รัฐสภา 9 พ.ย. – “ไพบูลย์” ชี้ข้อเรียกร้องกลุ่มราษฎร 63 เป็นปฏิปักษ์ ต่อสถาบันฯ เหตุก้าวล่วงรัฐธรรมนูญ มาตรา 6 เข้าข่ายผิดป.อาญา มาตรา 116
นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่าการที่แกนนำกลุ่มราษฏร 63 เสนอให้ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ โดยมีข้อเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบัน 10 ข้อ และได้นำขึ้นกล่าวปลุกระดมมวลชนในสถานที่ชุมนุมต่าง ๆหลายแห่ง ตนเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 116 ซึ่งบัญญัติว่า ผู้ใดกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญหรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต (3) เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดินต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี
นายไพบูลย์ กล่าวว่า มีข้อกฎหมาย ตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 3/2562 วันที่ 7 มีนาคม 2562 คดียุบพรรคไทยรักษาชาติ ในหน้าที่ 19 ถ้าพรรคการเมืองใดมีการกระทำที่เป็นการล้มล้าง หรือ เพียงอาจเป็นปฏิปักษ์ ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และอีกตอนวินิจฉัยว่า จะอ้างความไม่รู้ ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือความเห็น ความเชื่อของตนมาเป็นข้อแก้ตัวให้หลุดพ้นจากความรับผิดชอบต่อการกระทำนั้นไม่ได้ และในหน้าที่ 20 ศาลวินิจฉัยว่า ส่วนคำว่า ปฏิปักษ์ นั้นไม่จำต้องรุนแรงถึงขนาดมีเจตนาที่จะล้มล้างทำลายให้สิ้นไป ทั้งยังไม่จำต้องถึงขนาดตั้งตนเป็นศัตรูหรือฝ่ายตรงข้ามเท่านั้น เพียงแต่เป็นการกระทำที่มีลักษณะเป็นการขัดขวางหรือสกัดกั้นมิให้เจริญก้าวหน้า หรือเป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดผลเป็นการเซาะกร่อนบ่อนทำลาย จนเกิดความชำรุดทรุดโทรม เสื่อมทราม หรืออ่อนแอลง ก็เข้าลักษณะของการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ได้แล้ว
นายไพบูลย์ กล่าวว่า สำหรับประเด็นเรื่องเจตนานั้น เมื่อมาตรา 92 วรรคหนึ่ง (2) บัญญัติชัดเจนว่า เพียงแค่อาจเป็นปฏิปักษ์ ก็ต้องห้ามแล้ว หาจำต้องมีเจตนาประสงค์ต่อผล หรือต้องรอให้เกิดผลเสียหายร้ายแรงขึ้นจริงเสียก่อนไม่ ทั้งนี้ก็เพื่อให้เป็นมาตรการป้องกันความเสียหายร้ายแรงที่อาจเกิดแก่สถาบันหลักของประเทศไว้ก่อน อันเป็นรัฐประศาสโนบายที่จำเป็นเพื่อดับไฟกองใหญ่ไว้แต่ต้นลมมิให้ไฟกองเล็กกระพือโหมไหม้ลุกลามขยายใหญ่จนเป็นมหันตภัยที่ไม่อาจต้านทานได้ในวาระต่อไป จึงเห็นได้ว่าข้อเรียกร้อง 10 ข้อ ให้ปฏิรูปสถาบันฯ ล้วนแต่เป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันฯทั้งสิ้น ดังนั้น การกระทำของแกนนำกลุ่มราษฎร 63 จึงเท่ากับตั้งตนเป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันฯ มิใช่เป็นการกระทำเพื่อปฏิรูปสถาบันฯอย่างที่กล่าวอ้าง
นายไพบูลย์ กล่าวว่า ข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันฯทั้ง 10 ข้อ เป็นการก้าวล่วงที่ไม่บังควรกระทำ และขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 6 ซึ่งบัญญัติว่า องค์พระมหากษัตริย์ทรงดํารงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใด ๆ มิได้ ด้วยรวมทั้งยังทำลายจารีตประเพณีที่ยาวนานของสังคมไทย และการจาบจ้วงสถาบันฯ เป็นการกระทำที่ล่วงละเมิดลบหลู่ความเชื่อ ความศรัทธา และความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ของประชาชนคนไทยหลายสิบล้านคน
นายไพบูลย์ กล่าวว่า แกนนำกลุ่มราษฏร 63 ที่เสนอให้ปฏิรูปสถาบันฯ ไม่ว่าเป็นกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใด ย่อมถือว่ามิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ เนื่องจากก้าวล่วงรัฐธรรมนูญ มาตรา 6 จึงไม่ได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 34 ให้สามารถแสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวได้ และด้วยเพราะแกนนำกลุ่มราษฎร 63 ตั้งตนเป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันฯ จึงมิใช่เป็นการแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต และการกระทำของแกนนำกลุ่มราษฎร 63 ยังทำให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ไม่ว่าเป็น พ.ร.บ. ชุมนุมสาธารณะ หรือ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน การกระทำของแกนนำกลุ่มราษฏร 63 จึงครบองค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116
นายไพบูลย์ กล่าวว่า ตนจึงเสนอข้อกฎหมายให้ประชาชนที่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่อยู่ในกรุงเทพและในต่างจังหวัด 76 จังหวัด ทั่วทั้งประเทศหลายสิบล้านคน ให้ปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ หมวด 4 หน้าที่ปวงชนชาวไทย มาตรา 50 (1) บัญญัติว่า บุคคลมีหน้าที่ ดังต่อไปนี้ (1) พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยหากพบว่ามีแกนนำกลุ่มราษฎร์ 63 หรือเรียกชื่ออื่นก็ตาม ที่มีพฤติการณ์จัดชุมนุม และเรียกร้องปฏิรูปสถาบันฯ อันเป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ตามที่กล่าวมาข้างต้น ขอให้ประชาชนที่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ สามารถไปร้องทุกข์กล่าวโทษเอาผิดกับแกนนำผู้ชุมนุมเหล่านั้น ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 เพื่อให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่ตั้งตนเป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ต้องยุติการกระทำที่ผิดกฎหมายดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย