นายกฯ มอบเงินให้เจ้าหน้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

ทำเนียบฯ 4 ธ.ค.- นายกรัฐมนตรี มอบเงินให้เจ้าหน้าที่ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ขอบคุณที่เป็นแนวหน้า อดทน เสียสละในการทำงาน ยอมรับสถานการณ์ยังไม่จบในเวลาอันใกล้


เมื่อเวลา 13.30 น. ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีมอบเงินช่วยเหลือแก่เจ้าหน้าที่ ที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จำนวน 13 ราย วงเงิน 6.7 แสนบาท ผ่านบัญชี สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อรับบริจาคสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

นายกรัฐมนตรี กล่าวช่วงหนึ่ง ว่า สถานการณ์ โควิด-19 กรณีผู้ที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจาก การปฎิบัติหน้าที่ ต้องขอแสดงความเสียใจด้วย ซึ่งสถานการณ์การแพร่ระบาดได้รับการดูแลเป็นอย่างดี และดีขึ้นตามลำดับ ส่วนสำคัญส่วนหนึ่งมาจากเจ้าหน้าที่ทุกคน ทั้งบุคลากรทางการแพทย์ อสม.และอาสาสมัครด้านอื่น ๆ เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องเอาใจใส่ดูแลเพื่อให้ทุกคนได้มีโอกาสดำรงชีวิตต่อไปได้ แม้สถานการณ์ โควิด-19 จะยังไม่สิ้นสุดในระยะเวลาอันใกล้นี้ ดังนั้นจึงต้องทำงานกันต่อไป รัฐบาลจะดูแลผู้ที่ได้รับผลกระทบให้ได้มากที่สุด เพราะเจ้าหน้าที่ทุกคนถือเป็นแนวหน้าในการเผชิญกับสถานการณ์ ทั้งการตรวจสอบคัดกรอง และ ติดตามดูแลหมู่บ้าน ชุมชน ตามลำดับ จึงขอขอบคุณในนามของคนไทย ที่ทุกคนได้เสียสละและต้องสูญเสีย เราจะระลึกถึงทุกคนเสมอ หากมีปัญหาตามมา ขอให้ประสานติดต่อมายังปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี จะดูแลให้ได้มากที่สุด การมอบเงินครั้งนี้ถือเป็นน้ำใจจากคนทั้งประเทศที่ได้ร่วมกันบริจาคร่วมกับรัฐบาล


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้นอกจากสถานการณ์ โควิด-19 แล้ว ยังประสบสถานการณ์ที่ถือว่าหนักหนาสาหัส คือน้ำท่วมภาคใต้ ตนได้สั่งการและย้ำเตือนเสมอว่า เจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง และตนจะต้องลงพื้นที่ไปตรวจเยี่ยมในเร็ว ๆ นี้ แต่เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย จึงไม่อยากไปเป็นภาระให้กับเจ้าหน้าที่ที่กำลังช่วยเหลือประชาชนจึงได้มอบแนวทางการทำงานลงไป แต่ในวันจันทร์ที่ 7 ธ.ค. ก็จะลงไปดูด้วยตัวเอง ซึ่งถือเป็นอีกสถานการณ์หนึ่งที่คนไทยทุกคนกำลังเผชิญอยู่ โดยเฉพาะเรื่องของภัยพิบัติน้ำท่วมและปัญหาแพร่ระบาดของ โควิด-19 ที่จะต้องอยู่ร่วมกันให้ได้ ภาครัฐได้พยายามหาวิธีการช่วยเหลือประชาชนให้กับทุกกลุ่ม ทุกฝ่ายที่ได้รับผลกระทบ สำหรับเงินงบประมาณที่ได้รับไปในวันนี้ ก็ไม่ได้มากมายนัก ขอให้ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด อย่างน้อยก็บรรเทาความเดือดร้อนไปได้บ้าง เพื่อดำรงชีวิตต่อไปในอนาคต
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้พูดคุยและให้กำลังใจกับผู้ที่ได้รับผลกระทบรวมทั้งญาติผู้เสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

ชายแดนไทย-เมียนมา ยังระอุ ปะทะเดือดใกล้จุดแตกหัก

ทหารกะเหรี่ยงใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีฐานทหารเมียนมา ตรงข้าม อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 800 เมตร โรงเรียนในฝั่งไทย ซึ่งอยู่ติดแนวปะทะ หยุดการเรียนการสอน 1 วัน ขณะที่มีชาวเมียนมาหนีภัยสู้รบเข้าไทยกว่า 400 คน

ทร.จับเรือประมงเมียนมารุกล้ำน่านน้ำไทย

ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือระนอง จับกุมเรือประมงสัญชาติเมียนมา พร้อมลูกเรือและกัปตันเรือ 6 คน ขณะรุกล้ำน่านน้ำไทย บริเวณน่านน้ำเกาะช้าง จ.ระนอง ก่อนควบคุมเรือลำดังกล่าวมาตรวจสอบที่ท่าเรือน้ำลึกระนอง

แจ้งความเอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ผอ.องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ลุยเอง ยื่นหลักฐานให้ตำรวจ ปปป. เอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก ระบุทำกันมานานเกือบ 10 ปี พบทั้งข้าราชการ-อดีตข้าราชการ เอี่ยวประมาณ 20 คน

รู้เบาะแสคนร้ายชิงทอง 102 บาท คาดเป็นคนในพื้นที่

ตำรวจรู้เบาะแสคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง 102 บาท ภายในห้างดังกลางเมืองแม่สอด คาดยังหลบอยู่ในพื้นที่ สั่งคุมเข้มแนวชายแดน ป้องกันคนร้ายหลบหนี พร้อมยกระดับมาตรการดูแลร้านทอง-ห้างสรรพสินค้า ป้องกันเหตุซ้ำรอย