fbpx

นายกฯ ยันไม่มีปฏิวัติ

ทำเนียบฯ 23 พ.ย.- นายกฯ ยืนยันไม่มีปฏิวัติ หรือประกาศกฎอัยการศึก ก่อนชุมนุม 25 พ.ย.นี้ ย้ำใช้กฎหมายดูแลผู้ชุมนุมทุกกลุ่ม และไม่อยากเห็นคนไทยฆ่ากันเอง ฝากถามแกนนำราษฎร เหตุใดต้องเข้าใกล้สำนักงานทรัพย์สินฯ


ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการชุมนุมวันที่ 25 พ.ย. ที่คาดว่าจะมีผู้ชุมนุม 2 ฝ่ายเผชิญหน้ากันว่า รัฐบาลจะพยายามห้ามไม่ให้มีการปะทะกัน ซึ่งทุกกลุ่มต้องเคารพกฎหมาย หากพบว่ามีการปะทะกัน ก็จะมีการเก็บหลักฐานและดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งหมด โดยกำชับเจ้าหน้าที่แล้วว่าให้ดำเนินการตามกฎหมายกับทั้ง 2 ฝ่าย ไม่มีการเลือกปฎิบัติ ซึ่งการชุมนุมถือเป็นสิทธิเสรีภาพที่ทุกฝ่ายทำได้ แต่ต้องไม่ก่อเหตุปะทะกัน รัฐบาลพยายามให้เกิดความสงบเรียบร้อยมากที่สุด พร้อมขอให้คำนึงถึงเจ้าหน้าที่บ้าง เนื่องจากเจ้าหน้าที่ถูกกกระทำเช่นกัน เจ้าหน้าที่มีหน้าที่รักษากฎหมายหากพบว่ามีการฝ่าฝืน ซึ่งวันนี้ดูเหมือนว่าเจ้าหน้าที่ทำอะไรก็ผิดไปหมด แต่หากไม่มีเจ้าหน้าที่ใครจะเป็นผู้ปฏิบัติงาน

ส่วนกรณีที่มีคำสั่งของสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้ตรวจเข้มการระดมมวลชนจากพื้นที่ต่างจังหวัดเข้าร่วมชุมนุมนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่จำเป็นต้องสั่งการ ซึ่งจากการสอบถามก็ไม่ได้มีการสั่งการเช่นนั้น แต่ทุกอย่างเป็นการทำงานตามปกติ ที่ทุกหน่วยงานมีการประเมินสถานการณ์ด้านความมั่นคง เพื่อความสงบสุขของบ้านเมืองและประชาชนโดยรวมทั่วไป ไม่ใช่เพื่อตนเอง ซึ่งเรื่องข้อมูลของการระดมคน เห็นว่ามีการให้ข้อมูลทางโซเชียลฯ จึงขอให้ตรวจสอบว่าน่าเชื่อถือหรือไม่ และวันนี้พบว่าข้อมูลเกือบทั้งหมดเป็นการบิดเบือน และนำไปสู่การสร้างความขัดแย้ง ตนไม่เห็นด้วยและขอให้ทุกฝ่ายทำความเข้าใจเช่นกัน ซึ่งบางครั้งเป็นการให้ข้อมูลเพื่อหวังให้เกิดการปะทะ โดยในอดีตเคยมีบทเรียนมาแล้ว จึงไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก ดังนั้นใครที่เป็นแกนนำต้องรับผิดชอบ ควบคุมสถานการณ์ให้ได้


ต่อข้อถามว่ามีการวิเคราะห์กันว่า มีความพยายามนำคนเสื้อเหลืองออกมาเคลื่อนไหวให้เกิดม็อบชนม็อบ เพื่อสร้างเงื่อนไขนำไปสู่รัฐประหาร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คงไม่ต้องพยายาม เพราะเชื่อว่าทุกคนสามารถคิดเองได้ การออกมาชุมนุมถือเป็นสิทธิ์ของทุกคน หลายอย่างขณะนี้ สามารถตรวจสอบได้ว่ามีเส้นทางมาจากไหน การใช้เครื่องเสียงและอุปกรณ์ที่นำมาแสดงออก อย่างไรก็ตามจะดูแลทั้ง 2 ฝ่าย เพราะในฐานะของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี ไม่อยากให้คนไทยต้องมาฆ่ากัน ไม่อยากให้มีการใช้ความรุนแรงเกิดขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่เศรษฐกิจก็มีปัญหาอยู่แล้ว รัฐบาลต้องดูแลให้ทุกกลุ่มมีความพึงพอใจและให้สถานการณ์เรียบร้อย ซึ่งการดำเนินการก็ต้องอาศัยกฎหมายและรัฐธรรมนูญ

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการที่แกนนำกลุ่มราษฎรประกาศจะชุมนุมให้ใกล้กับสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ว่า ฝากถามไปยังแกนนำว่าเพราะเหตุใดจึงต้องเข้าไปใกล้กับสำนักงานทรัพย์สินฯ มีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร ยืนยันจะไม่มีการปฎิวัติ และไม่มีการประกาศกฎอัยการศึก ขอให้ทุกคนทำให้บ้านเมืองสงบสุข ขณะนี้ทุกอย่างอยู่ในกระบวนการอยู่แล้ว เช่นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ช่วงเทศกาลหยุดยาวที่ผ่านมา ดีใจที่ประชาชนออกไปท่องเที่ยวจำนวนมาก แต่ขอให้ระมัดระวังเรื่องอุบัติเหตุ และเดือนหน้าที่จะมีช่วงวันหยุดยาวอีก ก็ขอให้ดูแลและวางแผนการเดินทางให้ดี เน้นความปลอดภัยเป็นหลัก พร้อมกำชับให้ผู้ที่ขับรถ โดยเฉพาะรถสาธารณะ ต้องไม่ดื่มสุรา ไม่ใช้ความเร็วเกินกำหนด และเคารพกฎจราจร รวมถึงตรวจสภาพรถให้พร้อม เพื่อไม่ให้มีการบาดเจ็บและเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว

คลี่ปมฆ่าโหดหนุ่มไทใหญ่ ทิ้งศพเชียงใหม่

ขมวดปมเข้ามาเรื่อยๆ สำหรับคดีฆ่าโหดใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวหนุ่มไทใหญ่ลากขึ้นรถนำศพไปทิ้งที่ อ.แม่ริม เชียงใหม่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่แกะรอยกล้องวงจรปิด พบรถที่กลุ่มคนร้ายใช้ขนศพ จ่อออกหมายจับอย่างน้อย 3 คน คาดปมสังหารจากเรื่องทะเลาะวิวาท

ไฟไหม้โกดังพระราม 2 เหตุร้อนจัด สารเคมีติดไฟเอง

กระทรวงอุตสาหกรรม เผยสาเหตุไฟไหม้โกดังย่านพระราม 2 มาจากอากาศร้อนจัด ทำให้สารไทโอยูเรียไดออกไซด์ติดไฟเอง เตือนสถานประกอบการให้แยกสารเคมีที่ติดไฟเองได้หรือสามารถทำปฏิกิริยาออกจากกัน หวั่นเกิดเหตุซ้ำ เพราะอากาศยังคงร้อนจัดต่อเนื่อง

ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย ปรับลดดอกเบี้ย MRR

นายกฯ ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย หั่นดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME