รัฐสภา 24 พ.ย.-“ถาวร” โชว์หลักฐานชี้ “ธนาธร-ปิยบุตร” อยู่เบื้องหลังม็อบ สมคบคิดล้มสถาบัน ห่วงชุมนุมพรุ่งนี้ วอนผู้ชุมนุมยึดกฎหมาย หลักสันติ งดยั่วยุ ชี้ ใช้แก๊สน้ำตาสลายชุมนุมรอเบนี้เบาสุดกว่าทุกม็อบในอดีต
นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการชุมนุมโดยใช้เด็กเป็นเครื่องมือ นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงการปกครอง มีเป้าหมายล้มสถาบัน แต่เลี่ยงไปใช้คำว่าปฏิรูป เพราะปรากฏความสอดคล้องระหว่างหลักคิดของคนบงการถูกนำไปปฏิบัติในการชุมนุมและเป็นหลักคิดจะเดียวกันผ่านวิธีการ Hate speech
นายถาวร กล่าวว่า เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2559 นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้าไปพูดที่มหาวิทยาลัยลอนดอน กล่าวหาพาดพิงสถาบันว่ามีอำนาจ อิทธิพลเหนือผู้พิพากษา ซึ่งเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง เข้าลักษณะทฤษฎีสมคบคิด ทั้งนี้ นายถาวรได้นำคลิปวิดีโอวันดังกล่าวที่นายปิยบุตรไปพูดมาเปิดต่อสื่อมวลชนด้วย
“สถาบันไม่เคยสั่งการอะไรที่ไม่มีกฎเกณฑ์ หรือดำเนินตามใจชอบนอกเหนือที่รัฐธรรมนูญกำหนด สิ่งที่นายปิยบุตรกล่าวหานั้นเป็นสิ่งที่บิดเบือนไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริง นอกจากนี้ยังพบว่านายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้าร่วมสมคบคิดด้วย เห็นได้จากคำพูดของนายธนาธรที่ตีพิมพ์ในหนังสือ Portrait ธนาธรเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2561 รวมถึงการไปพูดในงานวิชาการตามสถานที่ต่าง ๆ ตอกย้ำเรื่องการปฏิรูปสถาบัน และพบว่าจัดตั้งพรรคการเมืองเพื่อเป็นเครื่องมือดำเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ แต่สุดท้ายพรรคก็ถูกยุบเพราะทำผิดกฏหมาย จากนั้นก็มีแฟลชม็อบ โดยหัวข้อการชุมนุมเกี่ยวกับการล้มล้างสถาบัน แล้วมีความพยายามเปลี่ยนชื่อ สถานที่สำคัญ ๆ หลายแห่ง เช่น สนามหลวงเปลี่ยนเป็นสนามราษฎร” นายถาวร กล่าว
นายถาวร กล่าวว่า นายปิยบุตรและนายธนาธรใช้ระยะเวลาประมาณ 10 เดือนปลุกปั่นเยาวชนให้เกลียดชังสถาบันผ่าน Hate Speech และโซเชียลมีเดีย และในวันพรุ่งนี้(25 พ.ย.) ผู้ชุมนุมนัดชุมนุมใหญ่อีกครั้งที่เพื่อตอบโต้การบังคับใช้กฎหมายมาตรา 112 โดยประกาศแผนการเข้าบุกล้อมเพื่อยึดสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ โดยแบ่งกำลังออกเป็น 4 กลุ่มบุกเข้าโจมตีทั้ง 4 ด้าน ซึ่งผู้ก่อการเตรียมยกระดับสถานการณ์ให้ไปสู่ความรุนแรง โดยเปลี่ยนการ์ดอาชีวะมาเป็นการ์ดรบพิเศษ เพื่อรับสถานการณ์ไปสู่ความรุนแรงให้ได้ตามยุทธศาสตร์สงครามประชาชน
“จึงเสนอไปยังผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบว่าให้ดำเนินคดีกับผู้บงการทุกระดับชั้นตามหลักนิติรัฐ นิติธรรมและยกเว้นโทษสำหรับผู้ชุมนุมที่ตกเป็นเหยื่อ ขณะที่นักการเมือง และพรรคการเมืองที่ต้องการปฏิรูปสถาบัน ให้ประกาศตัวยอมรับต่อสาธารณชนให้ชัดเจน ความผิดซึ่งหน้าเกิดขึ้นแล้วเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดีเอสไอ ฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายปกครองต้องมีหน้าที่ดำเนินการ อย่าขี้ขลาด เอาผิดตามกฏหมายโดยเด็ดขาด” นายถาวร กล่าว
นายถาวร กล่าวถึงการสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ที่ใช้แก๊สน้ำตา ว่า การสลายการชุมนุมครั้งนี้ เมื่อเทียบกับการชุมนุมที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเสื้อเหลือง เสื้อแดง หรือกปปส. ถือว่าละมุนละม่อมและเบาที่สุด จึงขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ที่ปฎิบัติหน้าที่และใช้ความอดทน สำหรับข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมที่ให้นายกรัฐมนตรีลาออก ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ ไม่ขอแสดงความคิดเห็น
“ส่วนการชุมนุมที่หน้าสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์พรุ่งนี้ ผมมีความเป็นห่วงหลายประเด็น และฝากถึงกลุ่มผู้ชุมนุมขอให้ปฏิบัติตามกฎหมาย เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตพระราชทาน จึงห้ามเข้าใกล้ในระยะ 150 เมตร พร้อมฝากไปยังการ์ดผู้ชุมนุม ขอให้ดูแลการชุมนุมโดยยึดหลักสงบ สันติอาหิงสา ปราศจากอาวุธ ดูแลผู้ชุมนุมไม่ยั่วยุ เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำหน้าที่ตามกฏหมายอย่างเหมาะสม” นายถาวร กล่าว
นายถาวร กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเป็นพสกนิกร เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ขอทำหน้าที่พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เชื่อว่าคนไทยกว่าร้อยละ 90 คิดเหมือนตน มีเพียงส่วนน้อยและผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังม็อบเท่านั้นที่คิดแตกต่าง.-สำนักข่าวไทย