ให้ทำสื่อชวนคนเลือกตั้งท้องถิ่น

สำนักงานกกต. 29 ต.ค.-กกต.ประชุมผอ.กกต.ประจำจังหวัด เตรียมพร้อมเลือกตั้งนายกอบจ. พร้อมให้จัดทำสื่ออัตลักษณ์ประจำท้องถิ่นรณรงค์ประชาชนออกมาเลือกตั้ง คาดผู้มาใช้สิทธิร้อยละ 75


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) พร้อมด้วยพ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกกต. นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการกกต. และผู้บริหารสำนักงานฯ ร่วมประชุมผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดและกรุงเทพมหานครผ่านระบบทางไกล (GIN Conference) โดยมีพ.ต.อ.จรุงวิทย์ เป็นประธานการประชุมเพื่อมอบนโยบายการเตรียมความพร้อมการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นขององค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) เพื่อเผยแพร่สื่อประชาสัมพันธ์ตามกิจกรรมสื่ออัตลักษณ์ท้องถิ่นไทย สร้างนวัตกรรมใหม่ พร้อมใจไปเลือกตั้ง (Kick Off) ในวันที่ 20 ธันวาคม 2563 ภายใต้โครงการพัฒนาช่องทางการมีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งสำนักงานฯ จัดทำ “สื่ออัตลักษณ์ท้องถิ่นของแต่ละจังหวัด” เพื่อประชาสัมพันธ์เผยแพร่สื่ออัตลักษณ์ให้เข้าถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งและประชาชนได้ตรงตามอัตลักษณ์ท้องถิ่นของแต่ละจังหวัด เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่น และกระตุ้นเตือนให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งตระหนักถึงการออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ผ่านทางภาคีเครือข่ายต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัด หรือช่องทางอื่น ๆ ที่เหมาะสม

นายฐิติเชฏฐ์ กล่าวเน้นย้ำให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกและนายกอบจ.ที่จะลงสมัครระหว่างวันที่ 2 -6 พฤศจิกายนนี้ตรวจสอบว่าตัวเองมีคุณสมบัติครบถ้วนตามมาตรา 49 และไม่มีลักษณะต้องห้าม 26 ประการ ตามมาตรา 49 ของพ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่น โดยเฉพาะผู้สมัครที่อยู่ระหว่างการถูกระงับสิทธิชั่วคราว การต้องห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือผู้ที่ไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันเลือกตั้งทั่วไป 24 มีนาคม 2562 แล้วไม่ได้แจ้งเหตุ จะถูกจำกัดสิทธิไม่สามารถลงสมัครได้


“กกต.เป็นห่วงว่าหากไปยื่นใบสมัครและตรวจพบในภายหลัง จะถือว่าเป็นผู้ที่รู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิสมัคร แต่ยังลงสมัคร ซึ่งมีความผิดตามมาตรา 120 และกกต.ไม่สามารถหลีกเลี่ยงที่จะไม่ดำเนินคดีอาญาได้ โดยจะมีโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับ 20,000 – 200,000 บาท และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี” นายฐิติเชษฐ์ กล่าว

นายฐิติเชษฐ์ กล่าวว่าการเลือกตั้งในครั้งนี้ แม้กกต.ไม่ได้เป็นผู้จัดโดยตรง แต่มีหน้าที่ควบคุมให้การเลือกตั้ง สุจริต โปร่งใส เที่ยงธรรมตามกฎหมาย จึงอยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันตรวจสอบ สอดส่อง ไม่ให้การทุจริตเกิดขึ้น โดยกกต.จะระดมภาคีเครือข่ายทั้งหมดในการสร้างความรู้ ความเข้าใจให้ประชาชนมาใช้สิทธิให้มาก ลดบัตรเสีย และได้การเลือกตั้งที่มีคุณภาพอย่างแท้จริง ทั้งนี้ จากที่เราไม่ได้เลือกตั้งมาเป็นเวลานาน คิดว่าประชาชนจะตื่นตัวออกมาใช้สิทธิไม่ต่ำกว่าร้อยละ 75

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแถลงข่าวครั้งนี้ กกต.และผู้บริหารสำนักงานให้รายละเอียดเกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่นเท่านั้น โดยไม่ขอให้รายละเอียดในประเด็นการเมืองอื่น ๆ


ทางด้านนายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต. เป็นประธานจับสลากแต่งตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัด สำหรับปฏิบัติหน้าที่ในการเลือกตั้งสมาชิกและนายกอบจ. ซึ่งการจับสลากดังกล่าว เป็นไปตามระเบียบกกต.ที่นำรายชื่อผู้ตรวจการเลือกตั้งในแต่ละเขต มาจับสลาก เพื่อแต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่จังหวัดละ 5 – 8 คน ใน 76 จังหวัด ขึ้นอยู่กับจำนวนเขตเลือกตั้งในจังหวัดนั้น ๆ โดยใน 1 จังหวัดจะมีผู้ตรวจฯ ที่เป็นคนในพื้นที่ 2 คน ส่วนที่เหลือจะเป็นการปฏิบัติหน้าที่ข้ามจังหวัด ซึ่งใช้บัญชีผู้ปฏิบัติหน้าที่ผู้ตรวจการเลือกตั้งที่สมัครตั้งแต่การเลือกตั้งส.ส.และส.ว. และเมื่อจะเลือกตั้งระดับใด จะต้องจับสลากใหม่ เพื่อให้ได้ผู้ตรวจการมาปฏิบัติหน้าที่ในแต่ละคราวไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม