สั่งดำเนินคดีผู้ติดเชื้อลักลอบเข้าเมืองให้ถึงที่สุด

ทำเนียบฯ  1 ธ.ค.-“อนุทิน” สั่งดำเนินคดีผู้ติดเชื้อลักลอบเข้าเมืองให้ถึงที่สุด เหตุทำประเทศเสียหาย ไร้จิตสำนึก จี้ เพิ่มมาตรการดูแลช่องทางธรรมชาติ

นายอนุทิน ชาญวีระกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึ งกรณีมีคนไทยติดเชื้อโควิด-19 แอบลักลอบเข้าไทยผ่านเส้นทางธรรมชาติ จำนวน 3 คน ว่า ตอนนี้กำลังตรวจโรค เพื่อขยายผลในพื้นที่ จ.เชียงใหม่และเชียงรายให้มากที่สุด เรื่องนี้ไม่ควรเกิดขึ้น เพราะเป็นความเห็นแก่ตัวของคนเพียงไม่กี่คน ทำให้คนไทยอีกจำนวนมากต้องเดือดร้อน ทั้งที่มีการประกาศห้ามเดินทางเข้า-ออกประเทศ แต่มีกลุ่มหนึ่งกลับเดินเข้าออกประเทศผ่านช่องทางธรรมชาติเป็นว่าเล่น  ถือว่าผิดกฎหมาย


“ผมสั่งสาธารณสุขจังหวัดผ่านคณะกรรมการควบคุมโรค มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน ทำเรื่องร้องทุกข์ดำเนินคดีกับบุคคลเหล่านี้ให้ถึงที่สุด ให้สมกับที่ทำร้ายบ้านเมือง ไม่ควรไปสงสารหรือให้ความชื่นชม เพราะจากที่กำลังจะเปิดประเทศ กลับต้องมานั่งทบทวนมาตรการใหม่” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ส่งรถชีวนิรภัย และระดมทุกอย่างไปตรวจขยายผลในพื้นที่เสี่ยง ทุกอย่างต้องใช้งบประมาณที่มาจากเงินภาษี  เป็นเพราะคนเห็นแก่ตัวเพียงไม่กี่คน ที่แอบเข้าประเทศมาโดยไม่มีการแจ้งเพื่อเข้ากักตัวตามมาตรการ แต่กลับออกไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ จนกระทั่งมีอาการป่วย และก็ยังไม่กล้าบอกความจริงว่าไปทำอะไรมาบ้าง จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องตามเช็คจาก GPS ในโทรศัพท์ย้อนหลัง


“คนเหล่านี้ถือเป็นคนที่แย่ มีความผิดทุกมาตรา ตั้งแต่ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ และยังไม่ปฏิบัติตามกฎการกักกันตัว 14 วัน รวมถึงโรงแรมที่ผู้ติดเชื้อไปพัก อาจมีความผิดด้วย  เพราะไม่แจ้งเมื่อพบว่าบุคคลต้องสงสัยเข้าพัก” นายอนุทิน กล่าว

อย่างไรก็ตาม  นายอนุทิน  ย้ำว่า จากการขยายผล ขณะนี้ ส่วนใหญ่ผลการตรวจโรคยังเป็นลบ ยอดการติดเชื้อมี 3 คน แต่ถือว่าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงต้องเฝ้าระวัง และหากใครรู้ตัวว่าสัมผัสใกล้ชิดกับกลุ่มเสี่ยงให้เข้ามาตรวจโรคทันที

ส่วนหลังจากนี้หากพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น จำเป็นต้องปิดเมืองเชียงใหม่และเชียงรายหรือไม่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ให้ความสำคัญกับการตรวจสอบเส้นทางธรรมชาติตามแนวชายแดน เพราะหากประชาชนผ่านเข้า-ออก และเข้ารับการตรวจสอบโรคตามมาตรการจะไม่มีปัญหา ไม่มีทางหลุดแน่นอน แต่การลักลอบเข้ามาเป็นเรื่องของจิตสำนึก  .- สำนักข่าวไทย   


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

เปิดใจ 5 ตัวประกันคนไทย บอกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่

เปิดใจ 5 ตัวประกันคนไทย บอกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ได้ชีวิตใหม่ ไม่สิ้นเคยหวัง เชื่อว่าต้องได้กลับบ้านในสักวัน เผยอยากกินลาบ-ซอยจุ๊

ดาวเทียมพบฝุ่นหนักในอาเซียน หลายประเทศทะลุ 190 AQI

ดาวเทียมพบฝุ่นหนักในอาเซียน “เมียนมา ลาว กัมพูชา มาเลเซีย” หลายประเทศทะลุ 190 AQI ส่วนไทย อีก 2 วัน มีลมแรงช่วยพัดฝุ่นกระจายตัวดีขึ้น ด้าน ปภ.ช. สั่งพรุ่งนี้ (3 ก.พ.) ดีเดย์ ทุกหน่วยทั่วประเทศเคาะประตูบ้าน “ห้ามเผา” ฝ่าฝืนจับสถานเดียว

จับตัวการใหญ่แก๊ง SIM BOX ชาวจีน

จับตัวการใหญ่แก๊ง SIM BOX ชาวจีน ว่าจ้าง 4 คนไทย ติดตั้ง SIM BOX รับสัญญาณโทรศัพท์จากแก๊งคอลเซ็นเตอร์กัมพูชา หลอกลวงคนไทย ตรวจสอบประวัติพบคดียาวเป็นหางว่าว ทั้งในไทยและไต้หวัน