กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม 30 พ.ย.-“พล.อ.ประวิตร” ประชุมเร่งจัดระเบียบที่ดิน ช่วยเกษตรกร/ผู้ยากไร้ ให้รับฟังความคิดเห็นรอบด้าน มุ่งกระจายการถือครองเป็นธรรม ลดเหลื่อมล้ำ สร้างมูลค่า เข้าถึงแหล่งทุน สั่งแก้ปัญหาที่ดินทับซ้อน อุทยานฯทับลาน
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายแนวทางและมาตรการการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดิน ณ ห้องประชุมอารีย์สัมพันธ์ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม โดยที่ประชุม รับทราบคำสั่งคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ที่ 1/2563 แต่งตั้งคณะอนุกรรมการจำนวน 9 คณะ เพื่อเป็นกลไกการดำเนินงาน และขับเคลื่อนนโยบายของ คทช. รับทราบการจัดทำนโยบายและแผนการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศ จำนวน 4 ยุทธศาสตร์ ประกอบด้วย 1. ด้านการรักษาความสมดุลทางธรรมชาติ การอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์ที่ดินและทรัพยากรดิน อย่างยั่งยืน
ด้านการใช้ที่ดินและทรัพยากรดินเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเป็นธรรม 3. ด้านการจัดที่ดินให้ประชาชนผู้ด้อยโอกาสอย่างทั่วถึง และเป็นธรรม และ4. ด้านการบริหารจัดการที่ดิน และทรัพยากรดิน ซึ่งตามพ.ร.บ. คทช. กำหนดให้ต้องรับฟังความคิดเห็น และการมีส่วนร่วมของประชาชน รวมถึง ได้รับทราบแผนการปฏิรูปประเทศด้านสังคม เรื่องการสร้างมูลค่าที่ดินที่รัฐจัดให้กับประชาชน โดยกำหนดเป้าหมายให้สามารถนำเอกสารแสดงสิทธิ์ที่ได้รับจากรัฐ ไปใช้เป็นหลักประกันการเข้าถึงแหล่งทุน สำหรับประกอบอาชีพได้
ที่ประชุมเห็นชอบให้สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดินรับฟังความคิดเห็นเพื่อเร่งแก้ปัญหาลดความเหลื่อมล้ำด้านที่ดิน และการกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรม สนับสนุนเกษตรกรและผู้ยากจนให้มีที่ทำกินหรือที่อยู่อาศัยและที่ดินที่ใช้ร่วมกันเพื่อประโยชน์ของชุมชน รวมถึงเห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหา แนวเขตและที่ดินอุทยานแห่งชาติทับลาน จ.นครราชสีมา ,จ.ปราจีนบุรี ซึ่งทับซ้อนกับที่ดินทำกินของราษฎร
พล.อ.ประวิตร กำชับคณะอนุกรรมการฯ สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งขับเคลื่อนการดำเนินงานตามที่ผ่านความเห็นชอบแล้ว ให้เป็นไปตามกรอบของกฎหมายอย่างจริงจังและรวดเร็ว ต้องรับฟังความคิดเห็นรอบด้าน โดยเปิดโอกาสให้ผู้ได้รับผลกระทบมีส่วนร่วมแก้ปัญหาที่ดินร่วมกันกับภาครัฐ เพื่อเร่งช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรและผู้ยากจนให้ได้รับสิทธิในการถือครองที่ดินอย่างถูกต้อง เป็นธรรมและยั่งยืนตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป.-สำนักข่าวไทย