นายกฯ ยันเอาจริงคนอยู่เบื้องหลังบ่อน

ทำเนียบ 5 ม.ค.- นายกฯ ยืนยันไม่ลงโทษผู้ลักลอบเล่นพนันในบ่อน  แต่ขอให้เข้าคัดกรองโรค ย้ำเอาจริง ตั้ง กก.สอบเอาผิดเบื้องหลังบ่อน วอนชะลอเดินทางข้าม 5 จังหวัดเสี่ยง ให้ความมั่นใจเดือนพฤษภาคม ไทยจะมีวัคซีน 60 ล้านโดส เพียงพอกับประชาชน


 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ ของเพจไทยคู่ฟ้าว่า รัฐบาลจะจริงจังกับการกำจัดขบวนการบ่อนการพนัน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเข้มงวดมากที่สุดในทุกพื้นที่ แม้ที่ผ่านมาประชาชนจำนวนมากยังนิยมเล่นการพนัน เรื่องที่เกิดขึ้นจึงไม่สามารถกล่าวโทษประชาชนเพียงฝ่ายเดียวได้ แต่เป็นหน้าที่ของประชาชนและเจ้าหน้าที่ต้องร่วมมือกันในการขจัดพื้นที่ที่เป็นบ่อเกิดของการแพร่ระบาดโควิด 19 พร้อมกำชับไปยังเจ้าหน้าที่ว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ โดยได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาติดตามให้เห็นเป็นรูปธรรม ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เพื่อดำเนินคดีกับความผิดเฉพาะหน้าเมื่อมีการจำกุม และในส่วนที่ยังจับกุมไม่ได้ จะต้องติดตามนายทุนที่อยู่เบื้องหลัง ผู้อำนวยความสะดวก และเจ้าหน้าที่ที่ละเว้น ปล่อยปละละเลย

“คนเหล่านี้จะต้องถูกลงโทษจากกฎหมายทุกฉบับที่มีอยู่โดยไม่มีการละเว้น สิ่งสำคัญคือการตรวจสอบบุคคลที่ไปลักลอบเล่นการพนันในบ่อนประเทศเพื่อนบ้าน ได้สั่งให้เข้มงวดตั้งจุดตรวจบริเวณชายแดน  ห้ามไม่ให้มีการข้ามไปเล่นการพนันนอกประเทศเด็ดขาด สำหรับใครที่รู้ตัวว่าไปเล่นการพนันตามบ่อนต่าง ๆ ขอให้เข้าสู่ระบบการคัดกรองโรค เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว และสังคม ยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่ลงโทษ แต่ให้เห็นใจเจ้าหน้าที่ที่ต้องทำงานอย่างหนักและเสี่ยงต่อการติดเชื้อ” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงมาตรการของ ศบค.ที่ออกมาวานนี้ (4 ม.ค.) ว่า ทุกมาตรการได้มีการหารือกับทุกหน่วยงานอย่างรอบคอบเพื่อหาแนวทางที่ดีที่สุดให้ครอบคลุม ทั้งด้านสาธารณสุข และ เศรษฐกิจ ให้มีความเหมาะสมเข้ากับสถานการณ์ในปัจจุบัน เพราะรัฐบาลต้องดูแลประชาชนจำนวนมากไม่ให้ตื่นตระหนก พร้อมย้ำมาตราการในการแบ่งพื้นที่ว่าทุกพื้นที่จะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย ปฏิบัติตามมาตราการของกระทรวงสาธารณสุข ใช้แอปพลิเคชันไทยชนะและหมอชนะ รวมถึงประชาชนที่เดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงจะต้องกักตัวเอง

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า  สำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุด 28 จังหวัด ให้โรงเรียนใช้วิธีเรียนออนไลน์ ห้ามจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยง เช่น การประชุมสัมมนา จัดเลี้ยง เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ ปิดสถานบริการ คลับ บาร์และคาราโอเกะ ร้านอาหารจำเป็นต้องปรับตัว ต้องมีมาตรการตามมาตรฐานป้องกันโควิด โดยให้นั่งรับประทานอาหารได้ที่ร้านถึงเวลา 21.00 น. ศูนย์การค้าเปิดได้ แต่ต้องมีมาตรการอย่างเคร่งครัดเหมือนที่เคยปฏิบัติมา และสถานที่อื่นนอกจากนี้ ให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถสั่งปิดได้เพิ่มเติม นอกจากนี้ให้งดหรือชะลอเดินทางข้ามจังหวัดยกเว้นมีเหตุจำเป็น หากเดินทางต้องแสดงเหตุผลและเอกสารกับเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจ สำหรับ 5 จังหวัด ประกอบด้วย สมุทรสาคร ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และ จ.ตราด ยืนยันไม่มีการล็อกดาวน์ขณะนี้ แต่หากวันข้างหน้ายังไม่สามารถควบคุมได้ก็จำเป็นต้องล็อคดาวน์ 

 ส่วนกรณีการคัดค้านการตั้งโรงพยาบาลสนาม นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า โรงพยาบาลสนามมีความจำเป็นในการควบคุมการแพร่ระบาด หากไม่ทำก็จะเกิดปัญหา จึงขอให้ผู้คัดค้านคิดถึงส่วนรวม เพราะการใช้โรงพยาบาลปกติจะยิ่งส่งผลอันตรายต่อบุคคลทั่วไปที่ไปรับการรักษาโรคอื่น และโรงพยาบาลก็ไม่เพียงพอ


นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการจัดหาวัคซีนในระยะแรก 2,000,000 โด๊ส โดยในปลายเดือนมีนาคมจะนำเข้าประเทศได้ 80,000 โด๊ส สำหรับประชาชน 400,000คน และนำเข้าได้ในเดือนเมษายนอีก 1,000,000โด๊ส ซึ่งเพียงพอกับประชาชน 500,000คน ปลายเดือนพฤษภาคมอีก 26,000,000โด๊ส สำหรับประชาชนอีก 13,000,000 คน ซึ่งวัคซีนทั้งหมดจะต้องผ่านมาตรฐานของสำนักงานอาหารและยา หรือ อย. ของทั้งไทยและต่างประเทศ และวันนี้ ยังได้สั่งจองวัคซีนเพิ่มจากบริษัท แอสตร้า เซเนก้า อีก 35,000,000โด๊ส ทำให้รวมทั้งหมดจะได้รับวัคซีนสำหรับประชาชน 60,000,000 คน ถือว่าเพียงพอกับประชาชนทั้งหมด ประชาชนจะได้รับการฉีดวัคซีนคนละ 2 โด๊ส ภายใน 4 สัปดาห์  ทางกรมควบคุมโรคจะเป็นผู้จัดเรียงลำดับผู้ได้รับวัคซีน โดยบุคลากรทางการแพทย์ และบุคคลที่เสี่ยงใกล้ชิดผู้ป่วย ตามมาด้วยผู้สูงอายุ และผู้ป่วยเรื้อรัง  ขณะที่ภาคเอกชนและโรงพยาบาลต่าง ๆ ก็สามารถจัดหาวัคซีนได้ แต่ต้องเป็นไปตามมาตรฐานของ อย.และมีการควบคุมการใช้ ยอมรับการฉีดวัคซีนจะมีผลข้างเคียงบ้าง แต่อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ สำหรับมาตรการช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้มอบให้รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ กระทรวงการคลัง และสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หามาตรการต่าง ๆ ที่จะออกมาจากนี้ บางเรื่องจะต้องขยายเวลาในการช่วยเหลือ อย่างเช่น โครงการเราเที่ยวด้วยกัน รัฐบาลจะยืดเวลาให้อีก 1-2 เดือน ระหว่างนี้ขอให้ผู้ประกอบการอย่าเพิ่มเก็บค่าใช้จ่ายกับผู้มาใช้บริการ ขณะเดียวกันจะต้องดูแลประชาชนกว่า 40 ล้านคน จะต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก แต่ยืนยันรัฐบาลมีงบประมาณเพียงพอ นายกรัฐมนตรี ยืนยัน โครงการคนละครึ่ง ไม่มีการเก็บภาษี เพราะเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ตั้งใจช่วยเหลือประชาชน พร้อมขอความร่วมมือปัญหาโควิด 19 จะคลี่คลายได้ทุกคนจะต้องร่วมมือกัน จึงขอให้รวมไทย สร้างชาติ ร่วมต้านโควิด 19. สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปลัด ศธ. แจง “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง

กทม. 21 ก.ค.-ปลัด ศธ. แจงภารกิจแรก “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง กำชับ “ครู-นักเรียน” วันหยุดใส่ไปรเวทได้ ไม่ต้องแต่งชุดเต็มยศมารอต้อนรับ ขอลงพื้นที่ไม่ให้ใครลำบาก จากกรณี ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 18-20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีการแต่งกายใส่กางเกงยีนส์ขาด รองเท้าผ้าใบ พบปะบุคลากรการศึกษา ครูและนักเรียน ที่มารอต้อนรับ เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียล การแต่งกายไม่เหมาะสมกับบทบาทของผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงศึกษาธิการ และไม่สอดคล้องกับมาตรฐานการแต่งกายของข้าราชการโดยทั่วไป นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกระแสวิจารณ์การแต่งกายของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ การลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานีระหว่างวันที่ 18 – 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่า ถือเป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกตั้งแต่ ศ.ดร.นฤมล มารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้ยังไม่ได้มีการพูดคุยและทำความเข้าใจในเรื่องการแต่งกายของคณะครูและนักเรียนที่มาร่วมกิจกรรมในวันหยุดราชการ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาด้วยชุดสุภาพ เพราะเห็นว่ามีผู้บริหารระดับสูง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชามาร่วมลงพื้นที่ด้วย ศ.ดร.นฤมล ได้กำชับมาว่าการลงพื้นที่ในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ถือว่าไม่ได้เป็นวันทำงานปกติ […]

สึกแล้ว! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์

20 ก.ค.- สึกกลางดึก! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้วที่วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เผยได้รับรายงานจาก ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครสวรรค์ ว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้ว ณ พระอุโบสถ วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เวลา 23.49 น.” ขณะที่ก่อนหน้านี้ เลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ได้แจ้งว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ” ขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสวรรค์และเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ -สำนักข่าวไทย

Astronomer CEO caught by kiss cam in Coldplay concert

CEO ลาออกหลังถูกแฉกลางคอนเสิร์ต Coldplay

ซินซินแนติ 20 ก.ค. – บริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐแจ้งเรื่องซีอีโอลาออกแล้ว หลังจากช่วงเวลาขณะกอดกับผู้บริหารของบริษัทที่ไม่ใช่ภรรยาถูกจับภาพไปปรากฏบนจอภาพกลางคอนเสิร์ตวงโคลด์เพลย์ (Coldplay) และกลายเป็นคลิปไวรัลทั่วโลก แอสโตรโนเมอร์ (Astronomer) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีผู้ให้บริการข้อมูลองค์กรเผยแพร่แถลงการณ์ผ่านเอ็กซ์ ( X) ว่า บริษัทยึดมั่นในคุณค่าและวัฒนธรรมที่นำทางองค์กรมาตั้งแต่ก่อตั้ง ผู้นำบริษัทถูกคาดหวังว่าจะต้องสร้างมาตรฐานด้านจริยธรรมและความรับผิดชอบ แต่เมื่อไม่นานมานี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น นายแอนดี บายรอน ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของบริษัท และคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้ลาออกแล้ว แถลงการณ์ให้คำมั่นว่า บริษัทจะเดินหน้าทำในสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด คือ การให้บริการแก้ปัญหาข้อมูลและเอไอ (AI) ให้แก่ลูกค้าต่อไป เรื่องราวอื้อฉาวนี้เกิดขึ้นในคอนเสิร์ตวง Coldplay ที่สนามยิลเลตต์สเตเดียม ในเมืองฟอกซ์โบโร รัฐแมสซาชูเสตต์เมื่อคืนวันที่ 16 กรกฎาคม เมื่อกล้องคิสแคม (kiss cam) ของคอนเสิร์ตจับภาพเจอชายหญิงคู่หนึ่งยืนกอดกันในโซนวีไอพี ซึ่งชายหญิงคู่นี้ไม่ใช่คู่รักธรรมดา แต่เป็นนายบายรอน ซีอีโอของแอสโตรโนเมอร์ และคริสติน คาบอต หัวหน้าฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคลหรือเอชอาร์ (HR) ของบริษัท เมื่อรู้ตัวว่าภาพถูกฉายขึ้นจอ ฝ่ายหญิงรีบเอามือปิดหน้าและหันหลังให้กล้อง ส่วนฝ่ายชายรีบนั่งลงให้พ้นจากมุมกล้อง ในจังหวะเดียวกันนั้น คริส มาร์ติน นักร้องนำของวง Coldplay ได้พูดแซวว่า […]

Hong Kong braves heavy rain and strong winds as typhoon Wipha approaches

ฮ่องกงเตือนภัย “ไต้ฝุ่นวิภา” ระดับสูงสุด

ฮ่องกง 20 ก.ค.- ฮ่องกงประกาศเตือนภัยระดับสูงสุดในวันนี้ เนื่องจากไต้ฝุ่นวิภา (Wipha) ที่มีความเร็วลมมากกว่า 167 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรงทั่วฮ่องกง และทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 200 เที่ยว สถานีอุตนิยมวิทยาของฮ่องกงยกระดับเตือนภัยพายุ จากหมายเลข 9 ที่ประกาศเมื่อเวลา 07.20 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง เป็นหมายเลข 10 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อเวลา 09.20 น. และคาดว่าจะคงระดับเตือนภัยสูงสุดไปอีกระยะหนึ่ง สถานีอุตุนิยมวิทยาฮ่องกงพยากรณ์ว่า ไต้ฝุ่นซึ่งมีกำลังลมแรงเท่ากับเฮอริเคนจะเคลื่อนตัวเฉียดสถานีฯ โดยห่างลงไปทางใต้ราว 50 กิโลเมตร และส่งผลกระทบกับพื้นที่ทางใต้ของฮ่องกง สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคของฮ่องกงได้ยกเลิกเที่ยวบินขาเข้าและขาออกทั้งหมดตั้งแต่เวลา 05.00-18.00 น.วันนี้ ขณะที่บริการขนส่งมวลชนส่วนใหญ่ในฮ่องกง รวมถึงบริการเรือโดยสารข้ามฟากถูกระงับเพื่อความปลอดภัย.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ศาลทหารชั้นฎีกา พิพากษารอลงอาญา 2 ปี จำเลยคดี “น้องเมย”

22 ก.ค. – 8 ปีที่รอคอย “คดีน้องเมย” นักเรียนเตรียมทหารปี 1 เสียชีวิต ศาลทหารชั้นฎีกา พิพากษาจำคุก 4 เดือน 16 วัน รอลงอาญา 2 ปี จำเลยไม่เคยได้รับโทษ ลงโทษไปไม่เป็นประโยชน์ ให้ปรับปรุงตัวรับราชการรับใช้ชาติต่อไปจะเป็นประโยชน์มากกว่า คดี “น้องเมย” นักเรียนเตรียมทหาร เสียชีวิตปริศนาเมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2560 ขณะศึกษาอยู่ในโรงเรียนเตรียมทหาร ใบมรณบัตรระบุเพียงว่าเกิดจาก “ภาวะหัวใจล้มแล้วเฉียบพลัน” ขณะที่คนในครอบครัวตัญกาญจน์ ยืนยันว่าเป็นการเสียชีวิตที่ผิดปกติ จนนำมาสู่การส่งร่างผ่าพิสูจน์รอบ 2 ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม หลังผลการผ่าพิสูจน์ในรอบแรกของสถาบันพยาธิวิทยา โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า สร้างความคลางแคลงใจให้เป็นอย่างมาก กระทั่งผลการผ่าพิสูจน์รอบ 2 พบว่าสมอง ปอด และอวัยวะสำคัญหลายส่วนหายไป นอกจากนี้ยังพบรอยช้ำตามร่างกายหลายแห่ง ซึ่งจนถึงวันนี้ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน แต่ทางครอบครัวยังคงเดินหน้าฟ้องร้องผู้ที่เกี่ยวข้องในหลายคดี ด้วยหวังที่จะเรียกร้องความยุติธรรมให้กับน้องเมย ด้านการดำเนินคดีอาญานั้นแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ การดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดในช่วงแรก คือวันที่ 23 […]

“แพทองธาร” เปิดเวทีดินเนอร์พรรคร่วม เชื่อมีโอกาสกลับมารับใช้ ปชช.-สถาบัน

พญาไท 22 ก.ค.- “แพทองธาร” เปิดเวทีดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาล ขอบคุณตลอด 1 ปี หนุนในฐานะนายกฯ มั่นใจเอกภาพรัฐบาลผ่านพ้นทุกอย่างไปได้ บอกแม้ไม่ได้อยู่ในฐานะนายกฯ แต่ไม่เคยวางภาระสักวัน ยืนยันเจตนาบริสุทธิ์ เชื่อมีโอกาสกลับมารับใช้ประชาชน – สถาบัน พรรคร่วมรัฐบาลนัดรับประทานอาหารค่ำร่วมกัน โดยมีพรรคเพื่อไทย เป็นเจ้าภาพจัดงานภายใต้ชื่อ “สามัคคีประเทศไทย ปกป้องอธิปไตย แก้ปัญหาเพื่อประชาชน” ซึ่งมีทั้งรัฐมนตรี แกนนำพรรค สส.และข้าราชการการเมืองพรรคร่วมรัฐบาล เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง โดยมีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาบรรยายพิเศษด้วย สำหรับบรรยากาศภายในห้องจัดเลี้ยง ได้มีการจัดโต๊ะอาหาร โดยแบ่งเป็นโต๊ะยาว หรือ Long Tableขนาดใหญ่สำหรับรัฐมนตรี นั่งร่วมกับบรรดาหัวหน้าและแกนนำระดับสูงพรรคร่วมรัฐบาล จำนวน 2 โต๊ะ ส่วนที่เหลือเป็นโต๊ะกลมสำหรับ สส.พรรคร่วมรัฐบาล โดยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นั่งร่วมโต๊ะกับ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ,นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี […]

จ.น่าน เมืองหน้าด่าน พร้อมรับ “พายุวิภา”

น่าน 22 ก.ค. – พายุวิภาเริ่มอ่อนกำลังลง แต่เคลื่อนเข้าใกล้ไทยมากขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มทำให้หลายพื้นที่ภาคเหนือมีฝนตกต่อเนื่อง โดยเฉพาะ จ.น่าน เป็นเหมือนด่านหน้ารับพายุวิภา ชาวบ้านเตรียมพร้อมรับมือ กลางเมืองน่าน ซึ่งฝนยังคงตกต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงบ่ายจากฤทธิ์ของพายุวิภาที่เคลื่อนตัวมาใกล้เรื่อยๆ หลังขึ้นฝั่งเวียดนามและเคลื่อนตัวเข้าลาว ซึ่ง จ.น่าน อยู่ห่างจากเวียงจันทน์ ไม่ถึง 400 กิโลเมตร และรัศมีของพายุจะทำให้ฝนตกต่อเนื่องไปอีก 1-2 วัน ทำให้ชาวน่านต้องเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ขั้นสูงสุด ตอนนี้ตามบ้านเรือน อาคารร้านค้าในตัวเมืองน่าน เต็มไปด้วยแนวกระสอบทรายถูกวางไว้เพื่อกันน้ำท่วม ซึ่งหลายคนกังวลว่าจะเกิดน้ำท่วมใหญ่จากฝนที่ตกต่อเนื่อง ขณะที่ระดับน้ำน่านที่ไหลผ่านตัวเมืองน่าน ตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 4 เมตรกว่า ห่างจากจุดวิกฤติที่ 7 เมตร แต่ถ้ารวมพนังกั้นน้ำจะกันน้ำได้สูงสุด 8 เมตร 50 เซนติเมตร นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ลงพื้นที่ตรวจจุดเสี่ยงที่น้ำจะทะลักเข้ามา พร้อมบอกว่าตอนนี้ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ เนื่องจากพายุวิภาทำให้ฝนตกครอบคลุมทั้ง 15 อำเภอ โดยเฉพาะ อ.ท่าวังผา ที่คาดว่าจะเป็นศูนย์กลาง คาดว่าฝนจะตกต่อเนื่อง โดยจุดพีคน่าจะอยู่ช่วงคืนวันที่ 23 กรกฎาคมนี้ […]

ดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลเริ่มแล้ว “ทักษิณ” จ่อบรรยายพิเศษ

พญาไท 22 ก.ค.- เริ่มแล้ว ดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาล “ทักษิณ” ร่วมวง เตรียมบรรยายพิเศษ เผยมาคุยเรื่องการเมือง ขณะแกนนำพรรคร่วมมางานพร้อมเพรียง พรรคร่วมรัฐบาลจัดงานเลี้ยงรับประทานอาหารค่ำ ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท เพื่อกระชับความสัมพันธ์ หลังปรับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ภายหลังพรรคภูมิใจไทย ถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาล และเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งพบปัญหาเรื่ององค์ประชุม โดยถือว่าเป็นครั้งเเรกที่ได้เชิญสส.ของแต่ละพรรคร่วมฯ เข้าร่วมงานเลี้ยงด้วยในรัฐบาลของ นางสาวเเพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งก่อนหน้านี้จัดไปแล้วหนึ่งครั้ง ในสมัยของ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี โดยงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาลในครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยเป็นเจ้าภาพจัดงาน ภายใต้ชื่อ “สามัคคีประเทศไทย ปกป้องอธิปไตย แก้ปัญหาเพื่อประชาชน” ได้เชิญ บรรดารัฐมนตรี หัวหน้าพรรค แกนนำ และสส. ของพรรคร่วมรัฐบาล เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง ขณะที่ไฮไลท์วันนี้ มีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาร่วมบรรยายพิเศษ ด้วย ขณะที่ในเวลาประมาณ 17.00 น. บรรดาแกนนำเพื่อไทย และสส.เดินทางเข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง […]