กทม. 26 ธ.ค.-ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ข้อกำหนด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน คุมการระบาดของ “โควิด-19” ระลอกใหม่ โดยมีการห้ามเข้าพื้นที่เสี่ยง และทำกิจกรรมชุมนุมหรือมั่วสุม พร้อมให้ผู้ว่าฯ พิจารณาสั่งปิดสถานที่เสี่ยง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงนามในข้อกำหนด ซึ่งออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ฉบับที่ 15 ดำเนินการกระชับและยกระดับมาตรการต่างๆ ที่จำเป็น เพื่อเข้าแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างทันท่วงที ป้องกันมิให้การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ “โควิด-19” ระลอกใหม่ที่เกิดขึ้นในบางพื้นที่ เกิดการระบาดลุกลามเป็นวงกว้าง โดยได้ออกข้อกำหนดและข้อปฏิบัติแก่ส่วนราชการ ซึ่งให้มีผลตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2563 ประกอบด้วย
- การห้ามใช้หรือเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงต่อการติดโรค
ห้ามประชาชนใช้ เข้าไป หรืออยู่ในพื้นที่ สถานที่ หรือพาหนะที่มีความเสี่ยงต่อการติดโรค - การปิดสถานที่เสี่ยงต่อการติดโรค
ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและผู้ว่าราชการจังหวัด ออกคำสั่งพิจารณาสั่งปิดสถานที่ ที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการติดโรคและการแพร่ของโรคไว้เป็นการชั่วคราว - การห้ามชุมนุม
ห้ามมิให้มีการชุมนุม การทำกิจกรรม หรือการมั่วสุมกัน ณ ที่ใด ๆ ในสถานที่แออัด หรือกระทำการดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย - มาตรการเดินทางและเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว
ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง ตรวจคัดกรองการเดินทางและการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว - การปฏิบัติและบังคับใช้มาตรการป้องกันโรค
ให้ส่วนราชการ พนักงานเจ้าหน้าที่ พนักงานควบคุมโรคติดต่อ และบุคคลที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด - การประสานงาน
ให้ ศปก.ศบค. ซึ่งมีเลขา สมช. เป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ ทำหน้าที่เป็นหน่วยปฏิบัติและบูรณาการทุกภาคส่วนเพื่อให้สถานการณ์ยุติโดยเร็ว ควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ - การออกประกาศหรือคำสั่งของผู้ว่า กทม.หรือผู้ว่าราชการจังหวัด ตามข้อ 1 หรือข้อ 2 ให้ดำเนินการตามมาตรการหรือแนวปฏิบัติที่นายกรัฐมนตรี หรือตามที่ ศบค.กำหนด และให้ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข และศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กระทรวงมหาดไทย ร่วมกันพิจารณาประเมินและกำหนดพื้นที่สถานการณ์เพิ่มเติม
8.ให้บรรดาประกาศ หรือคำสั่งของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อที่ออกตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อเพื่อแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน เป็นตามข้อกำหนดนี้.-สำนักข่าวไทย