นายกฯ ยันเดินหน้าทำงานแก้ไขวิกฤติประเทศ

ทำเนียบฯ 28 ต.ค.-นายกฯ ยืนยันเดินหน้าทำงานแก้ไขปัญหาวิกฤตประเทศ เชื่อมีทางออก แต่ทุกคนต้องช่วยกันหาหนทางที่ดีที่สุด พร้อมตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์จากทุกฝ่าย ย้ำหนุนแก้ รธน. ฝากเอ็นจีโอ อาศัยในประเทศไทย ต้องช่วยกันพัฒนาประเทศ


ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการประชุมรัฐสภา ที่มีข้อเสนอให้ตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ เพื่อหาทางออกของประเทศว่า ได้ย้ำผ่านกับสื่อมวลชนไปหลายครั้งและในการประชุมรัฐสภาเมื่อคืนที่ผ่านมาว่า ตนมีความจำเป็นที่จะต้องนำพาประเทศให้ผ่านพ้นวิกฤตต่อไปได้ในทุก ๆ เรื่อง โดยเฉพาะในช่วงเวลาขณะนี้ที่ทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามกฎหมาย ตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ คงไม่ใช่เรื่องของตนเองเพียงฝ่ายเดียว แต่เป็นเรื่องที่ทุกคนจะต้องร่วมมือและหันหน้าเข้ามาพูดคุยกัน ในฐานะที่ทุกคนเป็นคนไทยด้วยกัน ให้เป็นไปอย่างประนีประนอม และสันติวิธี ซึ่งถือเป็นทางออกที่ดีที่สุด และตนไม่ได้เกลียดชังใครทั้งสิ้น เพราะไม่ว่าใครจะว่าร้ายอย่างไร แต่ตนก็สามารถรับฟังได้ เพราะจะต้องมีความอดทนในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรี และไม่โมโห ต้องไม่โกรธง่าย ต้องพูดจาไพเราะ ซึ่งวันนี้คิดว่าก็พูดเพราะกว่าหลายคน ที่ได้ยินมาในขณะนี้

นายกรัฐมนตตรี กล่าวว่า ทางออกของสถานการณ์นั้นมีอยู่แล้ว เพียงแต่ขอให้เจอทางออกนั้น เพราะคงไม่มีปัญหาใดที่แก้ไม่ได้ ขอให้เชื่อมั่นและมั่นใจว่า เราจะต้องช่วยกันเลือกหนทาง ที่ดีที่สุดให้กับประเทศ ซึ่งไม่ใช่เรื่องของตนเพียงฝ่ายเดียว แต่เป็นเรื่องของทุกคนที่ต้องคิดร่วมกัน


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การประชุมตลอด 2 วัน ที่ผ่านมา ต้องขอบคุณประธานรัฐสภา และสมาชิกทุกคน ที่มีการอภิปรายหารือกันด้วยความสงบเรียบร้อย แม้จะมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นก็ตาม ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในสภาของไทยและถือเป็นเรื่องที่ประชาชนทุกคนต้องพิจารณาถึงความเหมาะสม สภาของไทย ไม่ควรเป็นเหมือนสภาในต่างประเทศ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่สรุปได้จากการประชุมรัฐสภา ตลอด 2 วันที่ผ่านมานั้น มีหลายอย่างที่ตนเห็นด้วย โดยเรื่องที่สำคัญที่ตนสนับสนุนคือเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นหน้าที่ของรัฐสภา ที่ต้องผ่านหลายกระบวนการตามรัฐธรรมนูญปัจจุบันที่ยังคงบังคับใช้อยู่ จนกว่าจะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จึงยังไม่สามารถตั้งกฎกติกาใหม่ได้ในทันทีตามที่บางฝ่ายต้องการได้
ในส่วนที่จะกำหนดให้ ส.ว.มีหน้าที่เลือกหรือไม่เลือกนายกรัฐมนตรีนั้น ตนไม่ได้ให้ความสำคัญตรงนี้ หากจะไม่เลือกตนก็ไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด ก็เป็นเรื่องที่จะต้องหารือกันในรัฐสภาต่อไป

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เห็นด้วยกับการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ขึ้นมาเพื่อศึกษาหาทางออกในแนวทางของรัฐสภา ซึ่งทางรัฐสภาน่าจะเป็นผู้ตั้งคณะกรรมการ ที่มาจากหลายฝ่าย ทั้งในส่วนของรัฐสภา ทั้ง ส.ส. ส.ว. รวมทั้งกลุ่มที่เห็นด้วยและเห็นต่าง โดยขอให้เป็นการหารือโดยสงบ สามารถมีข้อยุติได้ ซึ่งจะต้องเป็นลักษณะของการมองถึงบริบทของประเทศไทย ส่วนที่มีคำถามว่าคณะกรรมการชุดนี้จะถูกครอบงำหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะพูดเช่นนี้คงไม่ได้ เพราะต้องให้เกียรติทางสภาฯ และ ส.ส. รวมถึง ส.ว.ที่เสนอขึ้นมา ทั้งนี้ทุกคนต้องให้ความเคารพและเชื่อใจซึ่งกันและกัน ไม่ตั้งธงไว้ล่วงหน้า


นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีท่าทีของต่างประเทศที่ให้ NGO ที่เข้ามาแทรกแซงกิจการภายในแต่ละประเทศ เดินทางออกจากประเทศ ว่า ตนไม่ขอแสดงความเห็น เพราะถือเป็นเรื่องของแต่ละประเทศ ที่มีกฎหมายเป็นของตัวเอง ในส่วนของไทยจะต้องประเมินว่า มีกิจกรรมใดบ้างที่มีปัญหาอยู่ ซึ่งจะต้องมีการพุดคุยหารือว่า ต้องไม่มีนัยยะใด ๆ แอบแฝง ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของแต่ละกลุ่มที่มีความแตกต่างกันไป เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อแต่ละประเทศ และไทยยังมีปัญหาหลายอย่าง เช่น เรื่องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ที่บางครั้ง เอ็นจีโอเข้ามาทำให้กระบวนการต่าง ๆ ช้าลง เช่นเรื่องการทำประชาพิจารณ์ หรือการทำประชามติ ที่อาจมีคนภายนอกเข้ามาแสดงความเห็น หรือต่อต้าน ในขณะที่คนในพื้นที่ไม่ได้ประโยชน์และได้รับความเสียหาย เหล่านี้จะต้องมีการบริหารจัดการที่เหมาะสม วันนี้จึงต้องฝากไปยังเอ็นจีโอที่อยู่ในประเทศไทย ว่าเมื่อทำงานหรืออาศัยอยู่ในประเทศไทย ก็ต้องช่วยประเทศไทยในการพัฒนาชาติบ้านเมือง เช่นเดียวกับคนไทยที่อยู่ในต่างประเทศ ที่ต้องเสียภาษีและกลายเป็นพลเมืองของต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน ก็ต้องเคารพกฎหมายของที่นั้น ๆ

ต่อข้อถามว่านายกรัฐมนตรี จะอยู่ครบวาระ 4 ปี โดยไม่ต้องรับข้อเสนอของผู้ชุมนุมหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไม่ทราบ และต้องพิจารณาว่าตนเองเข้ามาด้วยอะไร และจะออกจากตำแหน่งอย่างไร และไม่อยากให้กรณีนี้เป็นบรรทัดฐานต่อไปในอนาคต เพราะรัฐบาลคงไม่ได้หยุดเพียงรัฐบาลนี้เท่านั้น เพราะกระบวนการเลือกตั้งและกระบวนการต่างๆ นั้นมีตามรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกสบายใจขึ้นหรือไม่ หลังรับฟังการอภิปรายของสมาชิกรัฐสภาตลอด 2 วัน โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า รู้สึกสบายใจ แต่ไม่สบายกาย เนื่องจากเจ็บหู.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

“ฟิล์ม-ดีเจแมน” ไกล่เกลี่ยได้ ยอมถอนฟ้องคดีหมิ่นประมาท

ศาลอาญา 2 ก.ค. – “ฟิล์ม รัฐภูมิ” จับมือปรับความเข้าใจ “ดีเจแมน” ในศาล ไกล่เกลี่ยกันได้-ยอมถอนฟ้องคดีหมิ่นประมาท แต่คดีแจ้งความที่กองปราบฯ ยังเดินหน้าต่อ วันนี้ (2 ก.ค.68) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ภายหลังการไกล่เกลี่ยกันระหว่างนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือฟิล์ม นักร้อง นักแสดงชื่อดัง ที่เป็นโจทก์ฟ้อง นายพัฒนพล กุญชร หรือ ดีเจแมน เป็นจำเลยในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ในกรณีกล่าวหาว่า นายรัฐภูมิ เรียกเงิน 14 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือคดี Forex-3D เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยทั้ง 2 ฝ่าย ใช้เวลาในการเจรจากันนานเกือบ 3 ชั่วโมง นายฟิล์ม เปิดเผยหลังการเจรจากันว่า อย่างที่เคยพูดไว้ว่า ถ้าทุกอย่างคุยกันได้ ตนก็พร้อมให้อภัยทุกเรื่อง เพราะที่ฟ้องไม่ได้มีเจตนาอะไร ก็อยากยืนยันในความบริสุทธิ์ใจของตัวเอง เพราะผมไม่ใช่เป็นอย่างที่เขาพูด แล้วก็ไม่เคยไปตบทรัพย์ หรือไม่เคยไปทำอะไรที่ไม่ดี ซึ่งในห้องพิจารณาคดีที่ได้มีการคุยกัน […]

รวบเพิ่มอีก 1 แก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงิน 3.4 ล้าน

นนทบุรี 2 ก.ค. – สืบนครบาลบุกรวบเพิ่มอีก 1 คน แก๊ง “เสือปุ่น” ร่วมปล้นเงิน 3.4 ล้านบาท ระหว่างเข้าจับกุมพยายามปีนหลังคาหลบหนี สุดท้ายไม่รอด ตกลงมาบาดเจ็บ เร่งล่าอีก 4 รายที่ยังหลบหนี ภาพขณะตำรวจสืบนครบาล บุกรวบนายนนทวัฒน์ หรือสอง ที่บ้านพักย่านนนทบุรี หลังร่วมแก๊งนายวรวัฒน์ หรือ “เสือปุ่น” คนดังสายคุกในโซเชียล ปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท ในลานจอดรถห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว โดยนายสอง พยายามหลบหนีด้วยการปีนหลังคาบ้านและตกลงมาถูกเศษกระจกบาดขาได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวนายสอง ส่งโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าก่อน จากนั้นนำตัวมาสอบปากคำที่ สน.พหลโยธิน โดยมีรายงานข่าวว่าผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองบัญชาการตำรวจนครบาลจะเข้ามาสอบปากคำนายสองด้วยตนเอง สำหรับคดีนี้มีผู้ต้องหาทั้งหมด 7 คน ถูกจับกุมเมื่อวานนี้ (1 ก.ค.) 2 คน คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว ทำหน้าที่เป็นเอเย่นต์หรือตัวแทนหลอกซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี ผ่านเฟซบุ๊ก และ น.ส.นานา ซึ่งอ้างว่าถูกนายหนาวชักชวนมาก่อเหตุ ล่าสุดคือนายสอง ทำให้ยังเหลือผู้ต้องหาตามหมายจับที่ยังหลบหนี […]

“พล.อ.ณัฐพล​” ยัน​ไม่มีสุญญากาศ​ แม้ไร้​ รมว.กลาโหม

กลาโหม 2 ก.ค.- “พล.อ.ณัฐพล​” ยัน​ไม่มีสุญญากาศ ​แม้ไร้​ รมว.กลาโหม​ เผย​ชายแดนกัมพูชา​มีแนวโน้มดีขึ้น​ หลัง “เตีย​ เซ็ยฮา​” ยอมคุย​เปิดเวที​ GBC​ แต่อยู่ระหว่างต่อรอง​ ย้ำ​คำนึงถึงศักดิ์​ศรีของ​ 2 ประเทศ​ ขอบคุณนายกฯ เชื่อมั่น​ พร้อมระบุ​ กต.​เตรียมรับมือปม “ฮุน มา​เนต” นำ​ 3 ปราสาท​ -​ 1 พื้นที่สู่ศาลโลก พลเอกณัฐพล​ นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม​ กล่าวถึง ภาพรวมสถานการณ์ชายแดนไทย- กัมพูชา ว่า ขณะนี้สถานการณ์ยังทรงอยู่ แต่เราได้ใช้กลไกในทุกระดับของกองทัพ ในการประสานงานกับกัมพูชา และพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการ เพื่อให้เข้าสู่กระบวนการพูดคุยแบบทวิภาคี​ สิ่งที่กระทรวงกลาโหมคาดหวัง คือกลไก​ GBC​ ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธาน ในขณะเดียวกันระดับรัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ก็มีการพูดคุย​ ซึ่งมีสัญญาณที่ดีขึ้นเล็กน้อย คือทางกัมพูชาเริ่มคุยด้วยจากก่อนหน้านี้ที่ไม่คุยเลย แต่ยอมรับว่ายังมีการต่อรองกันอยู่ ซึ่งฝ่ายไทยยึดถือศักดิ์ศรีของ 2 ประเทศ […]

“สุริยะ” ปัดตอบตื่นเต้นหรือไม่ รักษาราชการแทนนายกฯ วันแรก

ทำเนียบ 2 ก.ค.- “สุริยะ” ยิ้มรับสื่อฯ ทำหน้าที่รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานวันสถาปนาสำนักนายกรัฐมนตรี ปีที่ 93 ปัดตอบตื่นเต้นหรือไม่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เดินลงจากตึกไทยคู่ฟ้าโดยมีสีหน้ายิ้มแย้ม ปฏิเสธตอบคำถามสื่อมวลชนว่าตื่นเต้นหรือไม่ ในการทำหน้าที่รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีเป็นวันแรก จากนั้นนายสุริยะ เป็นประธานในพิธีเนื่องในโอกาสวันสถาปนาสำนักนายกรัฐมนตรี ปีที่ 93 ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ถือเป็นภารกิจแรกหลังทำหน้าที่รักษาราชการนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย