กรุงเทพฯ 14 ธ.ค. –“พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” แง้มประเด็นเตรียมซักฟอกนายกฯ ปีหน้า กรณีพำนักบ้านพักทหารปีหน้า เตรียมฟ้อง “ชวน” ฐานปิดปากไม่ให้อภิปรายประเด็นถวายสัตย์ฯ เชื่อกรรมการสมานฉันท์ไปไม่รอด
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ฝ่ายค้านเตรียมจะยื่นญัตติ ในสมัยประชุมนี้ที่คาดว่าจะยื่นเดือนมกราคม2564 ว่า ยังไม่ได้เตรียมความพร้อมหรือหารือระหว่างพรรคฝ่ายค้าน เพราะกำลังพิจารณาเรื่องเร่งด่วนคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ก็มองประเด็นการอภิปรายไว้เบื้องต้น เช่น การพักในบ้านหลวงของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่ให้กองทัพบกจ่ายค่าน้ำค่าไฟให้ ซึ่งเบื้องต้นได้นำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร โดยจะเรียกอดีตผู้บัญชาการทหารบกและผู้บัญชาการทหารบกมาชี้แจงรวมถึงลงพื้นที่จริงด้วย นอกจากนี้ยังมีประเด็นอภิปรายไม่ไว้วางใจร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรณีที่ดินสปก.ให้ภาคธุรกิจใช้ประโยชน์
“เผลอ ๆ คำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญอาจจะผิดก็ได้ เรื่องการจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้พิจารณาตรงนี้ ถ้าผมเป็นคุณประยุทธ์ ผมลาออกไปนานแล้วเพราะไม่ได้เป็นการเชิดหน้าชูตา ถ้าเป็นคนดี ซื่อสัตย์สุจริต ผมพร้อมจะร่วมรัฐบาลทำงานกับคุณ” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า พรรคฝ่ายค้านจะต้องหารือกันอีกครั้งว่าจะวางตัวบุคคลใดอภิปราย ซึ่งเรื่องการพำนักที่บ้านพักทหารของนายกรัฐมนตรีเป็นประเด็นที่พรรคเพื่อไทยดำเนินการไว้ คงต้องหารือกันอีกครั้งแบ่งประเด็นตามความรู้ความสามารถ ความถนัดและเวลาที่ต้องจัดสรร ทั้งนี้ จะพิจารณาฟ้องร้องนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรต่อศาลฎีกา และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) กรณีที่ไม่ให้ตนอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีประเด็นถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบ
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่าถึงการตั้งกรรมการปรองดองสมานฉันท์ ว่า ดูสัดส่วนแล้วเป็นเนื้อเดียวกัน เช่น ส.ส. รัฐบาลและส.ส.ฝ่ายค้าน จึงไม่ถูกต้อง ไม่เป็นธรรม ถ้าจะให้สมานฉันท์ นายกรัฐมนตรีต้องออกมาพูดให้ชัดเจนเลยว่าจะเอาอย่างไร จะอยู่อีกกี่ปี เพราะที่บอกว่าให้ถอยคนละก้าว แต่นายกรัฐมนตรีเดินมาล้านก้าวแล้ว แต่ถอยก้าวเดียว ย้ำว่าทำอะไรต้องถูกต้องเป็นธรรมและยุติธรรม ซึ่งดูแล้วตั้งกรรมการไปไม่รอด.-สำนักข่าวไทย