ทำเนียบฯ 29 ธ.ค.-ครม.เห็นชอบผ่อนผันให้คนต่างด้าว 3 สัญชาติ กัมพูชา ลาว และเมียนมา อยู่ในราชอาณาจักรทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายเป็นกรณีพิเศษ ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ระลอกใหม่ ขึ้นทะเบียนให้ถูกต้อง
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม. เห็นชอบการผ่อนผันให้คนต่างด้าว 3 สัญชาติคือ กัมพูชา ลาว และเมียนมา อยู่ในราชอาณาจักรและทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายเป็นกรณีพิเศษ ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ระลอกใหม่ โดยมีแนวทางการดำเนินการดังนี้ กลุ่มเป้าหมายคือ คนต่างด้าว 3 สัญชาติ ที่อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตให้เข้ามาทำงานสิ้นสุดหรือหลบหนีเข้าเมือง โดยกลุ่มที่มีนายจ้าง หรือสถานประกอบการ ประสงค์จ้างงาน รวมถึงผู้ติดตามซึ่งเป็นบุตรของคนต่างด้าวที่มีอายุไม่เกิน 18 ปี ให้นายจ้างแจ้งรายชื่อคนต่างด้าวตามวิธีการที่กรมการจัดหางานกำหนดระหว่างวันที่ 15 มกราคม 2564 ถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2564
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ให้คนต่างด้าวเข้ารับการตรวจคัดกรองโควิด -19 และโรคต้องห้ามตามวิธีการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด และประกันสุขภาพเป็นระยะเวลา 2 ปี ภายในวันที่ 16 เมษายน 2564 เมื่อผ่านการตรวจคัดกรองโควิด-19 และโรคต้องห้ามแล้ว ให้ยื่นคำขออนุญาตทำงานแทนคนต่างด้าวตามวิธีการที่กรมการจัดหางานกำหนดภายในวันที่ 13 กันยายน 2564 และให้คนต่างด้าวไปจัดทำทะเบียนประวัติคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยที่มีใบอนุญาตทำงานอยู่ด้านหลังของบัตรตามวิธีการที่กรมการปกครองกำหนดภายในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2564
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ส่วนคนต่างด้าวที่ไม่ได้ทำงาน รวมถึงผู้ติดตามซึ่งเป็นบุตรอายุไม่เกิน 18 ปี ให้แจ้งแบบข้อมูลบุคคลตามวิธีการที่กรมการจัดหางานกำหนด ระหว่างวันที่ 15 มกราคม 2564 ถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2564 และเข้ารับการตรวจคัดกรองโควิด-19 และโรคต้องห้าม และประกันสุขภาพ ระยะ 2 ปี ภายในวันที่ 16 เมษายน 2564 พร้อม จัดทำประวัติคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยภายในวันที่ 15 มิถุนายน 2564 เมื่อผ่านการตรวจคัดกรองโควิด-19 แล้ว ให้นายจ้าง ที่ประสงค์จะรับเข้าทำงานยื่นคำขออนุญาตทำงานแทนคนต่างด้าวภายในวันที่ 13 กันยายน 2564 จากนั้นให้คนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตทำงานไปปรับปรุงทำทะเบียนประวัติคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยที่มีใบอนุญาตทำงานอยู่ด้านหลังของบัตร ตามที่กรมการปกครองกำหนด
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การออกมาตรการดังกล่าวสืบเนื่องจากพบการติดเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มของแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมายและการที่รัฐบาลออกมาตรการเข้มงวดที่จะเอาผิดกับนายจ้างที่ว่าจ้างแรงงานต่างด้าว ทำให้นายจ้างนำแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมาย ไปทิ้งตามจุดต่าง ๆ และมีแรงงานที่หวาดกลัวจะถูกจับกุมหลบหนีออกนอกพื้นที่ ส่งผลให้การควบคุมการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 และการทำงานของเจ้าหน้าที่เป็นไปด้วยความยากลำบาก จึงจำเป็นต้องมีมาตรการมาควบคุมไม่ให้พลังงานเหล่านี้เคลื่อนไหวออกนอกพื้นที่.-สำนักข่าวไทย