ทำเนียบรัฐบาล 16 พ.ย.- นายกฯชื่นชมรัฐวิสาหกิจที่ตั้งใจทำงานร่วมกับรัฐบาล เชื่อมั่นไทยเข้มแข็ง เป็นเป้าหมายของนักลงทุน ชี้นักท่องเที่ยวยังไม่มาเพราะโควิด วอนอย่าทำโอกาสให้เป็นวิกฤติ อย่าทำให้เกิดดับเบิ้ลวิกฤติ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานมอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น ประจำปี 2563 โดยมีจำนวนรางวัลทั้งสิ้น 42 รางวัล 12 ประเภทรางวัล เป็นรางวัลใช้ข้อมูลจากการดำเนินการวิสาหกิจในปี 2563 และรางวัลที่เป็นรัฐวิสาหกิจส่งโครงการเข้าประกวด โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐวิสาหกิจมีหน้าที่ 2-3 ประการ หน้าที่แรกคือทำงานในรัฐวิสาหกิจและทำงานเพื่อประชาชนในการให้บริการต่าง ๆ ซึ่งหลายหน่วยงานวิสาหกิจ ธุรกิจยังดีอยู่ ตนคงไม่ต้องเอ่ยนาม และขอชื่นชมผู้บริหาร พนักงานและผู้ที่เกี่ยวข้องที่ร่วมกันตั้งใจทำงานกับรัฐบาลโดยตลอดในสถานการณ์โควิด ซึ่งมีความยากลำบากพอสมควร
“ประเทศไทยโชคดีที่คนไทยทุกคนช่วยกันแก้ไขปัญหาโควิด รับมือได้ดีจนเป็นที่น่าพอใจ แต่ก็ยังไม่ประมาท ต้องเตรียมการให้พร้อม ต้องทำงานอย่างเต็มที่ ไม่ให้แพร่ระบาดในรอบ 2 ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทุกภาคส่วน เพื่อนำพาประเทศให้ปลอดภัยทั้งการลดภาระค่าครองชีพในการให้บริการ การสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน การเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้แก่ประชาชน ตามมาตรการทางการคลัง ซึ่งประเทศไทยยังคงเป็นประเทศที่ได้รับการชื่นชมสถานภาพอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากในเรื่องความเชื่อมั่นเชื่อถือ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาโควิด – 19 ที่ทำได้ดีเป็นพิเศษ ซึ่งน่าจะภูมิใจไปด้วยกัน” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เชื่อมั่นว่าไทยเป็นประเทศที่แข็งแกร่ง สามารถดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศและสามารถแข่งขันได้ หากเราผ่านพ้นช่วงนี้ไปได้ ประเทศจะพัฒนาได้ดีกว่านี้ โดยประเทศไทยเป็นเป้าหมายของนักลงทุนที่แย่งชิงกันเข้ามาลงทุนในประเทศ เพราะฉะนั้นเราต้องรักษาบ้านเมืองให้มีความสงบเรียบร้อย และมีเสถียรภาพทุกด้าน เชื่อว่าจะเป็นเป้าหมายของนักลงทุนต่างประเทศ ทุกวันนี้ต้องคิดใหม่ทำใหม่ทั้งหมดต้องปรับแก้กฎระเบียบต่างๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน
“ไทยต้องพึ่งการส่งออกและการท่องเที่ยว ต้องพัฒนาให้เข้มแข็ง วันนี้การท่องเที่ยวหลายคนอยากให้เข้ามาเยอะๆ แต่เขาไม่มาเพราะเขาห้ามมา ไม่ใช่เขาไม่มาเพราะเขารังเกียจนายกฯ ไม่เกี่ยวกัน ผมคิดว่าทุกประเทศเจอปัญหาเดียวกันหมด เพราะฉะนั้นให้ความเป็นธรรมกับรัฐบาลด้วย” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้เปิดเพลง คนดีไม่มีวันตาย ไม่มีใครรู้ แต่เรารู้ เราทำดี ทำไม่ดี ทำสุจริต ไม่สุจริต เรารู้ทั้งนั้น จึงฝากทุกคนทำด้วย เราเป็นฟันเฟืองหลักที่จะยกระดับประเทศในวันข้างหน้า จึงขอให้ร่วมมือกัน ดำเนินตามยุทธศาสตร์ชาติ ขอให้ช่วยกันแก้วิกฤติวันนี้ให้เป็นโอกาส อย่าทำโอกาสให้เป็นวิกฤติ หรืออย่าทำวิกฤติให้เป็นดับเบิ้ลวิกฤติ เพราะจะทำให้ไปไหนไม่ได้ ให้ทุกคนร่วมกันเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศไปข้างหน้า
“อย่าลืมว่าไม่มีใครทำอะไรคนเดียวได้ ไม่มีประเทศใดจะพัฒนาปัญหาของประเทศได้โดยลำพัง ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องยึดมั่น ซึ่งการจะพัฒนาประเทศเป็นอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับคนไทยทั้งประเทศ เพราะนั่นคือคนไทย นั่นคือประเทศไทย ภายใต้แกนหลัก ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง” นายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย