กสม.ห่วงโควิดระบาดระลอกใหม่ กระทบสิทธิมนุษยชน

กทม. 26 ธ.ค. – กสม.ห่วงโควิดระบาดระลอกใหม่ กระทบด้านสิทธิมนุษยชน เร่งรัฐประกันสิทธิในสุขภาพและการดำรงชีพ วอนสังคมไม่ตีตรา-เลือกปฏิบัติผู้ได้รับผลกระทบทั้งไทย-ต่างด้าว


วันนี้ (26 ธ.ค.) นางประกายรัตน์ ต้นธีรวงศ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ทำหน้าที่แทนประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวว่า กสม. มีความห่วงกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ ซึ่งได้ส่งผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนต่อประชาชนในหลายมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนในพื้นเสี่ยง เช่น จ.สมุทรสาคร ที่มีคนไทยและแรงงานต่างด้าวได้รับผลกระทบโดยตรง ทั้งในมิติสุขภาพ เศรษฐกิจ การจ้างงาน และการถูกเลือกปฏิบัติหรือถูกตีตราทางสังคม

ขอขอบคุณรัฐบาลที่ได้เร่งสั่งการและยกระดับการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคอย่างรวดเร็ว เช่น การเร่งตรวจหาผู้ติดเชื้อในวงกว้าง การแยกกักผู้ติดเชื้อด้วยการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามตามขีดความสามารถในพื้นที่การระบาด และเปิดโอกาสให้แรงงานต่างด้าวที่เข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายได้ลงทะเบียนเพื่อรับการตรวจหาเชื้อและรักษาพยาบาล โดยยุติการจับกุมชั่วคราวเพื่อป้องกันการเคลื่อนย้าย


กสม. ยังมีความกังวลต่อการเข้าถึงการรักษาพยาบาลและมาตรการป้องกันด้านสาธารณสุขอย่างทั่วถึงของประชาชนทั้งคนไทยและแรงงานต่างด้าวในพื้นที่การระบาดสูง โดยเฉพาะในกรณีที่มีการใช้มาตรการควบคุมการเข้า-ออก และการเคลื่อนย้ายที่ทำให้แรงงานต่างด้าวในพื้นที่ดังกล่าวอาจต้องถูกกักตัวอยู่ในสภาพแออัด และยังไม่สามารถแยกบุคคลที่อาจติดเชื้อและไม่ติดเชื้อออกจากกันได้ รัฐจึงควรหามาตรการเพื่อลดความเสี่ยงดังกล่าว รวมทั้งจัดให้มีช่องทางการสื่อสารเพื่อประชาสัมพันธ์ความรู้เรื่องการป้องกันโรคและมาตรการที่รัฐดำเนินการให้เป็นไปอย่างทั่วถึงและในรูปแบบที่สามารถเข้าใจได้ พร้อมสนับสนุนปัจจัยที่เพียงพอต่อการดำรงชีพแก่ประชาชนทุกคนในเขตพื้นที่การควบคุมสูงสุดโดยไม่มีความแตกต่าง

กสม. เห็นว่าการประกันสิทธิในสุขภาพ และการให้ประชาชนสามารถดำรงชีวิตได้ตามมาตรฐานขั้นต่ำ เป็นสิ่งสำคัญที่รัฐต้องให้ความคุ้มครองแก่คนทุกคนในยามนี้ ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือแรงงานต่างด้าว ทั้งในแง่การมีอยู่ หรือจัดหาให้มีการเข้าถึง การปรับให้เข้ากับสถานการณ์ และการเป็นที่ยอมรับ เช่น ให้การดูแลรักษาพยาบาลที่เหมาะสมและสอดคล้องกับวิถีวัฒนธรรม

“ขอเรียกร้องให้สังคมเข้าใจ ให้ความช่วยเหลือกัน ไม่ตีตรา เหมารวม และเลือกปฏิบัติต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรค ไม่ว่าจะเป็นผู้ติดเชื้อทั้งคนไทยและคนต่างด้าว หรือแม้แต่บุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องตรวจรักษาผู้ป่วยในพื้นที่ และขอให้ร่วมกันส่งกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานและผู้ป่วยหรือผู้ติดเชื้อให้สามารถก้าวผ่านวิกฤติระลอกนี้ไปได้ด้วยกัน ด้วยความเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และสิทธิมนุษยชนของคนทุกคน” นางประกายรัตน์ กล่าว.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

“อ.แจ็คพันศพ” ถูกเปลวไฟพุ่งใส่ขณะเผาศพ

“อาจารย์แจ็คพันศพ” สัปเหร่อและหมอผีชื่อดัง จ.บุรีรัมย์ ถูกเปลวไฟพุ่งใส่ขณะวางดอกไม้จันทน์เผาศพ ไฟลวกทั่วร่างกาย ต้องหามส่งโรงพยาบาล  เจ้าตัวงง! เผาศพมาเป็นพัน ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้

ข่าวแนะนำ

ตำรวจเร่งกวาดล้างแก๊งไทใหญ่ 999

กรณีแก๊งไทใหญ่ 999 ไล่ฟันหนุ่มกะเหรี่ยง ย่านห้วยขวาง ตำรวจยอมรับมีกลุ่มต่างด้าวกระทบกระทั่งกันในพื้นที่ เร่งพิสูจน์รวมแก๊งลักษณะอั้งยี่-ซ่องโจร หรือไม่ พร้อมลั่นดำเนินคดีไม่ละเว้น

ผู้การอยุธยา สั่งสอบ ตร. เก็บส่วยร้านอาหาร

แฉคลิปเสียงชายอ้างเป็นตำรวจ เรียกเก็บเงินรายเดือนจากร้านอาหาร พอปฏิเสธถูกลงตรวจถี่ยิบ ล่าสุด ผู้การฯ อยุธยา สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงด่วน

ปิด “จุดชมวิวภูชี้ฟ้า” ชั่วคราว เหตุเสียงปืนดังข้ามแดน-กระสุนตกใส่หลังคาบ้าน

อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า (เตรียมการ) ประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวจุดชมวิวภูชี้ฟ้า ชายแดนไทย-สปป ลาว อำเภอเวียงแก่น และอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว หลังเกิดเสียงปืนดังข้ามแดน และพบกระสุนตกใส่บ้านเรือนประชาชน

กทม.พาสื่อดูซากตึก สตง. คาดอีก 2-3 วัน ภารกิจเสร็จสิ้น

กทม.พาสื่อลงพื้นที่ดูซากตึก สตง. ขณะนี้เคลียร์ถึงชั้นใต้ดินซึ่งเป็นจุดสุดท้าย คาดภารกิจการค้นหาผู้สูญหายและรื้อซากจะเสร็จสิ้นในอีก 2-3 วัน