พรรคเพื่อไทย 30 พ.ย.- “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” ชี้ “พล.อ.ประยุทธ์” ไม่เข้าข่ายใช้บ้านพักรับรองและบ้านพักสวัสดิการ ควรอยู่บ้านพักรับรอง คือ บ้านพิษณุโลก หากกังวลความปลอดภัย ควรขอกำลังดูแลไม่ใช่มโน ชี้คำวินิจฉัยศาล 2 ธ.ค. เป็นบรรทัดฐานตรวจสอบอีก 2 รมต.ที่อยู่บ้านหลวง
เมื่อเวลา 12.00 น. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยและลงมติกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ใช้บ้านพักรับรองของกองทัพบก ทั้งที่เกษียณอายุราชการ วันที่ 2 ธันวาคมนี้ ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ฝ่าฝืนและไม่ปฎิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง เพราะไม่ดำรงตนเป็นแบบอย่างที่ดีและรักษาภาพลักษณ์ของทางราชการ ใช้อภิสิทธิ์เหนือคนอื่น ไม่คำนึงกฎหมายบ้านเมือง กรณีที่อดีต ผบ.ทบ. กล่าวอ้างเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยนั้น เป็นเพียงการคาดคะเน และไม่มีการปรากฎ ว่ามีการร้องขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงดำเนินการเพิ่มเติมใด ๆ นอกจากนี้ยังมีระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ดูแลเรื่องความปลอดภัยอยู่แล้ว และที่ผ่านมายังไม่มีสิ่งบอกเหตุใด ๆ จะเกิดกับพล.อ.ประยุทธ์ นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ในอดีตหลายคนต่างก็อยู่บ้านพักส่วนตัว หรือบ้านพักรับรองนายกฯ คือบ้านพิษณุโลก หากห่วงเรื่องนี้สามารถส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลได้อยู่แล้ว หากนายกรัฐมนตรี ไม่กล้าอยู่บ้านพักตัวเอง จะสร้างความมั่นใจและคุมครองทรัพย์สินของประชาชนได้อย่างไร
“การที่พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาเป็นนายกฯ ถือว่าเป็นข้าราชการการเมือง จึงไม่เข้าข่ายระเบียบบ้านพักรับรองและบ้านพักสวัสดิการ แต่เนื่องจากพล.อ.ประยุทธ์เกษียณอายุแล้ว ประกอบกับในเรื่องบ้านพักรับรองก็ใช้สำหรับการต้อนรับแขกที่ไม่ได้อาศัยเป็นเดือนเป็นปี แต่พล.อ.ประยุทธ์ มาดำรงตำแหน่งนายกฯ ที่ถือเป็นข้าราชการการเมือง จึงไม่เข้าข่ายในเรื่องบ้านพักทั้งสองกรณี” เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าว
นายประเสริฐ ยังกล่าวว่า คำวินิจฉัยในวันที่ 2 ธันวาคมตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 211 วรรคสุดท้าย กำหนดว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้เป็นเด็ดขาด มีผลผูกพันรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล องค์กรอิสระและหน่วยงานของรัฐ ดังนั้นคำวินิจฉัยดังกล่าวจะเป็นบรรทัดฐานในอนาคตของข้าราชการที่เกษียณอายุ ว่าสามารถอยู่บ้านหลวงฟรีได้หรือไม่ โดยหน่วยงานต่าง ๆ จะต้องนำคำวินิจฉัยไปพิจารณา ซึ่งหากคำวินิจฉัยไม่สามารถอยู่ได้ ก็จะกระทบต่อรัฐมนตรีอีก 2 คน ที่อยู่บ้านหลวง ซึ่งขณะนี้พรรคกำลังตรวจสอบว่าทั้ง 2 คน ยังอยู่บ้านหลวงหรือไม่
ในส่วนกรณี พล.อ.ประยุทธ์ เทียบเคียงกับกรณีนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกตีความว่าเป็นลูกจ้างนั้น เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในกรณีของพล.อ.ประยุทธ์ เป็นเรื่องการรับผลประโยชน์ในขณะที่เป็นข้าราชการการเมือง เมื่อคำนวนเงินจากการอยู่บ้านหลวงหลังเกษียณมา 5 ปี จะสามารถคำนวนผลประโยชน์ได้เกินล้านบาท ซึ่งถือว่าขัดกันของผลประโยชน์ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 184 (3) และอยากถามว่าพล.อ.ประยุทธ์ มีบ้านส่วนตัว แต่ทำไมยังมาอยู่บ้านหลวงอีก.-สำนักข่าวไทย