รัฐสภา 10 พ.ย. –“สมคิด” มองส.ว.-ส.ส.ยื่นตีความร่างรธน.เป็นอื่นไม่ได้นอกจากซื้อเวลา จี้นายกฯ บอกคนของตัวเองให้ถอนญัตติ ยันฝ่ายค้านรับหลักการทั้ง 7 ร่าง ด้าน “รังสิมันต์” อัดใช้ศาลรธน.ขยายเขตแดนอำนาจ ล้วงลูกรัฐสภา ชี้สันติเกิดยาก
นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงกรณีที่ส.ว.และส.ส.พรรคพลังประชารัฐร่วมกันเข้าชื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจำนวน 3 ฉบับว่า การเข้าชื่อที่เกิดขึ้นมองเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากเป็นการซื้อเวลา ซึ่งตนไม่อยากให้เกิดการยื่นเรื่องเช่นนี้ เพราะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมายมีความชัดเจนว่าต้องการให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ดังนั้น พรรครัฐบาลต้องยุติเรื่องนี้ อีกทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นข้อเรียกร้องสำคัญของกลุ่มผู้ชุมนุมด้วย
“แม้การยื่นศาลรัฐธรรมนูยจะเป็นสิทธิ แต่สถานการณ์แบบนี้ไม่เหมาะสม ส.ว.ที่ยื่นก็เป็นหน้าเก่า ๆ อยากเรียนไปยังพรรคพลังประชารัฐว่าการเมืองต้องเดินไปด้วยกัน ด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่อยู่ในรัฐสภาไม่ได้มีความซับซ้อน เพราะแต่ละร่างมีหลักการเดียวกัน อย่างไรก็ตาม การยื่นไปศาลรัฐธรรมนูญขึ้นอยู่กับความเห็นของประธานรัฐสภา ที่สำคัญบ้านเมืองต้องรับผิดชอบร่วมกัน ต้องใช้รัฐสภาเป็นทางออกให้กับประเทศ” นายสมคิด กล่าว
ส่วนท่าทีของส.ว.ที่ไม่เห็นด้วยกับการยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของไอลอว์ เพราะมองว่าไอลอว์รับเงินมาจากต่างประเทศ นายสมคิด กล่าวว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของไอลอว์มาจากประชาชนกว่าแสนคน จะผิดถูกอย่างไรควรให้รัฐสภาพิจารณา และว่า “ ฝากไปยังพล.อ.ประยุทธ์ว่าการยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความเชื่อว่าได้ไม่เท่าเสีย ถอยดีกว่า แม้พล.อ.ประยุทธ์จะสั่งไม่ได้แต่สามารถไปบอกคนเหล่านี้ได้” นายสมคิด กล่าว
นายสมคิด กล่าวว่า ส่วนการโหวตรับหลักการของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจำนวน 7 ฉบับ เฉพาะในส่วนของฝ่ายค้านจะรับหลักการทั้ง 7 ฉบับ ทราบว่ารัฐบาลจะไม่รับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับไอลอว์ เพราะเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญทุกเรื่อง รวมถึงหมวด 1 และหมวด 2 ด้วย แต่รัฐบาลจะรับหลักการเฉพาะร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของวิปรัฐบาลและฝ่ายค้านที่ให้ตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.) ส่วนรายมาตรารัฐบาลคงพิจารณาในรายละเอียด
ด้านนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า กระบวนการยื้อการแก้ไขรัฐธรรมนูญปรากฎมาตลอด โดยเฉพาะท่าทีของส.ว. จุดประสงค์ของการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความนั้นเท่ากับว่าพยายามใช้กลไกของศาลรัฐธรรมนูญเข้ามาขยายแดนอำนาจ การไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญเช่นนี้จะทำให้รัฐสภาพิจารณากฎหมายไม่ได้เลย เป็นการเปิดช่องให้ศาลรัฐธรรมนูญล้วงลูกและจำกัดอำนาจของรัฐสภา
“การยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความมองอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากการใช้กลไกกฎหมายเพื่อทำลายกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เช่นนี้เท่ากับการทำรัฐธรรมนูญ จะทำได้แค่การรัฐประหาร ฉีกรัฐธรรมนูญเท่านั้นใช่หรือไม่ ยิ่งทำก็ทำให้การเปลี่ยนด้วยสันติวิธีเกิดขึ้นได้ยาก” นายรังสิมันต์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย