นายกฯ ยันเอาจริงคนอยู่เบื้องหลังบ่อน

ทำเนียบ 5 ม.ค.- นายกฯ ยืนยันไม่ลงโทษผู้ลักลอบเล่นพนันในบ่อน  แต่ขอให้เข้าคัดกรองโรค ย้ำเอาจริง ตั้ง กก.สอบเอาผิดเบื้องหลังบ่อน วอนชะลอเดินทางข้าม 5 จังหวัดเสี่ยง ให้ความมั่นใจเดือนพฤษภาคม ไทยจะมีวัคซีน 60 ล้านโดส เพียงพอกับประชาชน


 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ ของเพจไทยคู่ฟ้าว่า รัฐบาลจะจริงจังกับการกำจัดขบวนการบ่อนการพนัน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเข้มงวดมากที่สุดในทุกพื้นที่ แม้ที่ผ่านมาประชาชนจำนวนมากยังนิยมเล่นการพนัน เรื่องที่เกิดขึ้นจึงไม่สามารถกล่าวโทษประชาชนเพียงฝ่ายเดียวได้ แต่เป็นหน้าที่ของประชาชนและเจ้าหน้าที่ต้องร่วมมือกันในการขจัดพื้นที่ที่เป็นบ่อเกิดของการแพร่ระบาดโควิด 19 พร้อมกำชับไปยังเจ้าหน้าที่ว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ โดยได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาติดตามให้เห็นเป็นรูปธรรม ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เพื่อดำเนินคดีกับความผิดเฉพาะหน้าเมื่อมีการจำกุม และในส่วนที่ยังจับกุมไม่ได้ จะต้องติดตามนายทุนที่อยู่เบื้องหลัง ผู้อำนวยความสะดวก และเจ้าหน้าที่ที่ละเว้น ปล่อยปละละเลย

“คนเหล่านี้จะต้องถูกลงโทษจากกฎหมายทุกฉบับที่มีอยู่โดยไม่มีการละเว้น สิ่งสำคัญคือการตรวจสอบบุคคลที่ไปลักลอบเล่นการพนันในบ่อนประเทศเพื่อนบ้าน ได้สั่งให้เข้มงวดตั้งจุดตรวจบริเวณชายแดน  ห้ามไม่ให้มีการข้ามไปเล่นการพนันนอกประเทศเด็ดขาด สำหรับใครที่รู้ตัวว่าไปเล่นการพนันตามบ่อนต่าง ๆ ขอให้เข้าสู่ระบบการคัดกรองโรค เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว และสังคม ยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่ลงโทษ แต่ให้เห็นใจเจ้าหน้าที่ที่ต้องทำงานอย่างหนักและเสี่ยงต่อการติดเชื้อ” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงมาตรการของ ศบค.ที่ออกมาวานนี้ (4 ม.ค.) ว่า ทุกมาตรการได้มีการหารือกับทุกหน่วยงานอย่างรอบคอบเพื่อหาแนวทางที่ดีที่สุดให้ครอบคลุม ทั้งด้านสาธารณสุข และ เศรษฐกิจ ให้มีความเหมาะสมเข้ากับสถานการณ์ในปัจจุบัน เพราะรัฐบาลต้องดูแลประชาชนจำนวนมากไม่ให้ตื่นตระหนก พร้อมย้ำมาตราการในการแบ่งพื้นที่ว่าทุกพื้นที่จะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย ปฏิบัติตามมาตราการของกระทรวงสาธารณสุข ใช้แอปพลิเคชันไทยชนะและหมอชนะ รวมถึงประชาชนที่เดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงจะต้องกักตัวเอง

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า  สำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุด 28 จังหวัด ให้โรงเรียนใช้วิธีเรียนออนไลน์ ห้ามจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยง เช่น การประชุมสัมมนา จัดเลี้ยง เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ ปิดสถานบริการ คลับ บาร์และคาราโอเกะ ร้านอาหารจำเป็นต้องปรับตัว ต้องมีมาตรการตามมาตรฐานป้องกันโควิด โดยให้นั่งรับประทานอาหารได้ที่ร้านถึงเวลา 21.00 น. ศูนย์การค้าเปิดได้ แต่ต้องมีมาตรการอย่างเคร่งครัดเหมือนที่เคยปฏิบัติมา และสถานที่อื่นนอกจากนี้ ให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถสั่งปิดได้เพิ่มเติม นอกจากนี้ให้งดหรือชะลอเดินทางข้ามจังหวัดยกเว้นมีเหตุจำเป็น หากเดินทางต้องแสดงเหตุผลและเอกสารกับเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจ สำหรับ 5 จังหวัด ประกอบด้วย สมุทรสาคร ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และ จ.ตราด ยืนยันไม่มีการล็อกดาวน์ขณะนี้ แต่หากวันข้างหน้ายังไม่สามารถควบคุมได้ก็จำเป็นต้องล็อคดาวน์ 

 ส่วนกรณีการคัดค้านการตั้งโรงพยาบาลสนาม นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า โรงพยาบาลสนามมีความจำเป็นในการควบคุมการแพร่ระบาด หากไม่ทำก็จะเกิดปัญหา จึงขอให้ผู้คัดค้านคิดถึงส่วนรวม เพราะการใช้โรงพยาบาลปกติจะยิ่งส่งผลอันตรายต่อบุคคลทั่วไปที่ไปรับการรักษาโรคอื่น และโรงพยาบาลก็ไม่เพียงพอ


นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการจัดหาวัคซีนในระยะแรก 2,000,000 โด๊ส โดยในปลายเดือนมีนาคมจะนำเข้าประเทศได้ 80,000 โด๊ส สำหรับประชาชน 400,000คน และนำเข้าได้ในเดือนเมษายนอีก 1,000,000โด๊ส ซึ่งเพียงพอกับประชาชน 500,000คน ปลายเดือนพฤษภาคมอีก 26,000,000โด๊ส สำหรับประชาชนอีก 13,000,000 คน ซึ่งวัคซีนทั้งหมดจะต้องผ่านมาตรฐานของสำนักงานอาหารและยา หรือ อย. ของทั้งไทยและต่างประเทศ และวันนี้ ยังได้สั่งจองวัคซีนเพิ่มจากบริษัท แอสตร้า เซเนก้า อีก 35,000,000โด๊ส ทำให้รวมทั้งหมดจะได้รับวัคซีนสำหรับประชาชน 60,000,000 คน ถือว่าเพียงพอกับประชาชนทั้งหมด ประชาชนจะได้รับการฉีดวัคซีนคนละ 2 โด๊ส ภายใน 4 สัปดาห์  ทางกรมควบคุมโรคจะเป็นผู้จัดเรียงลำดับผู้ได้รับวัคซีน โดยบุคลากรทางการแพทย์ และบุคคลที่เสี่ยงใกล้ชิดผู้ป่วย ตามมาด้วยผู้สูงอายุ และผู้ป่วยเรื้อรัง  ขณะที่ภาคเอกชนและโรงพยาบาลต่าง ๆ ก็สามารถจัดหาวัคซีนได้ แต่ต้องเป็นไปตามมาตรฐานของ อย.และมีการควบคุมการใช้ ยอมรับการฉีดวัคซีนจะมีผลข้างเคียงบ้าง แต่อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ สำหรับมาตรการช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้มอบให้รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ กระทรวงการคลัง และสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หามาตรการต่าง ๆ ที่จะออกมาจากนี้ บางเรื่องจะต้องขยายเวลาในการช่วยเหลือ อย่างเช่น โครงการเราเที่ยวด้วยกัน รัฐบาลจะยืดเวลาให้อีก 1-2 เดือน ระหว่างนี้ขอให้ผู้ประกอบการอย่าเพิ่มเก็บค่าใช้จ่ายกับผู้มาใช้บริการ ขณะเดียวกันจะต้องดูแลประชาชนกว่า 40 ล้านคน จะต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก แต่ยืนยันรัฐบาลมีงบประมาณเพียงพอ นายกรัฐมนตรี ยืนยัน โครงการคนละครึ่ง ไม่มีการเก็บภาษี เพราะเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ตั้งใจช่วยเหลือประชาชน พร้อมขอความร่วมมือปัญหาโควิด 19 จะคลี่คลายได้ทุกคนจะต้องร่วมมือกัน จึงขอให้รวมไทย สร้างชาติ ร่วมต้านโควิด 19. สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เร่งหาสาเหตุ จนท.สวนสัตว์ลงจากรถ ก่อนถูกสิงโตรุมขย้ำ

10 ก.ย. – เหตุสลด จนท.สวนสัตว์เอกชนแห่งหนึ่งถูกสิงโตรุมขย้ำจนเสียชีวิต ขณะลงจากรถ ทางสวนสัตว์เร่งหาสาเหตุลงไปทำไม ทั้งที่เจ้าตัวทราบกฎของสวนสัตว์ดีอยู่แล้ว นักท่องเที่ยวอินเดียบันทึกเหตุการณ์ขณะเจ้าหน้าที่สวนสัตว์เอกชนแห่งหนึ่งลงจากรถ ก่อนถูกสิงโตตัวแรกเข้ามากัดจากทางด้านหลัง แล้วลากไปให้เพื่อนสิงโตอีก 4 ตัว รุมขย้ำ โดยในคลิปเจ้าหน้าที่ไม่ได้ดิ้นขัดขืน และไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือ ก่อนนอนแน่นิ่งและถูกรุมกัดจนเสียชีวิต ขณะที่ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์สิงโตรุมขย้ำเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่ง ซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์ และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างนอกรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูรถทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้าเข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนรู้สึกแปลกใจอย่างมาก แต่เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาข้างหลัง ก่อนตะครุบเข้าทางด้านหลังเจ้าหน้าที่ทันที โดยเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าทีขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้นสิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ […]

เร่งซ่อมพนังกั้นน้ำยังขาดให้เสร็จภายในคืนนี้

ร้อยเอ็ด 10 ก.ย. – เจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมถนนสายบ้านทรายมูล-โพธิ์ตาก ซึ่งเสมือนพนังกั้นน้ำยัง หลังถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนขาด เมื่อช่วงเช้าวานนี้ โดยต้องปรับแผนนำเสาไฟฟ้ามาวางขวางเป็นแนวบิ๊กแบ็ก เพื่อให้แล้วเสร็จภายในคืนนี้. – สำนักข่าวไทย

ส่องสาเหตุรถชนโครมเดียว เสาไฟฟ้าล้ม 77 ต้น

เชียงใหม่ 10 ก.ย. – อุบัติเหตุรถบรรทุกน้ำดื่มแหกโค้งพุ่งชนเสาไฟฟ้าที่ จ.เชียงใหม่ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย สร้างความเสียหายหนัก เสาไฟฟ้าล้มกว่า 70 ต้น บ้านเรือนเสียหาย 20 หลัง สาเหตุเกิดจากอะไร. – สำนักข่าวไทย

“ศุภจี” เปิดใจครั้งแรก จะทุ่มเททำงานระยะสั้นให้เกิดประโยชน์

พรรคภูมิใจไทย 10 ก.ย.-“ศุภจี” เปิดใจครั้งแรก ขอนำประสบการณ์ที่มีทั้งหมด ทุ่มเททำงานระยะสั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุด ขอบคุณเสียงชื่นชม-ความคาดหวัง เป็นกำลังใจทำงาน รับทำไม่ได้ทุกเรื่อง แต่จะเลือกทำสิ่งที่เกิดผลอย่างดีที่สุด นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเปิดใจถึงความมุ่งมั่นที่เข้ามารับตำแหน่งในครั้งนี้ว่า ตนมีความตั้งใจเหมือนนายกฯ พูดไปแล้วว่า ระยะเวลาสั้นๆ นี้ เป็นระยะเวลาที่มีความท้าทาย และมีความสำคัญมาก ประเทศเราต้องเดินไปข้างหน้า ไม่ว่าจะระยะเวลาสั้นแค่ไหน “ดิฉันในฐานะที่มีโอกาสได้ทำงานมาหลากหลาย รวมถึงงานระหว่างประเทศด้วย ตั้งใจจะนำเอาประสบการณ์ ความสามารถที่มีอยู่ทั้งหมด มาทุ่มเทให้ในระยะเวลาสั้นๆ นี้ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งมีธงเดียวกับนายกฯ คือ ทำประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศชาติและพี่น้องประชาชนให้ได้อย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ” นางศุภจี กล่าว เมื่อถามว่า สังคมชื่นชมและคาดหวังผลงานต่อจากนี้ นางศุภจี กล่าวว่า ขอบคุณที่ได้รับการชื่นชม และได้รับการคาดหวัง ถือเป็นกำลังใจที่ดีอย่างยิ่ง และจะยิ่งเป็นกำลังใจที่ทำให้ทุกคนไม่ผิดหวัง ดังนั้นก็จะประสานมือกับทีมงานทุกคนภายใต้นโยบายของนายกฯ และนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ ทำเรื่องเศรษฐกิจของประเทศไทยให้กลับมาให้ได้ ภายในระยะเวลาอันสั้น เมื่อถามว่า ถือเป็นการบ้านที่หนักหรือไม่ เพราะเข้ามาในช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศเป็นแบบนี้ นางศุภจี กล่าวว่า […]