มีล็อบบี้-แลกผลประโยชน์ ส.ว.สหรัฐ เคลื่อนไหวชุมนุมในไทย

รัฐสภา 17 ธ.ค.- “ดอน” งง ตั้งกระทู้ถามเรื่อง ส.ว.สหรัฐ เคลื่อนไหวเรื่องละเมิดสิทธิในไทย ทั้งที่ร่างมติดังกล่าวตกก่อนเข้าที่ประชุม และในสหรัฐก็ไม่มีคนสนใจ  แต่ท่าทีคนวงนอก “เว่อร์เหลือเกิน” แฉมีล็อบบี้-แลกผลประโยชน์  


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ (17 ธ.ค.) มีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นประธานการประชุมพิจารณากระทู้ถามสดที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ถามนายกรัฐมนตรี กรณีมติวุฒิสภาสหรัฐอเมริกาที่มีต่อประเด็นการแสดงสิทธิเสรีภาพในประเทศไทย เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม และเตรียมเสนอให้ที่ประชุมวุฒิสภาพิจารณารับรอง รวมถึงกรณีที่สหภาพยุโรปผ่านกฎหมายว่าด้วยเรื่องการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน โดยมีรายละเอียดคือ ขยายขอบเขตการลงโทษผู้ละเมิดสิทธิมนุษยชนทั่วโลก มีผลเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม

นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงแทนนายกรัฐมนตรีว่า ไม่ทราบว่าจะตั้งกระทู้ทำไม ในเมื่อที่สหรัฐอเมริกาไม่มีบุคคลใดสนใจ อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศรับทราบถึงร่างมติของ ส.ว.สหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 3 ธันวาคม ก่อนมติจะออกช่วงเย็นวันเดียวกัน ทั้งนี้ หลังจากที่ร่างมติดังกล่าวออกมา ได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงการต่างประเทศตรวจสอบทันที และข้อมูลที่ได้รับ คือ ร่างมติดังกล่าวจะตกไปก่อนนำเสนอ เนื่องจากวุฒิสภาสหรัฐจะประชุมวันสุดท้ายวันที่ 18 ธันวาคม  ร่างมติดังกล่าวยังไม่นำเสนอเข้าสู่การพิจารณา


“มติดังกล่าวเป็นเพียงการแสดงท่าทีโดยไม่มีผลใดๆ ต่อประเทศไทย อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศได้ทำหนังสือไปยัง ส.ว.สหรัฐ ในวันที่ 10 ธันวาคม เพื่อแสดงความขอบคุณที่ห่วงใยในสถานการณ์ภายในประเทศ แต่ไทยพร้อมจะจัดการปัญหาภายในด้วยตัวเอง” นายดอน กล่าว

ส่วนกรณีที่กังวลว่าจะทำให้สหรัฐแทรกแซงกิจการภายในประเทศหรือไม่นั้น นายดอน กล่าวว่า  เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ได้รับเชิญให้รับประทานอาหารที่บ้านเอกอัครราชทูตสหรัฐ ประจำประเทศไทย และได้คุยกันเล็กน้อย แต่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เอกอัครราชทูตแสดงความชื่นชมว่าสถานการณ์ชุมนุมภาพรวมสงบ และทางการอดกลั้นรับมือกับผู้ชุมนุม เป็นปกติที่กระบวนการประชาธิปไตยที่เจอความท้าทาย ซึ่งสหรัฐยังเจอการประท้วง และเชื่อว่าประเทศไทยจะหาทางแก้ไขสถานการณ์ทางการเมืองได้ในที่สุด  ตนมองว่าคำตอบของเอกอัครราชทูตสหรัฐยืนยันในข้อกังวลต่อการแทรกแซงได้

“ในประเทศไทยมีการกระพือข่าวด้วยหลายสาเหตุ ในสหรัฐไม่มีใครสนใจ เพราะเขาสนใจสถานการณ์ภายในประเทศของเขา ทั้งกรณีการเสียชีวิตจากการระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตนาทีละ 2 คน ขณะเดียวกัน การเลือกตั้งประธานาธิบดียังไม่เรียบร้อย มี ส.ว.ที่มุ่งเข้าสู่ตำแหน่งทางการเมือง ไม่ได้สนใจประเทศไทย” นายดอน กล่าว


อย่างไรก็ตาม นายดอน กล่าวว่า กระทรวงรับรู้ความห่วงใยของคนไทยหลายแวดวง จากการติดตามเพิ่มเติมถึงที่มาที่ไป พบการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ หรือนำเรื่องเข้ามาจากวงนอกของวุฒิสภา และมีการล็อบบี้ กระทรวงการต่างประเทศไม่เคยมองข้ามปัญหาใดๆ  แต่เมื่อเจอปัญหาแล้วไม่โวยวาย ไม่เป็นมวยวัดออกสื่อใดๆ แต่หาข้อมูล และมีปฏิกิริยาโต้ตอบอย่างเหมาะสมกับความเป็นประเทศที่มีอดีตอันยาวนานและมีอธิปไตย รวมถึงความมั่นคงของประเทศ

“สิ่งใดที่ได้ยินเป็นบริบทปกติของวงนอก ท่าทีที่ออกมาบางครั้งอดไม่ได้ เวอร์เหลือเกิน ทำให้เกิดผลทางลบกับประเทศไทย” นายดอน กล่าว

นายดอน ยังชี้แจงเรื่องกฎหมายว่าด้วยเรื่องการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน โดยมีรายละเอียดคือ ขยายขอบเขตการลงโทษผู้ละเมิดสิทธิมนุษยชนทั่วโลก ซึ่งมีผลเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ว่า ยอมรับไม่เคยได้ยิน กระทรวงการต่างประเทศอาจจะตกข่าว แต่โดยวิสัยการทำงาน ไม่รีแอคกับข่าวทันทีทันใด ต้องหาข่าวก่อนแสดงท่าที แต่หากจะถามเรื่องกฎหมายฉบับดังกล่าว ก็ขอให้ตั้งกระทู้ถามอีกครั้งกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพราะตนรับแจ้งว่าจะต้องตอบเฉพาะกรณี ส.ว.สหรัฐเท่านั้น

จากนั้น นพ.ชลน่าน อภิปรายว่า จะนำเรื่องเข้าสู่กรรมาธิการ (กมธ.) การต่างประเทศ เพื่อตรวจสอบกรณีที่ระบุว่ามีล็อบบี้ และแลกผลประโยชน์ ดังนั้นขอให้นายดอนชี้แจงต่อ กมธ.  เพื่อร่วมมือกันทำงานเพื่อประเทศด้วย .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคตะวันออก ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในรายภาค ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 […]

5 คนร้ายปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดังย่านลาดพร้าว

กรุงเทพฯ 30 ก.ค. – อุกอาจ! นัดซื้อคริปโต กลายเป็นแผนปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท กลางลานจอดรถห้างดังย่านลาดพร้าว ก่อนหลบหนีลอยนวล ตำรวจเร่งสกัดจับคนร้าย เกิดเหตุอุกอาจ ปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท กลางลานจอดรถชั้น 2 ของห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. โดยกลุ่มคนร้ายเป็นชาย 5 คน มีทั้งอาวุธปืนและมีด หลังก่อเหตุ กลุ่มคนร้ายใช้รถยนต์ฮอนด้า ซีวิค สีเทา ทะเบียน ขก 1116 นครสวรรค์ หลบหนีออกจากห้าง ล่าสุดทราบว่า คนร้ายหลบหนีไปตามเส้นทางถนนสายเอเชีย สอบถามผู้เสียหาย ให้การว่า นัดกับกลุ่มคนร้ายมาซื้อทรัพย์สินเป็นเงินคริปโทเคอร์เรนซี 3.4 ล้านบาท โดยผู้เสียหายนำเงินสดมาเพื่อจ่ายแลกกับเงินคริปโต แต่ถูกฝ่ายคนร้ายชิงเงินสดทั้งหมดและขับรถหนีไป ทั้งนี้ ตำรวจสืบสวน สน.พหลโยธิน อยู่ระหว่างลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด และเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี. – สำนักข่าวไทย

จับ 6 ล้อขนยาบ้า 10 ล้านเม็ด ซุกลำโพง

30 มิ.ย. – ขบวนค้ายาเสพติดยังพยายามขนยาบ้าเข้ามาทางชายแดนภาคเหนือของไทย ช่วง 9 เดือนมานี้ เจ้าหน้าที่สกัดได้กว่า 130 ล้านเม็ด แต่ที่หลุดรอดไปได้อีกมหาศาล ซึ่งพบว่ามีการขนยาบ้าลอตใหญ่เข้าสู่พื้นที่ชั้นในมากขึ้น โดยเปลี่ยนจุดพักยาบ้าเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจและใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่ขนยาบ้าที่ซุกซ่อนมากับสินค้ามากขึ้น ล่าสุดเจ้าหน้าที่สกัดรถ 6 ล้อ ขนยาบ้า 10 ล้านเม็ด ได้ที่จังหวัดแพร่ โดยซุกซ่อนในตู้ลำโพง คนขับอ้างว่า รับงานจากบริษัทให้ไปส่งสินค้าที่ลพบุรี โดยไม่รู้ว่ามีการซุกซ่อนยาบ้าไว้ เจ้าหน้าที่เร่งขยายผล.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้โรงงานผลิตทิชชู คนงานสูญหาย 9 คน

สระบุรี 30 มิ.ย. – เหตุไฟไหม้โรงงานผลิตทิชชู จ.สระบุรี มีผู้บาดเจ็บ 7 คน และยังสูญหายอีก 9 คน เป็นพนักงานประจำสำนักงานอยู่บนชั้น 2 และชั้น 3 ล่าสุดมีรายงานพบผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย เกิดเหตุเพลิงไหม้รุนแรงที่โรงงานผลิตทิชชู ตั้งอยู่ภายในนิคมเหมราช อ.หนองแค จ.สระบุรี รถดับเพลิงรถน้ำจาก อ.หนองแค และใกล้เคียงกว่า 50 คัน รวมถึงอาสาสมัครจากหลายมูลนิธิ รุดไปที่เกิดเหตุ พบเพลิงกำลังโหมลุกไหม้ภายในโรงงานพร้อมกับได้รับแจ้งว่ามีพนักงานอยู่ภายในสำนักงานชั้น 2 และชั้น 3 รวม 10 คน ยังไม่สามารถออกมาได้ จึงเร่งฉีดน้ำสกัดดับเพลิงแต่ก็ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากจุดที่เกิดเพลิงไหม้มีกองกระดาษซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี กระทั่งเวลาล่วงเลยไปกว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด ขณะที่รถจากโรงพยาบาลหลายแห่ง พร้อมทีมแพทย์และพยาบาลมายังจุดเกิดเหตุเพื่อรอรับผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล พร้อมกับตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ รับแจ้งตรวจสอบรายชื่อผู้สูญหาย เบื้องต้นทราบว่ามีผู้สูญหายยังไม่มารายงานตัวจำนวน 11 คน แต่ต่อมาช่วยเหลือออกมาได้ 2 คน จึงยังมีผู้สูญหายในเหตุการณ์นี้อีก […]