นายกฯ ยันเดินหน้าทำงานแก้ไขวิกฤติประเทศ

ทำเนียบฯ 28 ต.ค.-นายกฯ ยืนยันเดินหน้าทำงานแก้ไขปัญหาวิกฤตประเทศ เชื่อมีทางออก แต่ทุกคนต้องช่วยกันหาหนทางที่ดีที่สุด พร้อมตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์จากทุกฝ่าย ย้ำหนุนแก้ รธน. ฝากเอ็นจีโอ อาศัยในประเทศไทย ต้องช่วยกันพัฒนาประเทศ


ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการประชุมรัฐสภา ที่มีข้อเสนอให้ตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ เพื่อหาทางออกของประเทศว่า ได้ย้ำผ่านกับสื่อมวลชนไปหลายครั้งและในการประชุมรัฐสภาเมื่อคืนที่ผ่านมาว่า ตนมีความจำเป็นที่จะต้องนำพาประเทศให้ผ่านพ้นวิกฤตต่อไปได้ในทุก ๆ เรื่อง โดยเฉพาะในช่วงเวลาขณะนี้ที่ทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามกฎหมาย ตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ คงไม่ใช่เรื่องของตนเองเพียงฝ่ายเดียว แต่เป็นเรื่องที่ทุกคนจะต้องร่วมมือและหันหน้าเข้ามาพูดคุยกัน ในฐานะที่ทุกคนเป็นคนไทยด้วยกัน ให้เป็นไปอย่างประนีประนอม และสันติวิธี ซึ่งถือเป็นทางออกที่ดีที่สุด และตนไม่ได้เกลียดชังใครทั้งสิ้น เพราะไม่ว่าใครจะว่าร้ายอย่างไร แต่ตนก็สามารถรับฟังได้ เพราะจะต้องมีความอดทนในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรี และไม่โมโห ต้องไม่โกรธง่าย ต้องพูดจาไพเราะ ซึ่งวันนี้คิดว่าก็พูดเพราะกว่าหลายคน ที่ได้ยินมาในขณะนี้

นายกรัฐมนตตรี กล่าวว่า ทางออกของสถานการณ์นั้นมีอยู่แล้ว เพียงแต่ขอให้เจอทางออกนั้น เพราะคงไม่มีปัญหาใดที่แก้ไม่ได้ ขอให้เชื่อมั่นและมั่นใจว่า เราจะต้องช่วยกันเลือกหนทาง ที่ดีที่สุดให้กับประเทศ ซึ่งไม่ใช่เรื่องของตนเพียงฝ่ายเดียว แต่เป็นเรื่องของทุกคนที่ต้องคิดร่วมกัน


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การประชุมตลอด 2 วัน ที่ผ่านมา ต้องขอบคุณประธานรัฐสภา และสมาชิกทุกคน ที่มีการอภิปรายหารือกันด้วยความสงบเรียบร้อย แม้จะมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นก็ตาม ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในสภาของไทยและถือเป็นเรื่องที่ประชาชนทุกคนต้องพิจารณาถึงความเหมาะสม สภาของไทย ไม่ควรเป็นเหมือนสภาในต่างประเทศ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่สรุปได้จากการประชุมรัฐสภา ตลอด 2 วันที่ผ่านมานั้น มีหลายอย่างที่ตนเห็นด้วย โดยเรื่องที่สำคัญที่ตนสนับสนุนคือเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นหน้าที่ของรัฐสภา ที่ต้องผ่านหลายกระบวนการตามรัฐธรรมนูญปัจจุบันที่ยังคงบังคับใช้อยู่ จนกว่าจะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จึงยังไม่สามารถตั้งกฎกติกาใหม่ได้ในทันทีตามที่บางฝ่ายต้องการได้
ในส่วนที่จะกำหนดให้ ส.ว.มีหน้าที่เลือกหรือไม่เลือกนายกรัฐมนตรีนั้น ตนไม่ได้ให้ความสำคัญตรงนี้ หากจะไม่เลือกตนก็ไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด ก็เป็นเรื่องที่จะต้องหารือกันในรัฐสภาต่อไป

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เห็นด้วยกับการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ขึ้นมาเพื่อศึกษาหาทางออกในแนวทางของรัฐสภา ซึ่งทางรัฐสภาน่าจะเป็นผู้ตั้งคณะกรรมการ ที่มาจากหลายฝ่าย ทั้งในส่วนของรัฐสภา ทั้ง ส.ส. ส.ว. รวมทั้งกลุ่มที่เห็นด้วยและเห็นต่าง โดยขอให้เป็นการหารือโดยสงบ สามารถมีข้อยุติได้ ซึ่งจะต้องเป็นลักษณะของการมองถึงบริบทของประเทศไทย ส่วนที่มีคำถามว่าคณะกรรมการชุดนี้จะถูกครอบงำหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะพูดเช่นนี้คงไม่ได้ เพราะต้องให้เกียรติทางสภาฯ และ ส.ส. รวมถึง ส.ว.ที่เสนอขึ้นมา ทั้งนี้ทุกคนต้องให้ความเคารพและเชื่อใจซึ่งกันและกัน ไม่ตั้งธงไว้ล่วงหน้า


นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีท่าทีของต่างประเทศที่ให้ NGO ที่เข้ามาแทรกแซงกิจการภายในแต่ละประเทศ เดินทางออกจากประเทศ ว่า ตนไม่ขอแสดงความเห็น เพราะถือเป็นเรื่องของแต่ละประเทศ ที่มีกฎหมายเป็นของตัวเอง ในส่วนของไทยจะต้องประเมินว่า มีกิจกรรมใดบ้างที่มีปัญหาอยู่ ซึ่งจะต้องมีการพุดคุยหารือว่า ต้องไม่มีนัยยะใด ๆ แอบแฝง ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของแต่ละกลุ่มที่มีความแตกต่างกันไป เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อแต่ละประเทศ และไทยยังมีปัญหาหลายอย่าง เช่น เรื่องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ที่บางครั้ง เอ็นจีโอเข้ามาทำให้กระบวนการต่าง ๆ ช้าลง เช่นเรื่องการทำประชาพิจารณ์ หรือการทำประชามติ ที่อาจมีคนภายนอกเข้ามาแสดงความเห็น หรือต่อต้าน ในขณะที่คนในพื้นที่ไม่ได้ประโยชน์และได้รับความเสียหาย เหล่านี้จะต้องมีการบริหารจัดการที่เหมาะสม วันนี้จึงต้องฝากไปยังเอ็นจีโอที่อยู่ในประเทศไทย ว่าเมื่อทำงานหรืออาศัยอยู่ในประเทศไทย ก็ต้องช่วยประเทศไทยในการพัฒนาชาติบ้านเมือง เช่นเดียวกับคนไทยที่อยู่ในต่างประเทศ ที่ต้องเสียภาษีและกลายเป็นพลเมืองของต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน ก็ต้องเคารพกฎหมายของที่นั้น ๆ

ต่อข้อถามว่านายกรัฐมนตรี จะอยู่ครบวาระ 4 ปี โดยไม่ต้องรับข้อเสนอของผู้ชุมนุมหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไม่ทราบ และต้องพิจารณาว่าตนเองเข้ามาด้วยอะไร และจะออกจากตำแหน่งอย่างไร และไม่อยากให้กรณีนี้เป็นบรรทัดฐานต่อไปในอนาคต เพราะรัฐบาลคงไม่ได้หยุดเพียงรัฐบาลนี้เท่านั้น เพราะกระบวนการเลือกตั้งและกระบวนการต่างๆ นั้นมีตามรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกสบายใจขึ้นหรือไม่ หลังรับฟังการอภิปรายของสมาชิกรัฐสภาตลอด 2 วัน โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า รู้สึกสบายใจ แต่ไม่สบายกาย เนื่องจากเจ็บหู.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูเชิญถกอาเซียน ยันไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยได้

พรรคภูมิใจไทย 19 ก.ย.- “อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูหาเชิญร่วมประชุมอาเซียน ยันไม่มีใครเคลียร์-แทรกแซงรัฐบาลได้ หลัง “ฮุน มาเนต” ขอมาเลเซียเป็นตัวกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อวานนายอันวาร์ได้โทรมาหา พูดคุยถึงการเชื้อเชิญว่า ถ้าหากตนได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้วคงจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนหน้า ส่วนการพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้ว นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด อีกทั้งตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงมีรัฐบาลรักษาการ เราให้เกียรติกัน “ผมรับตำแหน่งได้ ก็ต่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนเรื่องนโยบาย ข้อสั่งการ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เราก็ยังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร้องขอไปยังนายอันวาร์ เพื่อให้เข้ามาแทรกแซงการเจรจานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยและอธิปไตยของไทยได้ ส่วนเรื่องการพูดคุย นายอนุทิน ย้ำว่า เราสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกัน […]

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย

รวบยกแก๊ง 4 ชาวอังกฤษขับรถชิงทรัพย์ชาวอเมริกัน

ภูเก็ต 19 ก.ย. – วานนี้มีเหตุอุกอาจกลางเมืองภูเก็ต กลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถชนรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายก่อนลงไปชิงนาฬิกาหรู มูลค่ากว่า 2 ล้าน เช้านี้ตำรวจรวบผู้ก่อเหตุได้ครบ เชื่อวางแผนทำกันเป็นขบวนการ.-สำนักข่าวไทย

ไทยยึดหลักสากล จัดการปมบ้านหนองหญ้าแก้ว

กระทรวงการต่างประเทศ 19 ก.ย.- “อนุทิน” แจงประธานอาเชียน เหตุบ้านหนองหญ้าแก้ว ไทยยืนยันยึดหลักสากล จัดการปัญหา กัมพูชาขัดข้อตกลงหยุดยิง ใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ ไร้มนุษยธรรม ไม่สร้างสรรค์ บิดเบือนข้อเท็จจริง พร้อมเรียกร้องกัมพูชาแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหา นายนิกรเดช พลางกูล อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ที่มีการรื้อถอนสิ่งกีดขวางของฝ่ายไทย และมีการปะทะจนมีเจ้าหน้าที่ไทยได้รับบาดเจ็บ ซึ่งถือเป็นการทำผิดกฎหมายไทยหลายมาตรา โดยย้ำว่าที่ผ่านมาฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดทุกประการมาโดยตลอด ข้อตกลงนี้เป็นหมุดหมายสำคัญที่จะปูทางไปสู่สันติภาพ แม้สถานการณ์สงบลง แต่กัมพูชายังยั่วยุในรูปแบบต่างๆ ซึ่งขัดข้อตกลงหยุดยิง พร้อมย้ำว่าการวางเครื่องกีดขวางเสริมความมั่นคง เป็นการดำเนินการในอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยอดกลั่น และใช้เวลาชี้แจงกับประชาชนกัมพูชา แต่ไม่เป็นผล ที่สุดเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนของไทยต้องเข้าระงับเหตุตามหลักสากล ตามหลักมนุษยชนการปลุกระดมให้ประชาชนมาเป็นโล่มนุษย์ ขัดกฎหมายระหว่างประเทศ ไร้มนุษยธรรม ขาดความรับผิดชอบ ไม่สร้างสรรค์ และไม่ยึดถือประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนเป็นที่ตั้ง นอกจากนี้ ทั้ง 2 ประเทศให้คำมั่นหยุดยิงไปแล้ว แต่กัมพูชาเลือกเส้นทางจากต่างไทยโดยสิ้นเชิง ไทยมุ่งมั่นแสวงหาสันติภาพ ซึ่งต่างจากกัมพูชาที่แสวงหาความรุนแรง การวางรั้วลวดหนามของฝ่ายไทย เป็นไปเพื่อป้องกันการปะทะ และเพื่อสร้างความปลอดภัยของประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และเหตุความรุนแรงอาจนำไปสู่การสูญเสีย […]