“พิชัย” คาดเศรษฐกิจปี 64 ยากลำบาก-เสื่อมถอย

กทม. 3 ม.ค. -“พิชัย” คาดการณ์เศรษฐกิจปี 2564 “ยากลำบากและเสื่อมถอยหนัก” ชี้ไทยต้องการผู้นำที่ทันโลก แนะพัฒนากรอบคิดก่อนไทยตกยุคไปไกล

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า การคาดการณ์เศรษฐกิจในปี 2564 น่าเป็นห่วงว่าเศรษฐกิจไทยจะยิ่งย่ำแย่เสื่อมถอยกว่าปีที่แล้วที่ว่าแย่แล้ว ทั้งนี้เพราะสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิดระลอกใหม่ตั้งแต่ปลายปีที่แล้วมาถึงปีนี้ได้เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น รัฐบาลได้ประกาศล็อกดาวน์ในพื้นที่กรุงเทพและอีก 8 จังหวัด และอาจจะต้องล็อกดาวน์เพิ่มขึ้นอีกมาก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างรุนแรง และไม่แน่ใจว่าจะสิ้นสุดเมื่อไหร่ ถ้าหากยาวนานและหากไวรัสเกิดกลายพันธ์ุก็จะย่ิงสร้างความลำบากให้กับประชาชนมากขึ้น และอาจส่งผลกระทบที่คาดกันว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นได้บ้างในปีนี้ก็อาจจะไม่ฟื้นเลยก็เป็นได้


ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้คาดกันว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้อาจจะฟื้นตัวเป็นบวกได้บ้างประมาณ 3-3.5% ซึ่งก็ยังไม่ดีนัก เพราะยังฟื้นได้ประมาณครึ่งหนึ่งของที่เศรษฐกิจติดลบไปในปีที่แล้ว แต่ถึงกระนั้นความรู้สึกของประชาชนจะไม่รู้สึกว่าฟื้นเลย ทั้งนี้เพราะเศรษฐกิจได้ย่ำแย่มาเป็นเวลานานแล้ว แต่พอมาเจอการระบาดระลอกใหม่และทำท่าจะร้ายแรงและแพร่กระจายไปมากกว่าครั้งแรก ผลกระทบจะยิ่งทำให้เศรษฐกิจยิ่งย่ำแย่ ประชาชนที่แบกภาระทางเศรษฐกิจหนักอยู่แล้วทั้งภาระหนี้สินที่พอกพูนจนหนี้ครัวเรือนจะทะลุ 90% ของจีดีพีตามที่ได้เตือนไว้แล้ว รายได้ที่ลดลง เงินเก็บที่ร่อยหรอและกำลังจะหมด จะยิ่งส่งผลกระทบทำให้ไม่สามารถทนต่อภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ต่อไปได้

ปีนี้จึงคาดว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวในระดับที่ต่ำมากหรืออาจจะเรียกได้ว่าเกือบไม่ฟื้นเลยก็ว่าได้ แต่สำหรับคนส่วนใหญ่อาจจะรู้สึกว่าติดลบก็เป็นได้ อีกทั้งยังไม่เห็นหนทางที่เศรษฐกิจไทยจะฟื้นได้เลยจากการบริหารของรัฐบาลในปัจจุบันที่ยังจมอยู่ในกรอบคิดเก่าๆแบบเดิมๆ ดังนั้น ปีนี้จะเป็นปีที่ “ยากลำบาก และ เสื่อมถอยหนัก” อีกทั้งสาเหตุของการระบาดรอบใหม่นี้ก็เกิดมาจากความผิดพลาดของรัฐบาลทั้งเรื่องการปล่อยให้มีการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเข้ามาในไทยอย่างผิดกฎหมายทำให้ควบคุมการแพร่เชื้อไวรัสไม่ได้ และยังปล่อยให้มีการเล่นการพนันในบ่อนเถื่อนจำนวนมากจนทำให้เกิดการแพร่ระบาดโดยเฉพาะในจังหวัดระยอง โดยมีข้อมูลว่าเจ้าของบ่อนมีความสัมพันธ์แนบแน่นกับคนในรัฐบาล ถึงขนาดส่งลูกชายไปเป็นอนุกรรมาธิการในสภาได้ ประชาชนจึงสงสัยกันว่าน่าจะเป็นระบบอุปถัมภ์ของคนในรัฐบาลใช่หรือไม่ ซึ่งหากไม่ใช่ก็จะต้องหาคนผิดมาลงโทษไม่ใช่ปล่อยให้เงียบหายไปแบบนี้


ดังนั้น การบริโภคของประชาชนและรายได้ของประชาชนในปีนี้ก็จะยังคงย่ำแย่ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อจีดีพี ในขณะที่การลงทุนภาคเอกชนก็ยังคงลดลงอย่างมาก และการส่งออกที่คาดว่าจะดีขึ้นกว่าปีที่แล้วก็อาจจะดีขึ้นบ้างแต่อาจจะขยายได้อย่างเก่งก็ประมาณครึ่งหนึ่งของปีที่แล้วที่ติดลบไป และการลงทุนที่หดหายตลอดหลายปีจะยิ่งทำให้การส่งออกไม่สามารถเพิ่มแบบก้าวกระโดดได้เลยในอนาคต ประกอบกับสินค้าส่งออกเดิมที่ไทยผลิตได้ เริ่มจะล้าสมัยหมดความนิยม เช่น รถยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งไม่ได้เป็นที่ต้องการของตลาดโลกมากนักแล้ว อีกทั้งปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งค่าจะเป็นปัญหาอย่างมากในการส่งออกของไทย

การใช้จ่ายภาครัฐยังคงยึดรูปแบบเก่า งบประมาณยังคงเป็นแบบเดิมไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสภาวะการณ์ของโลกที่เปลี่ยนไป การใช้จ่ายทางการทหารยังคงมีปริมาณที่มากและไม่เกิดผลทางเศรษฐกิจ อีกทั้งการทุ่มงบประมาณจำนวนมากเข้าพัฒนาเขตอุตสาหกรรมภาคตะวันออก (อีอีซี) แต่ผลตอบแทนที่ได้รับกลับไม่คุ้มค่าการลงทุน เนื่องจากรูปแบบการลงทุนจากต่างประเทศในโลกได้เปลี่ยนไปแล้ว

การท่องเที่ยวที่เป็นพระเอกมาตลอดหลายปีจนมาโดนวิกฤตไวรัสโควิดทำให้การท่องเที่ยวทรุดหนักในปีที่แล้ว ปีนี้ปริมาณนักท่องเที่ยวก็น่าจะยังไม่เพิ่มขึ้น แถมอาจจะลดลงด้วยซ้ำ อีกทั้งไม่รู้เมื่อไหร่ปริมาณนักท่องเที่ยวจะกลับมาเหมือนเดิม ธุรกิจท่องเที่ยวจะเสียหายและขาดทุนกันมากโดยเฉพาะ โรงแรม นอกจากนี้พฤติกรรมการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจะเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว ซึ่งประเทศไทยจะต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการท่องเที่ยวให้เข้ากับลักษณะการท่องเที่ยวในอนาคต


สิ่งที่น่าห่วงมากที่สุดคือกรอบคิดของรัฐบาล โดยเฉพาะกรอบคิดของนายกรัฐมนตรีที่ยังไม่สามารถก้าวทันโลกได้ ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยตกยุคและเสื่อมถอยเร็วมาก เพียงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความสามารถในการแข่งขัน และ ตำแหน่งของไทยในสายตาต่างประเทศเสื่อมถอยอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ซึ่งเป็นเรื่องที่ตนได้เคยเตือนมาตลอด แต่พลเอกประยุทธ์ไม่เข้าใจ เพราะยังมีแนวคิดยึดติดในกรอบคิดเดิมที่ไม่สามารถพัฒนาให้ทันโลกได้ ทั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวกับอายุ เพราะถ้าหากใครได้ฟังอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร พูดถึงการเปลี่ยนแปลงของโลก การที่ไทยต้องปรับเปลี่ยนแพลตฟอร์มเพื่อแข่งขันกับต่างประเทศได้ และการต้องควบคุมแพลตฟอร์มของต่างประเทศไม่ให้มีอิทธิพลกับประเทศไทยมากนัก เป็นเรื่องที่จำเป็น ขนาดในประเทศจีนยังต้องควบคุมแพลตฟอร์มของเอกชนจีนเองไม่ให้มีอิทธิพลมากเกินไปเลย และในสหรัฐเองก็เช่นกัน อีกทั้งการใช้แพลตฟอร์มในระบบราชการเพื่อลดขนาดของราชการเพื่อให้การบริหารราชการคล่องตัว หรือ ที่เรียกว่า digitalization ระบบราชการ ซึ่งเรื่องเหล่านี้พลเอกประยุทธ์ไม่เข้าใจ ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยเสื่อมถอยอย่างหนัก

ในขณะที่ประเทศกำลังอยู่ในภาวะวิกฤตทั้งทางด้านเศรษฐกิจและการแพร่ระบาดของไวรัส รัฐบาลกลับคิดถึงการส่งยานอวกาศไปโคจรรอบดวงจันทร์ การเรี่ยไรประชาชนคนละ 500 บาทเพื่อการวิจัยผลิตวัคซีนแทนที่รัฐบาลจะทุ่มงบประมาณเอง การจับนักศึกษาที่ช่วยขายกุ้งให้กับผู้เลี้ยงกุ้งที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสที่รัฐบาลเองละเลยไม่ช่วยเหลือแต่กลับไปจับคนช่วยเป็นต้น นับเป็นการกระทำที่ย้อนแย้งและขาดสติ

โดยส่วนตัวแล้วเชื่อว่า กรอบคิดที่ล้าหลังและเสื่อมถอยหนักนี้เป็นสาเหตุหลักที่ นักศึกษา นักเรียน และ ประชาชนจำนวนมากออกมาประท้วงขับไล่รัฐบาล เพราะพวกเขาทราบดีว่าหากปล่อยให้พลเอกประยุทธ์และรัฐบาลที่ขาดหลักคิดที่ทันโลกได้บริหารประเทศต่อไป ประเทศไทยจะยิ่งยากลำบากและเสื่อมถอยหนัก และ ผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ นักเรียน นักศึกษา และ คนรุ่นใหม่ ที่จะต้องรับมรดกการบริหารประเทศนี้ต่อจากคนรุ่นเก่าที่บริหารประเทศได้อย่างย่ำแย่นี้ ซึ่งจะไม่สามารถแข่งขันกับโลกได้ และอาจจะต้องใช้เวลานานมากในการปรับปรุงประเทศเพื่อจะให้ก้าวทัน หรือ อาจจะก้าวไม่ทันเลยก็เป็นได้ เพราะโลกจะยิ่งเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วหลังวิกฤตการณ์ไวรัสโควิดนี้ ประเทศที่ได้เปรียบและได้รับผลกระทบน้อยจะก้าวไปได้เร็วมาก ในขณะที่ประเทศที่เสียหายและเสียเปรียบจะล้าหลังเร็วมาก โดยล่าสุดมีการสำรวจพบว่าประเทศเวียดนามจะแซงประเทศไทยภายใน 15 ปีหรืออาจจะเร็วกว่านั้น ในขณะที่จีนจะแซงสหรัฐได้ภายใน 8 ปีนี้ ซึ่งหากประเทศไทยยังเป็นแบบนี้ ไทยจะหมดอนาคตแน่ ดังนั้นการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลของประชาชนในปีนี้จะเพิ่มมากขึ้น และอาจจะนำไปสู่ความรุนแรงได้

โดยสรุป ต้องขอเตือนตรงๆว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2564 นี้จะยากลำบากและเสื่อมถอยหนัก ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และ การเมือง และหากยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงแนวคิด หรือ เปลี่ยนแปลงการบริหาร ประเทศไทยก็ได้แต่รอวันที่จะเสียหายหนักหรือเหมือนกับรอวันเจ๊งเท่านั้น .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

จับหนุ่มอินเดียขนเงินกว่า 15 ล้านบาท เข้าไทย

หนุ่มอินเดียหอบเงินสด 15.7 ล้านบาท เดินเท้าจากปอยเปตเข้าไทย อ้างเล่นพนันได้ เจ้าหน้าที่เร่งขยายผล หวั่นพัวพันคอลเซ็นเตอร์

โฆษกรัฐบาล นำบุกร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า แต่ไหวตัวทันไม่เจออะไร

โฆษกรัฐบาล นำ สคบ.-สธ. บุกร้านลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าย่านสายไหม หลังได้รายงานลับ แต่ร้านไหวตัวทัน ปิดหนีหมดไม่เจออะไร เตรียมเสนอนายกฯ ตั้ง กก.ปราบจริงจัง เผยตัวเลขขายปีละ 5 พันล้าน อ้างเป็นสินค้าผ่านแดน แต่ปล่อยหลุดเข้าไทย

รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย เอี่ยวฟอกเงินหลอกลงทุนคริปโต

ตำรวจไซเบอร์รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย กินหรูอยู่สบาย เอี่ยวฟอกเงินขบวนการหลอกลงทุนคริปโต พบเกี่ยวพันอีก 28 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน