สส.ปชน.” ซัดงบ ก.เกษตรฯ ไม่ตอบโจทย์คนไทย ดูดีบนกระดาษ แต่ใช้ในชีวิตจริงของเกษตรกรไม่ได้ ข้องใจ ทำไมต้องทำโครงการตลาดกลางที่พะเยา ทั้งที่มูลค่าส่งออกแพ้เชียงราย-น่าน เสี่ยงผูกขาด หรือเป็นเหตุผลทางการเมือง ฉะ “ล้งแห่งชาติ” ของ อ.ต.ก. ล้มเหลวตั้งแต่ยังไม่เริ่ม การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วาระ 2 – 3 เป็นวันที่ 2 โดยพิจารณามาตรา 14 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานในกำกับ โดยนายวิทวิสิทธิ์ ปันสวนปลูก สส.ลำพูน พรรคประชาชน อภิปรายงบประมาณในส่วนขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร(อ.ต.ก.) ว่า มีสองโครงการที่ไม่ตอบโจทย์ให้กับคนไทยทั้งประเทศ และเสี่ยงต่อการใช้เงินภาษีอย่างไม่คุ้มค่า เสี่ยงต่อการล้มเหลวของโครงการ ได้แก่โครงการตลาดกลางที่ จ.พะเยา […]